การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี เกมบิ๊กแมทช์ “แดร์ คลาสซิเคอร์” ที่สนามอลิอันซ์ อารีน่า “เสือใต้” บาเยิร์นมิวนิค แชมป์เก่า เล่นในถิ่นตัวเองเจอกับ “เสือเหลือง” โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ในเวลา 00.30 น.ถ่ายทอดสดทาง พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 โดยมี “ไอ้บ้านนอก” เคลาส์ เอาเก้นธาเลอร์ อดีตปราการหลังทีมชาติเยอรมนี ชุดแชมป์โลก 1990 และตำนานลูกหนังของบาเยิร์นฯ ร่วมเป็นคอมเมนเตเตอร์
ความพร้อมในเกมนี้ “เสือใต้” ที่ปลด นิโก้ โควัช พ้นจากตำแหน่งเทรนเนอร์ และให้ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค รักษาการชั่วคราว พร้อมกับประเดิมชัยในการชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก คาดว่าจะจัดทัพชุดจากกลางสัปดาห์ลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 โดยให้ ฆาบี มาร์ติเนซ ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ ดาวิด อลาบา ส่วน เจอโรม บัวเต็ง ติดโทษแบน ขณะที่แดนกลาง เลออน โกเร็ตซ์ก้า จะได้เล่นกับ โยชัว คิมมิช โดยมี โธมัส มุลเลอร์ เดินเกม ทำให้ เฟลิปเป้ คูตินโญ่ กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ต้องสำรองไปก่อน ส่วนแนวรุก แซร์จ กนาบรี้ กับ คิงส์ลี่ย์ โกมาน จะเดินเกมริมเส้น และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ปักเป็นหอกเป้า
ฝั่งผู้มาเยือนรอลุ้น มาร์โก้ รอยส์ กัปตันทีมตัวเก่งที่บาดเจ็บข้อเท้า เช่นเดียวกับ จาดอน ซานโช่ ที่เจ็บจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีก คาดว่าน่าจะถูกเข็นลงทั้งคู่ แต่ถ้า รอยส์ ไม่พร้อมจริงๆ ยูเลี่ยน บรันด์ท จะได้เดินเกมรุกแทนเหมือนเมื่อกลางสัปดาห์
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ฆาบี มาร์ติเนซ, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวิส, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โจชัว คิมมิช - คิงส์ลี่ย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ กนาบรี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ดอร์ทมุนด์ : โรมัน เบือร์กี้ - อาชราฟ ฮาคิมี่, มานูเอล อคานจี, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิโก้ ชูลซ์ - อักเซล วิตเซล, โทมัส เดอลานี่ย์- จาดอน ซานโช่, มาร์โก้ รอยส์, ธอร์กกาน อาซาร์ และ ปาโก้ อัลกาเซร์
ก่อนลงสนามนัดนี้ ดอร์ทมุนด์ อยู่อันดับ 2 มีอยู่ 19 คะแนน ขณะที่ บาเยิร์นฯ มี 18 คะแนน จาก 10 นัด ส่วนการเจอกันทุกรายการที่ผ่านมา 124 นัด ปรากฏว่า บาเยิร์นฯ เหนือกว่าด้วยการชนะ 58 เสมอ 33 ดอร์ทมุนด์ ชนะ 33 โดยที่ บาเยิร์นฯ ยิงได้ 234 ประตู ดอร์ทมุนด์ ทำได้ 150 ประตู
ทางด้านศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สองทีมที่มีอยู่ 23 คะแนน
เท่ากัน มีโอกาสทำแต้มขึ้นไปอยู่รองจ่าฝูงเป็นการชั่วคราว เมื่อจะได้เล่นในบ้านทั้งคู่
ในเวลา 19.30 น.เชลซี ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ พบกับ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ แต่จะไม่มี จอร์จินโญ่ กองกลาง
คนสำคัญที่ติดแบน และต้องเช็คฟิต เมสัน เมาน์ท กับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ เจอกับผู้มาเยือนที่ลุ้น แกรี่ เคฮิลล์ กลับมาเยือนถิ่นเก่า รวมถึง เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, ชีคู กูยาเต้ และแอนดรอส ทาวน์เซนด์
ส่วน “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ เล่นในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ปะทะกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เวลา 00.30 น.โดยที่เจ้าบ้านฟอร์มกำลังพุ่งแรงชนะรวด 3 นัด ไม่มีปัญหานักเตะเจ็บ โดยเฉพาะแผงกลาง วินฟรีด เอ็นดีดี้ เป็นตัวตัดเกม และให้ เจมส์ แมดดิสัน, อโยเซ่ เปเรซ, ยูริ เตเลมองส์ และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ปักหอก
ฝั่ง “ปืนใหญ่” ที่ไม่ชนะมา 4 เกมรวดทุกรายการ ทำให้ อูไน อเมรี่ เก้าอี้ร้อน จะจัดระบบ 4-2-3-1 ลงเล่นโดยให้ อเล็กซงดร์ลากาแซตต์ ปักหอกเป้า แล้วขยับ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง เล่นริมเส้นซ้าย และนิโกลัส เปเป้ ยืนด้านขวา
สำหรับโปรแกรมคู่อื่นๆ มีดังนี้ 22.00 น. เบิร์นลี่ย์-เวสต์แฮม, นิวคาสเซิ่ล-บอร์นมัธ, เซาแธมป์ตัน-เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส-เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี