“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ฉลองการลงเตะนัดที่ 1,000 ในประวัติศาสตร์การเล่นระดับชาติได้อย่างสวยงาม เมื่อไล่ต้อน ทีมชาติมอนเตเนโกร ขาดลอย 7-0 คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 สำเร็จแล้ว
อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อขึ้นเมื่อ โจ โกเมซ ถูกแฟนบอลอังกฤษบางส่วนโห่ใส่ ในระหว่างที่เขากำลังจะลงสนาม คาดว่าจากเหตุการณ์ที่เขามีเรื่องกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกเพื่อนร่วมทีม ทั้งที่เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ราฮีม เป็นคนก่อเหตุก่อนทั้งหมด
ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า แฟนบอลไม่ควรจะทำเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคารพต่อนักเตะของประเทศตัวเอง และไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่แฟนบอลจะโห่ผู้เล่นที่สวมเสื้อทีมชาติตัวเองลงสนาม
ทั้งนี้เคยเกิดเหตุการณ์แฟนบอลอังกฤษ โห่ใส่นักเตะตัวเองแบบไม่น่าเชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง เริ่มจาก 29 พฤศจิกายน 1978 วิฟ แอนเดอร์สัน
ถูกโห่เพราะเป็นนักเตะผิวสีคนแรกที่ได้ลงเล่นทีมชาติ, ฟุตบอลโลก 2006 โอเว่น ฮากรีฟส์ ถูกโห่ในเกมกับ ปารากวัย เพราะไม่เคยลงเล่นในอังกฤษมาก่อน และ 18 สิงหาคม ปี 2004 คีรอน ดายเออร์ โดนโห่ใส่ นัดที่ อังกฤษ พบ ยูเครน ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค สนามนิวคาสเซิ่ล เพราะก่อนหน้านั้น ดายเออร์ ซึ่งสังกัดนิวคาสเซิ่ล ปฏิเสธลงเล่นเป็นแบ๊กขวาในเกมกับสโมสร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี