พายุถล่มซีเกมส์!
เลื่อนแข่งหลายกีฬา
ช้างศึกไทยจัดเต็มบู๊ลาว
แบดมินตันชิงทองอิเหนา
‘เมย์-รัชนก’นำทัพดวลแร็ก
กีฬาซีเกมส์ ป่วนพายุไต้ฝุ่น“คัมมูริ”จ่อถล่มฟิลิปปินส์ ประกาศเตือนรับมือ ส่งผลกระทบแข่งกีฬาซีเกมส์หลายประเภทเลื่อน ขณะทีมช้างศึกไทย ต้องชนะ ลาว เพื่อลุ้นต่อ “นิชิโนะ”รับพายุเข้ามีผลกระทบแน่ ด้าน“น้องเมย์ รัชนก”นำทัพทีมหญิงเข้าชิงขนไก่ เหรียญทองกับอินโดนีเซีย
นพรัตน์ มณีมงคล ผู้สื่อข่าวกีฬา รายงานการแข่งขันมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -11ธันวาคมนี้ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม ฟิลิปปินส์ได้มีการประกาศเตือนสัญญาหมายเลข 2 ให้เตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น “คัมมูริ” ที่กำลังก่อตัวในมหาสมุทรทางทิศตะวันออก และจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของฟิลิปปินส์ คาดว่าพายุดังกล่าวจะมีความเร็วตามกำลังลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งจะส่งผลกระทบในหลายเมืองของฟิลิปปินส์ รวมถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ซึ่งกำลังชิงชัยกันอยู่ในเวลานี้
โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ได้คาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของฟิลิปปินส์ เเละจะส่งผลให้เกิดฝนตกอย่างหนักตลอดทั้งสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันอังคารนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะบนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปินส์และเป็นสถานที่จัดการแข่งขันซีเกมส์ 2019 ซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ได้เตรียมแผนฉุกเฉินไว้สำหรับรับมือกับพายุไต้ฝุ่นแล้ว พร้อมกับได้ออกมาแจ้งเเละประกาศให้รับทราบเเล้วว่า ในบางสนามได้มีการตัดสินใจเลื่อนการเเข่งขันออกไปเเล้วเเละบางสนามจะมีการหยุดเเข่งขันชั่วคราว หรือปรับเปลี่ยนเวลาแข่งขันบางรายการ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้งนี้ สายการบินหลายสาย ภายในกรุงมะนิลา ก็ได้มีการยกเลิกเที่ยวบินในไฟลต์ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้แล้วเช่นกัน เพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุพายุไต้ฝุ่นดังกล่าว
บอลไทย ต้องชนะเพื่อลุ้นต่อ
ทัพ“ช้างศึก” ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามในรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 ดวลกับ ทีมชาติ ลาว ในวันอังคารที่ 3 ธ.ค. นี้ ที่สนาม รีซาล เมโมเรี่ยล ในเวลา 15.00น. เป็นต้นไป ช่อง 7HD ถ่ายทอดสด
โดยสถานการณ์เวลานี้ ไทย ที่มี 6 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัด รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลัง ทีมชาติ เวียดนาม อันดับ 1 ของกลุ่มที่มี 9 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อินโดนีเซีย ที่มี 6 คะแนนเช่นกัน ซึ่งหากทัพ “ช้างศึก” จะหวังเข้ารอบรองชนะเลิศ จำเป็นต้องชนะให้ได้ในทั้งสองเกมที่เหลืออยู่ พร้อมกับต้องยิงประตูคู่แข่งให้เยอะที่สุด เนื่องจากกฎการเข้ารอบกรณีที่แต้มมีเท่ากัน 3 ทีมนั้น จะนับไปที่ ประตูได้เสีย ก่อนการนับ เฮดทูเฮด
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ อากิระ นิชิโนะกุนซือชาวญี่ปุ่นได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนาม รีซาล เมโมเรียลซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ทางทีมได้แยกนักเตะออกเป็น2กลุ่มโดยผู้เล่นที่ลงสนามในเกมล่าสุดที่เอาชนะ สิงคโปร์ 3-0 เมื่อวันอาทิตย์จะฟื้นฟูร่างกายที่โรงแรม ส่วนอีก9คนที่เป็นตัวสำรองจะต้องเดินทางไปฝึกซ้อมตามปกติ ซึ่ง นิชิโนะ ได้เผยถึงความพร้อมของทีมในเวลานี้ว่าสภาพทีมไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
“ถึงตอนนี้ทุกคนยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องความพร้อมของสภาพทีมโดยรวมว่าใครจะพร้อมลงสนามบ้างแล้วเราจะใช้รูปแบบการเล่นไหนในการดวล ลาวเพราะไทยยังมีโปรแกรมอีก 2 นัด ขณะที่เรื่องการยิงประตูให้มาก ที่มีผลต่อการเข้ารอบนั้น เรื่องนี้ก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องชนะให้ได้ทั้งสองนัด “
“นิชิโนะ”รับพายุเข้ามีผลกระทบแน่
พร้อมกันนี้ นิชิโนะก็ได้เผยถึงเรื่องที่ ฟิลิปปินส์ มีการเตือนภัยเกี่ยวกับจะมีพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เข้าที่ฟิลิปปินส์ เรื่องนี้ กุนซือชาวญี่ปุ่น เผยว่า “โดยส่วนตัวก็มีความคุ้นเคยกับพายุไต้ฝุ่นอยู่แล้วเพราะที่ญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อย แต่ถ้าในแง่ของการแข่งขันก็จะกระทบเยอะแน่ๆ คงต้องมาเตรียมการรับมืออีกที”
สำหรับเกมนี้“ช้างศึก”จะได้”ยิม”วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เพิ่งได้ลงเป็นสำรองในเกมกับ สิงคโปร์ คืนสนามและคาดว่าจะได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นิชิโนะอาจปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อรักษาความสดก่อนจะลงเล่นเกมชี้ชะตาในนัดสุดท้ายที่จะดวลกับ เวียดนาม เอาไว้ด้วย
11ตัวจริงทีมชาติไทยที่คาดจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 มี ผู้รักษาประตู :นนท์ ม่วงงาม /กองหลัง ศฤงคาร พรมสุภะ,ชินภัทร์ ลีเอาะ(C), พีฬาวัช อรรคธรร, จตุรพัช สัทธรรม/กองกลาง ฉัตรมงคล ทองคีรี ,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ,เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กองหน้า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา , อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สิทธิโชค ภาโส
“เมย์”นำทัพทีมหญิงเข้าชิงขนไก่
การแข่งขัน แบดมินตันประเภททีมหญิง ซีเกมส์ 2019 รอบรองชนะเลิศ ณ สนาม มุนตินลูปา สปอร์ตส คอมเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เป็นการเจอกันระหว่างทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย ใครชนะ 3 ใน 5 แมตช์ก่อน จะได้เข้าไปชิงเหรียญทอง
ผลปรากฏว่าคู่แรก ทีมขนไก่ไทย ส่งเบอร์ 1 อย่าง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ลงดวลกับ ซู ยา ชี โซเนีย ของมาเลเซีย ปรากฏว่าไม่ใช่งานยากสำหรับ “น้องเมย์” เมื่อเอาชนะไปได้ก่อนสบาย 2-0 เกม 21-17, 21-14 พาทีมไทยขึ้นนำ 1-0 คู่ จากนั้นคู่สองเป็นคิวของประเภทหญิงคู่ “วิว” รวินดา ประจงใจ ผนึกกำลังกับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล ลงสนามเจอ กวน โชวเม่ย กับ ยีน ลี เมง ของมาเลเซีย ปรากฏว่าทีมไทยชนะไปอีก 2 เกมรวด 24-22, 21-18 ทิ้งห่างออกไป 2-0 คู่
และคู่ที่สาม”ครีม”บุศนันท์อึ๊งบำรุงพันธ์ ลงปะทะกับ กิโซนา เซลวาดูเรย์ ของแดนเสือเหลือง ปรากฏว่าคู่นี้ต้องสู้กันถึง3เกม โดยเป็นนักแบดมินตันสาวไทย พลิกสถานการณ์จากแพ้เกมแรก กลับมาหวดชนะ 2-1 เกม 15-21, 21-11, 21-12 ซึ่งผลที่ออกมาทำให้ทีมชาติไทย ชนะขาด 3-0เกมและได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นเหรียญทองสมัยที่4 ติดต่อกันเป็นที่เรียบร้อย จะชิงกับทีมชาติอินโดนีเซียวันที่3 ธ.ค.นี้
หญิงเดี่ยวเปลี่ยน”แน๊ต”แทน”ครีม”
หลังเกม คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศฯ กล่าวว่า ทีมหญิงถือว่าทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศอย่างอินโดนีเซียต้องยอมรับว่าเป็นงานที่หนักเหมือนกัน เพราะขนผู้เล่นมือดีมาเต็มทีม แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่านักกีฬาไทยจะสามารถคว้าแชมป์ได้
“ในประเภทบุคคลตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น เนื่องจากว่า “ครีม” บุศนันท์อึ๊งบำรุงพันธุ์ ได้เข้าแข่งซุปเปอร์ซีรีส์เวิลด์ ทัวร์ ไฟนัล เป็นครั้งแรกของเจ้าตัวและครั้งแรกที่ได้โควต้าหญิงเดี่ยว ดังนั้นทำให้ต้องส่ง “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล อันดับ 21 โลก ลงแข่งขันแทน แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะไปถึงแชมป์ได้”
ทางด้าน รัชนก กล่าวว่า การเล่นวันนี้พยายามตื่นตัวไม่ประมาทคู่ต่อสู้ ซึ่งก็ทำได้ดี ส่วนรอบชิงชนะเลิศกับอินโดนีเซียนั้นทุกๆ มือที่จะเจอกันมีโอกาสครึ่งต่อครึ่ง ยอมรับว่าอินโดนีเซียแข็งแกร่ง แต่จะพยายามเปิดหัวด้วยชัยชนะให้ได้ เพื่อให้เพื่อนมีกำลังใจในการเล่นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี