การแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ในวันที่30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมนี้ โดยทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะลงสนามในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ดวลกับ ทัพ ดาวทอง ทีมชาติ เวียดนาม ที่สนาม บีนาน สเตเดี้ยม ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. เวลา 15.00น. เป็นต้นไป ช่องเอ็นบีที11 ถ่ายทอดสด
โดยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่สนามริซาล เมโมเรียล อากิระ นิชิโนะ กุนซือทัพ “ช้างศึก” ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมท่ามกลางสภาพอากาศที่กลับมามีแดดอีกครั้ง หลังจากที่พายุ คัมมูริ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้แบ่งกลุ่มนักเตะเป็น 2 ชุด โดยชุดที่เพิ่งลงแข่งขันเอาชนะ ลาว 2-0 นั้นเข้าฟื้นฟูร่างกาย ส่วน ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงแข่งขันก็ลงฝึกซ้อมตามปกติ
ซึ่ง นิชิโนะ ได้เปิดใจก่อนลงสนามในเกมนัดสำคัญว่า “เราลงสนามต่อเนื่องมา 4 นัด นักเตะก็เริ่มจะมีอาการล้าสะสม และมีอาการบาดเจ็บบางคน แต่นัดสุดท้ายของรอบแรก ไม่มีทางเลือกคือต้องชนะเท่านั้น ใครที่พร้อมที่สุดก็จะต้องจัดลงไปให้หมด ก่อนหน้านี้นักเตะไทยอาจจะมีความกดดัน แต่จากชัยชนะกับทีมชาติลาว(2-0) ทำให้ตอนนี้ฮึกเหิม รวมถึงความพ่ายแพ้หนก่อนก็จะเป็นแรงจูงใจให้ทำผลงานในเกมนี้ให้ดี”
“ผมไม่สามารถการันตีว่าไทยจะยิงได้มากกว่า 2 ประตู แต่จะพยายามปลุกใจลูกทีมให้ยิงประตูแรกให้เร็วที่สุด” เกมนี้สภาพทัพ “ช้างศึก” จะไม่ต้องเจอปัญหาผู้เล่นติดโทษแบน หรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง นิชิโนะ จะได้ผู้เล่นชุดที่คาดว่าดีที่สุด หลังปรับทัพทุกเกมตลอด 4 เกมก่อนหน้านี้ ซึ่งจะมาในระบบ 4-2-3-1 โดยผู้รักษาประตู นนท์ ม่วงงาม จะยืนเฝ้าเสา ส่วนแนวรับประกอบไปด้วย พีฬาวัช อรรคธรรม ยืนแบ็กขวา พร้อมให้ ศฤงคาร พรมสุภะ กับ ชินภัทร ลีเอาะ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ และ ทิตาธร อักษรศรี เล่นแบ็กซ้าย ขณะที่แดนกลาง รัตนากร ใหม่คามิ จะเป็นห้องเครื่องร่วมกับ กฤษดา กาแมน ขณะที่แนวรุกนำทัพโดย สุภโชค สารชาติ พร้อมให้ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ฮีโร่จากเกมที่แล้วขึ้นเกมริมเส้น ส่วนกองหน้าตัวเป็าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด ที่พร้อมล่าตาข่าย
ขณะที่ ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือทีมชาติเวียดนาม เปิดเผยว่า “เราต้องลืมชัยชนะ 4 นัดที่ผ่านมาไปก่อน เพื่อกลับมามีสมาธิและมุ่งมั่นในเกมสำคัญนัดต่อไปที่จะเจอกับไทย ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นเกมที่ยากที่สุดของเรา แต่เราก็จะต้องผ่านไปให้ได้ เพื่อก้าวเข้าสู่รอบต่อไป” กุนซือชาวเกาหลีใต้กล่าว
ซึ่งเกมนี้ทัพ “ดาวทอง” จะต้องเจอปัญหาอย่างจัง เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เหงียน กวง ไฮ แนวรุกซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ชนะ สิงคโปร์ จนถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 22 ของเกม ซึ่งดาวเตะวัย 22 ปี ได้เดินทางเข้ารับการตรวจอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลในกรุงมะนิลา ก่อนจะพบว่า กล้ามเนื้อต้นขาฉีก ซึ่งมีสิทธิ์ชวดลงเล่นในแมตช์ที่เหลือของทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์ครั้งนี้ ขณะที่แข้งกำลังสำคัญรายอื่นๆอย่าง ดวน วาน เฮา ,โด ฮุง ดุง, หงียน ตรวง ฮวง และ เหงียน เทียน ลินห์ จะพร้อมลงสนามช่วยทีมทั้งหมด
สำหรับทีมชาติไทย กับ เวียดนาม เจอกันในฟุตบอลซีเกมส์มาแล้ว 19 ครั้ง เฉพาะใน 90 นาที ไทย ชนะถึง 9 ครั้ง เวียดนามชนะ 3 ครั้ง และเสมอ 7 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ เวียดนาม ชนะไทย ต้องย้อนไปเมื่อ 52 ปีที่แล้ว ในปี 1967ที่เวียดนาม ชนะ 5-0ส่วนครั้งล่าสุดเมื่อหนก่อน ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย นัดสุดท้ายรอบแรก ไทย ลงสนามด้วยเงื่อนไขต้องชนะ ก่อนจะถล่ม 3-0 เขี่ยทัพ “ดาวทอง” ร่วงตกรอบแรกไปได้
อย่างไรก็ตาม สถิติ ทีมชาติไทย ดวล ทีมชาติเวียดนาม ทุกรุ่นตลอดปี 2019 7 นัดที่ผ่านมา ปรากฏว่า ไทย นั้นไม่สามารถเอาชนะได้เลย แบ่งเป็น เสมอ 4 นัด และแพ้ 3 นัด นอกจากนี้ยังไม่สามารถยิงประตูได้ด้วย โดยรายละเอียดมีดังนี้ เดือนกุมภาพันธ์ ยู-22 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 รอบแบ่งกลุ่ม ที่กัมพูชา ทีมชาติไทย 0-0 เวียดนาม / เดือนมีนาคม ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก ที่เวียดนาม ทีมชาติไทย 0-4 เวียดนาม /เดือนมีนาคม รอบชิงชนะเลิศ รายการอุ่นเครื่อง ยู-19 ที่เวียดนาม ทีมชาติไทย 0-1 เวียดนาม / เดือนมิถุนายน ชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ 2019 ที่ไทย ทีมชาติไทย 0-1 เวียดนาม /เดือนสิงหาคม ยู-18 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่เวียดนาม ทีมชาติไทย 0-0 เวียดนาม /เดือนกันยายน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่ไทย ทีมชาติไทย 0-0 ทีมชาติเวียดนาม/ เดือนพฤศจิกายน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่เวียดนาม ทีมชาติเวียดนาม 0-0 ไทย
ด้านทีมฟุตบอลหญิงที่ได้เข้ารอบรองชนะเลิศแล้วนั้น “โค้ชก้าง” นฤพน แก่นสน พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ช นำทัพ “ชบาแก้ว” ชุดซีเกมส์ ลงฝึกซ้อมสนามหญ้าเทียมPFF National Football Centerก่อนลุยศึกซีเกมส์ครั้งที่ 30 รอบรองชนะเลิศ พบกับ เมียนมา ในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ ที่สนาม รีซาล เมโมเรียล ในเวลา 19.00น.
โดยการฝึกซ้อม ได้เน้นไปที่แทคติก และการเข้าทำ ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังการฝึกซ้อม กาญจนา สังข์เงิน กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติไทยกล่าวว่า “ส่วนตัวแล้วการเจอกับเมียนมา ไม่ใช่เรื่องยากหรือง่ายจนเกินไปเพราะเราค่อนข้างที่จะเจอกันบ่อย สถิติที่ผ่านมาเราชนะมากกว่าจึงไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ แต่ก็ประมาทไม่ได้เลย เพราะเขาก็ต้องการเป็นแชมป์ในรายการนี้เหมือนกันกับเรา เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ต้องเล่นให้รัดกุมทั้งเกมรุกและรับและยิงประตูให้ได้ค่ะ”
ปิดท้ายที่การแข่งขันโบว์ลิ่งประเภททีมชายคู่ ซีเกมส์ 2019 ที่สนาม โคโรนาโด กรุงมะนิลา โดยพลพรรคนักกีฬาโบว์ลิ่งทีมชาติไทย มีลุ้นเหรียญทองจาก จากคู่ของ สุรศักดิ์ มานุวงศ์ กับ อัจฉริยะ เช็ง และ อรรณพ อารมณ์สราญนนท์ จับคู่ ญาณพล ลาภอาภารัตน์เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์1 สมัยปรากฏว่ารอบชิงชนะเลิศ โยน6 ครั้ง สุรศักดิ์ กับ อัจฉริยะ โยนรวมกันได้ทั้งหมด 2,564 แต้มแต่ไม่เพียงพอหยิบเหรียญทองหลังคู่หูของอินโดนีเซีย โยนรวมกันได้ดีกว่า 2,592 แต้ม ได้เหรียญทองไปครอง ส่วนคู่ของไทยได้เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงเป็นคู่หูมาเลเซียส่วนรายของอรรณพ อารมณ์สราญนนท์ กับ ญาณพล ลาภอาภารัตน์ โยนรวมกันได้ไปทั้งหมด 2,397 แต้มได้แค่อันดับ 7
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี