ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ยังทำเหรียญทองเพิ่มอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายศึกซีเกมส์ โดยทำได้มากกว่า 70 เหรียญทองไปแล้ว และขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 รองจากเจ้าภาพเท่านั้น ด้านทีมนักชกไทยทำได้ดีเกินเป้าที่วางไว้ “เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักเทควันโดสาวไทยโชว์ผลงานสุดยอด สยบคู่แข่งขาดลอย ขณะที่“อีสปอร์ต”คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์
นพรัตน์ มณีมงคล ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า รายงานการแข่งขันมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 จากประเทศ ฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค. ล่าสุด“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ยอมรับทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ไม่ตามเป้า 121 เหรียญทองที่ตั้งเอาไว้ แต่ยังมั่นใจจะเร่งเครื่องขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของตาราเหรียญรวม เป็นรองแค่เจ้าภาพอย่างแน่นอน
โดยเวลานี้การแข่งขันซีเกมส์ นั้นเดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย และกำลังจะมีพิธีปิดในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมาทัพนักกีฬาทีมชาติไทย นั้นยังทำเหรียญทองเพิ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมเขยิบขึ้นมาทะลุ 70 เหรียญทองไปแล้ว โดยในเรื่องนี้ “บิ๊กก้อง”เชื่อมั่นในทัพนักกีฬาไทยว่าจะเร่งเครื่องติดในช่วงท้าย
“อย่างที่เราทราบกันดีว่า ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เก็บเหรียญทองทิ้งห่างไปไกล และคงเป็นเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้ ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ด้วยเพราะจัดกีฬาที่ถนัด ชิงเหรียญมากมาย ทำให้ได้เปรียบชาติคู่แข่ง อย่างไม่ต้องสงสัยอย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักกีฬาไทยเรานั้น ยอมรับว่า ช่วงแรก ๆ อาจจะทำเหรียญไม่ได้มาก เพราะยังเป็นกีฬาที่เจ้าภาพถนัดเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อผ่านครึ่งทางหลังมา เข้าสู่กีฬาสากล เป็นหลัก ทำให้ผลงานของไทยดีขึ้นมามาก ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่า ทัพไทย จะเร่งเครื่องในช่วงโค้งสุดท้าย และมีโอกาสที่จะขยับขึ้นมาไปเป็นอันดับ 2 ในตารางเหรียญรวม และเป็นอันดับ 1 ในตารางเหรียญเฉพาะกีฬาสากล”
“100 เหรียญทองที่เราวางไว้ ต้องยอมรับว่าคงไม่ได้ตามเป้า แต่ในส่วนของกีฬาสากล ที่ได้เน้นย้ำไป นักกีฬาไทยน่าจะทำผลงานได้ดีในช่วงท้าย ก็ขอส่งแรงใจ ขอให้นักกีฬาอย่าท้อ สู้ให้สุดความสามารถ ชาวไทยเป็นกำลังใจให้อยู่” ผู้ว่าการกกท. กล่าว
ขณะเดียวกันในการแข่งขัน มวยสากล ที่ขุนพลกำปั้นทีมชาติไทยทั้ง ชาย และ หญิง ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ชิงเหรียญทองถึง 7 รุ่น ที่สังเวียน พีไอซีซี ฟอรั่มเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา เริ่มจาก รุ่นแบนตั้มเวท 54 กก.หญิง“น้องเมษา” นิลาวัลย์ เตชะสืบ ดวลกับ เหงียน ฮยา เวียดนามยกแรก นิลาวัลย์ ยังคงดูเชิงและหาจังหวะออกหมัดหนึ่งสองเข้าเป้า ยกสองกำปั้นไทยยังคงออกหมัดน้อย แต่ก็ยังชกเข้าเป้าตลอด ก่อนที่ในยกสุดท้ายแม้ว่า กำปั้นเวียดนาม จะออกหมัดเยอะกว่า แต่ไม่ค่อยเข้าเป้า ครบ3ชก กรรมการให้ นิลาวัลย์ เอาชนะไปด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 5-0 เสียง คว้าเหรียญทองแรกได้สำเร็จ
รุ่นฟลายเวท 52 กก. ชาย อมฤต เยาว์ดำ ดวลกับ โรเกน ลาดอน กำปั้นเจ้าถิ่นฟิลิปปินส์ยกแรก เป็นฟิลิปปินส์ ที่เปิดฉากบุกรัวหมดเข้าใส่ อัมฤต ก่อนที่ยกสอง ลาดอน จะฮุกหมัดจน อัมฤต คิ้วแตก ส่วน อัมฤต ก็พยายามหาจังหวะสวนกลับต่อยคืนไปบ้าง เข้าสู่ยกสุดท้าย อมฤต ไม่มีอะไรจะเสีย ออกหมัดเป็นชุด หวังทำคะแนนคืนมาบ้างแต่เมื่อครบสามยก กรรมการยกมือให้ กำปั้นฟิลิปปินส์ เอาชนะไปแบบเอกฉันท์ 5-0 คะแนนทำได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น
จากนั้นรุ่นแบนตั้มเวท 56 กก.ชาย “เจ้าสด” ฉัตย์ชัยเดชา บุตรดี - เหงียน วาน ดวง กำปั้นเวียดนามเริ่มมายกแรก “เจ้าสด” ออกหมัดด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะซัดกำปั้นเวียดนาม ลงไปนับ 8 ได้ด้วย เข้าสู่ยกสอง กำปั้นไทย ยังเดินเครื่องต่อ ฮุกขวาเข้าหน้าท้องอยู่หลายครั้งและเหนือกว่าชัดเจน ก่อนที่ในยกสุดท้าย ฉัตรชัย จะออกหมัดซ้ายเข้าไปที่คิ้วของกำปั้นเวีดยนามจนแตก ก่อนครบ3ยก กรมมการให้ ไทย เอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 5-0 เสียง ซึ่งหลังจากชก “เจ้าสด” ก็ได้ประกาศเลิกชกซีเกมส์นับจากนี้ หลังจากชกมาแล้วถึง 6 สมัยและคว้าไป 4 เหรียญทอง พร้อมกันนี้ก็จะแขวนนวมหลังจบ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปีหน้าด้วย
รุ่นเวลเตอร์เวท 69 กก.ชาย “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข - มาร์ยอน เปียน่า ฟิลิปปินส์ เริ่มยกแรก เจ้าเอ็ม ทำได้ดีออกหมัดเข้าเป้าแม่นยำ พร้อมกับหลบหลีกกำปั้นคู่แข่งได้ด้วย ยกสองทั้งสองฝั่งออกหมัดแลกกันอย่างสนุก จนกระทั่งในยกสุดท้าย วุฒิชัย ยังออกกำปั้นด้วยความมั่นใจเข้าเป้าหลายครั้ง ก่อนที่ครบ 3 ยก กรรมการจะยกมือให้ วุฒิชัย เป็นฝ่ายเอาชนะไปอย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0 เสียงคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 81 กก. ชาย อนวัช ถองกระโทก ดวล ฮอง ดิน ตรวง จากเวียดนาม ผลปรากฏว่าตลอดทั้ง 3 ยก กำปั้นไทย ออกหมัดเข้าเป้าหลายต่อหลายครั้ง ก่อนครบ 3 ยก จะเอาชนะไปได้ไปแบบเอกฉันท์ 5-0 คะแนน คว้าเหรียญทองได้อีกเหรียญ
อนึ่งก่อนมาแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าว่ากำปั้นไทย จะเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ด้วยการคว้า 5 เหรียญทอง จากชาย 3 รุ่นและหญิง 2 รุ่น จากการส่งมาแข่งขันรวมทั้งสิ้น 10 รุ่น
ทางด้าน การแข่งขันเทควันโด ซีเกมส์ ที่ริซาล เมโมเรียล สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ทัพจอมเตะไทยยังลงทำการแข่งขันอีก 5 รุ่น หลังจากคว้าไปแล้ว 2 เหรียญทองเมื่อวันอาทิตย์ ไฮไลท์อยู่ที่ รุ่น 49 ก.ก.หญิง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์โลกคนล่าสุด ลงทำการแข่งขันโดยได้บายในรอบแรกเริ่มแข่งจากในรอบ 8 คนสุดท้าย ดวลกับ อากีล่า รามาดานี่ จากอินโดนีเซีย โดย “เทนนิส” เอาชนะไป 36 -0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกมาดวลอู ดาห์ซี่ จูเลียส จากเมียนมา จอมเตะสาวไทยยังเอาชนะไปได้แบบขาดลอย 51-0 เข้าสู่รอบชิงเหรียญทองดวลกับ รีห์ซ่า อารากอน จอมเตะเจ้าถิ่น
ผลปรากฏว่าเริ่มมายกแรก เทนนิส เตะสูงโดนหัวไปถึง 2 ครั้งได้ไป 6 คะแนนเต็ม ก่อนจะจบยกแรกขึ้นนำ 7-2 มาที่ยก 2 เทนนิส ยังออกชั้นเชิงได้เหนือกว่าอย่างขัดเจนก่อนทำแต้มขาดที่ 19-2 เข้าสู่ยกสุดท้าย จอมเตะไทย ยังทำผลงานได้สมราคาเต็งแชมป์ ก่อนเอาชนะไปได้ขาดลอย 35 -2 คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ นับเป็นการคว้าทองของ ภานิภัค ในซีเกมส์ 2 สมัยติดต่อกันด้วย
ส่วนอีกหนึ่งเหรียญทองของไทยในเทควันโด ได้มาจาก รุ่น 46 กก. หญิง จุฬานันท์ ขันติกุลานนท์ เอาชนะ อนา ดาซิลวา ดาคอสต้า ขาดลอย 23-0
ปิดท้ายที่กีฬาประเภทใหม่ที่ได้รับบรรจุเข้าแข่งขันใน ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก อย่าง อีสปอร์ตเกม ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ ฟิลออยล์ ฟลายอิง วี เซ็นเตอร์ เป็นการแข่งขันในเกม อารีน่า ออฟ วาลอร์ หรือ ROV ที่คนไทยรู้จัก โดย ทีมชาติไทย ผ่านเข้ามาถึงรอบแกรนด์ไฟนอล ซึ่งแข่งแบบ 3 ใน 5 เกม ดวลกับ อินโดนีเซีย ผลปรากฏว่า เป็นฝ่ายไทย ที่ระเบิดฟอร์มเอาชนะไปได้ขาดลอย 3-0 เกม คว้าเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ของวงการอีสปอร์ตในซีเกมส์ได้สำเร็จ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี