สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าวความพร้อมของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (2020 AFC U-23 Championship) ขึ้น ณ ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย
โดยงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พร้อมด้วยตัวแทนนักฟุตบอล เข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้
อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทยกล่าวว่า “แผนที่วางไว้ เราอยากให้นักกีฬาได้พักฟื้นร่างกายอย่างน้อย 10 วัน และมารวมตัวกันอีกครั้งใน
วันที่ 26 ธันวาคมนี้ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น เราก็จะดูสภาพร่างกายของทุกคนอีกครั้ง ตอนนี้ หลายสโมสรก็เริ่มเก็บตัวสำหรับฤดูกาลหน้าแล้ว แต่บางสโมสรก็ยังต้องประเมินรายบุคคลอีกครั้ง ตอนนี้ก็อยากให้ทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังพิจารณาว่าจะเรียกนักกีฬามาทั้งหมดกี่คน”
“สำหรับนักเตะที่จะเรียกมา ก็น่าจะเพิ่มเติมจากชุดซีเกมส์ เพื่อขอดูตอนซ้อมว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง และจะมีการตัดสินใจอีกครั้ง ถ้าตอบตรงเลยๆ คือเราน่าจะมีการเรียกในทุกตำแหน่ง ทั้งกองหลัง กองกลาง และกองหน้า ซึ่งเรามีจุดที่ต้องปรับปรุงมากมาย ในการเก็บตัวครั้งนี้ เราเลยต้องเรียกเพิ่มทุกตำแหน่ง”
“เราเองก็วางแผนสเกาท์คู่ต่อสู้ไว้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการวางแผนกับผู้ช่วยโค้ช เกี่ยวกับวิธีการสเกาท์คู่ต่อสู้แต่ละทีม ซึ่งหลักๆ ก็คือ บาห์เรน คู่ต่อสู้ทีมแรก ส่วนทีมอื่นๆ เราก็ค่อยมาดูในทัวร์นาเมนท์อีกครั้ง ถ้าพูดตามตรง หากมีผู้ช่วยโค้ชชาวญี่ปุ่น เข้ามาการทำงานก็คงราบรื่น แต่เป้าหมายสำคัญการรับตำแหน่งนี้ ก็คือการพัฒนาผู้ฝึกสอนชาวไทย ณ ตอนนี้ เรายังขอยึดรูปแบบเดิม คือการใช้ผู้ช่วยโค้ชชาวไทยทั้งหมด”
“ตอนที่ผมพาญี่ปุ่นไปเล่นโอลิมปิกได้ช่วงนั้น ญี่ปุ่นได้พัฒนาโครงสร้างฟุตบอลให้มีความมืออาชีพมากขึ้น และพยายามหาวิธี จนประสบความสำเร็จ และการคุมทีมครั้งนี้ ผมก็รู้สึกแบบนั้น”
“ความท้าทายในครั้งนั้นกับญี่ปุ่น และความท้าทายในครั้งนี้กับทีมชาติไทย ก็ค่อนข้างคล้ายกัน เราเป็นเจ้าภาพ เชื่อว่าเสียงเชียร์จะเป็นแรงผลักดัน มากกว่าแรงกดดัน ในรอบคัดเลือก เราทำผลงานได้ไม่ดี เราเข้ารอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ ฉะนั้นตรงนี้ เรายังมีการบ้านที่ต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง”
ขณะที่ กรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมฯ ทกล่าวถึงความพร้อมของการจัดการแข่งขันว่า “วันนี้ผมยินดีที่จะร่วมประกาศถึงความพร้อมของการเป็นเจ้าภาพของเราอีกครั้ง โดย ณ ตอนนี้ ทั้ง4 สนาม อันประกอบไปด้วยสนามราชมังคลากีฬาสถานและสนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา และสนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม หรือช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีความพร้อมที่จะจัดการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์สำคัญครั้งนี้แล้วเกือบ 100% ซึ่งผมคิดว่าหลังจากนี้คงมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมในส่วนที่จำเป็นอีกบางส่วนเพื่อให้ทันตามกำหนดการอย่างแน่นอน”
“สำหรับทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ของเรา รายการนี้ถือว่าเป็นรายการที่สำคัญ และทางสมาคมฯ ตั้งความหวังให้ทัพช้างศึกชุดนี้ สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม โดยสมาคมฯ มั่นใจว่าเราจะสนับสนุน และผลักดันในทุกๆ ด้านให้ทางโค้ช อากิระ นิชิโนะและน้องๆ นักฟุตบอลทุกคนมีความพร้อมที่สุดในการแข่งขัน เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนฟุตบอลไทยเป็นของขวัญปีใหม่ในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้”
“การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทางสมาคมฯ และประเทศไทย ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของเรา ที่จะได้บอกทั้งทวีปเอเชียว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติได้ ซึ่งผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ เชิญชวนพี่น้องแฟนบอลทุกๆ ท่าน ร่วมให้กำลังใจทีมชาติไทยของเรา ช่วยกันส่งแรงเชียร์ให้ทัพช้างศึกประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ครับ”
สำหรับทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม เอ ร่วมกับ อิรัก, ออสเตรเลีย และ บาห์เรน โดยโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย มีดังนี้ ไทย พบ บาห์เรน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 8 มกราคม 2563เวลา 20.15 น., ออสเตรเลีย พบ ไทย ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 20.15 น., ไทย พบ อิรัก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 14 มกราคม 2563 เวลา 20.15 น.
ผู้ที่สนใจ เข้าชมสามารถซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ซื้อบัตรได้ที่ bit.ly/AFCU23
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี