ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ประจำวันเสาร์นี้่จะมีลงสนามฟาดแข้ง 7 คู่ โดย 3 ทีมที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์ในเวลานี้อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ,ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงสนามทั้งหมด โดยปรีวิวมีดังนี้
00.30 น. นอริช ซิตี้ - สเปอร์ส : “ไก่เดือยทอง” ที่มีลุ้นเบียดขึ้นอันดับ 4 ของตารางหากชนะในเกมนี้ โดยสภาพทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เกมนี้จะยังไร้ ซอน เฮือน มิน ดาวยิงหัวร้อนที่ติดโทษแบน รวมไปถึงแข้งที่้เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง อูโก้ ยอริส, เอริคลาเมล่า และ เบนเดวีส์ ที่ยังไม่หายเจ็บทั้งหมด ส่วนแข้งตัวหลักทั้ง ดาวิดอนซานเชซ, เดเล อัลลี่, ลูคัส มูร่า และ แฮรืรี่ เคน จะพร้อมลงสนามทั้งหมด ทางฝั่งเจ้าถิ่นที่รังบ๊วยของตาราง เกมนี้ต้องฝากความหวังแนวรุกไว้ที่ ท็อดด์ คานท์เวลล์, เอมิเลียโน่ บวนเดีย และ เคนนี่ แม็กลีน รวมไปถึง ติมูปุ๊คกี้ ดาวยิงคนสำคัญ
00.30 น. เวสต์แฮม - เลสเตอร์ ซิตี้: ทัพ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ที่เพิ่งเมาหมัดพ่าย ลิเวอร์พูล คารัง 0-4 เกมนี้ เบรนแดนร็อดเจอร์ส จำเป็นต้องปรับทัศนคติลูกทีมโดยด่วน โดยสภาพทีมแข้งตัวหลักจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยแนวรุกจะฝากความหวังเอาไว้ที่ เจมส์ แมดดิสัน, อโยเซ่ เปเรซ และ เจมี่ วาร์ดี้ ส่วนขุนค้อน ที่ยังร่อแร่รั้งอันดับ 17 ของตารางเวลานี้ เกมนี้จะได้ เฟลิปเป้อันแดร์สัน แนวรุกคนสำคัญกลับมาช่วยทีม ผนึกกำลังกับ โรเบิร์ต สน็อตกลาส, มิเกลอันโตนิโอ และ เซบาสเตียน ฮัลแลร์
02.45 น. เบิร์นลีย์ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : “ปีศาจแดง” ที่กลับมาสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังถล่มเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-1 ในเกมล่าสุด เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือของทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน สก็อตตแม็คโทมิเนย์ ห้องเครื่องคนสำคัญที่ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงแข้งที่เดี้ยงก่อนหน้านี้ทั้ง เอริค ไบยี่, มาร์กอส โรโฮ จะยังไม่พร้อมลงทั้งหมด โดยแนวรับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะยืนคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ จะเป็นคู่แนวรับ ส่วนแดนกลาง ปอล ป็อกบา จะเป็นห้องเครื่องร่วมกับเฟร็ด โดยมี เจสซีย์ ลินการ์ด กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนแนวรุกนำทัพโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด, ดาเนี่ยล เจมส์ และ อองโตนี่มาร์กซิยาล
ทางฝั่งเจ้าถิ่น เบิร์นลีย์ ที่พ่ายนัดล่าสุดเกมนี้ สภาพทีมจะขาดเพียง เบน กิ๊บสัน เพียงคนเดียวเท่านั้น พร้อมกับจะได้ อาร่อน เลนน่อน แนวรุกตัวจิ๊ดกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ส่วนแนวรุกจะฝากความหวังเอาไว้ที่ แอชลีย์ เวสต์วู๊ด, แอชลีย์บาร์นส์ และ คริส วู๊ด
ขณะเดียวกัน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เผยว่าไม่ใส่กับจำนวนคะแนนที่ทีมนำในตอนนี้ พร้อมย้ำว่าจะเล่นอย่างเต็มที่ทุกนัดเพื่อคว้าชัยมาครองให้ได้
โดย “หงส์แดง” เพิ่งบุกไปถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดบ๊อกซิ่ง เดย์ เมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล นำห่างไปเป็น 13 แต้มแล้วในตอนนี้ อย่างไรก็ตามกุนซือชาวเยอรมันย้ำว่าความห่างของคะแนนดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญ และตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลงสนามและคว้าชัยออกมา
“เราไม่ได้ถึงถึงมัน ไม่เลย เราไม่ได้สนใจถึงมันเลยในช่วงก่อนเกมเพราะมันไม่น่าสนใจ ผมสามารถเขียนเรื่องราวด้วยตนเอง เรื่องแรกคือประวัติศาสตร์ฟุตบอล อย่างน้อยก็ฟุตบอลอังกฤษ ที่มีทีมที่นำห่างอย่างมากและเสียตำแหน่งจ่าฝูง ดังนั้น ทำไมเราถึงต้องมาคิดอะไรแบบนั้นด้วย เราแค่โฟกัสไปที่เกมต่อไป อย่างที่ผมเคยพูด ในอีก 5 เกมต่อไปเราดวลกับ วูล์ฟส์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน,ท็อตแน่ม, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราต้องดวลกับทุกทีมและเราพยายามในการเอาชนะเพื่อให้เราพร้อม จำนวนตัวเลขเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี