“ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน” ส่งผลให้คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนเป็นจำนวนมาก และเป็นอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในรอบระยะเวลา 1-2 ปีมานี้ ทั้งนี้แหล่งกำเนิดหรือสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ได้แก่ การก่อสร้าง ควันรถ สภาพอากาศ การเผาในที่โล่งแจ้ง โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก รวมถึงเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ PM2.5 ให้มากขึ้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศดังกล่าว
คำว่า PM (พีเอ็ม) ย่อมาจาก Particulate Matters (พาร์ทิคิวเลทแมทเทอร์) เป็นคำเรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีหน่วยวัดคือ ไมครอน หรือไมโครเมตร แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ PM10 และ PM2.5 โดยฝุ่น PM2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมหาศาลจะมองเห็นเป็นหมอกควันอย่างที่เราเห็นกันในทุกๆ เช้านั่นเอง
ฝุ่น PM2.5 ถือเป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ตามที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญ และออกมาแจ้งเตือนให้ทราบ เพราะเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก (เล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า) ไม่มีกลิ่น เมื่อหายใจเข้าไปแล้ว ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาเฉพาะที่ปอดหรือระบบทางเดินหายใจเท่านั้น แต่ฝุ่น PM2.5 ยังสามารถซึมผ่านเข้าสู่เส้นเลือดรวมทั้งผ่านเข้าทางเส้นประสาทการรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูก และผ่านเข้าไปยังสมองโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในสมองมีการหลั่งสารอักเสบชนิดต่างๆ ทำให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บเกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าปกติ ซึ่งปัญหาของมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานนี้ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังพบตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพกระจายเป็นวงกว้าง
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกหรือ WHO พบว่า ในทุกปีมีประชากรถึง 7 ล้านคน เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากการได้รับมลพิษทางอากาศ จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นผู้ที่มีโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดอาการกำเริบ สำหรับผลในระยะยาวจะทำให้การทำงานของปอดถดถอย อาจเกิดโรคถุงลมโป่งพองได้ แม้ว่าจะไม่สูบบุหรี่ก็ตาม นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดมะเร็งปอดได้อีกด้วย
ข้อแนะนำและวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5
l ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
l หลีกเลี่ยงการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง เช่น การเผาพื้นที่เพื่อเตรียมการทำเกษตรกรรม การเผาขยะ หรือวัสดุเหลือใช้ เป็นต้น
l ควบคุมกระบวนการก่อสร้างให้มีฝุ่นน้อยที่สุด
l ออกกำลังกายในที่ร่ม หรือที่ที่ฝุ่นน้อย และไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกกำลังกาย
l รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในป้องกันอันตรายที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 เช่น วิตามินซี ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดปัญหาจากภูมิแพ้ต่อระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกายจากการได้รับฝุ่นละออง PM2.5
l ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกข้างนอกบ้าน หรือที่โล่งแจ้ง แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยชนิดที่เรียกว่า “เอ็นเก้าห้า (N95)” โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจเรื้อรัง เพราะสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดี
l สำหรับคนทั่วไปอย่างน้อยให้ใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
จากปัญหาดังกล่าวที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ทำให้มีหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยหันมาให้ความสำคัญและจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น ประเทศฝรั่งเศส สนับสนุนให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น โดยไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัววิ่งในย่านศูนย์กลางเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ ประเทศเกาหลีใต้ อนุมัติให้ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินในเกาหลีใต้ 8 แห่งชั่วคราว เพื่อลดมลพิษทางอากาศ โดยในปีที่ผ่านมารัฐบาลสั่งปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเหล่านี้เป็นเวลา 4 เดือน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และมีแผนการจะปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงเก่าถาวรภายในเดือนพฤษภาคมปี พ.ศ.2563 เพื่อลดมลพิษทางอากาศและทำตามข้อตกลงปารีส เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง แม้ว่าในปัจจุบันโรงไฟฟ้าถ่านหินเหล่านี้ผลิตไฟฟ้าให้กับประเทศถึงร้อยละ 40 ก็ตาม
สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ที่จะมีแนวทางแก้ปัญหาใน 3 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤติ) มาตรการที่ 2 การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกําเนิด) การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น (ปี 2562-ปี 2564) และระยะยาว(ปี 2565-ปี 2567) และมาตรการที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น (ปี 2562-ปี 2564) และระยะยาว(ปี 2565-ปี 2567)
อ้างอิงและเรียบเรียง : https://www.honestdocs.co/pm-2-5-environmental-nano-pollutants
https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/pm25-and-staggers
https://www.greenpeace.org/thailand/story/2134/tackle-air-pollution-around-the-world/?gclid=EAIaIQobChMI-5CI4I-C5wIV1Y-PCh0DcwfSEAAYASAAEgKKb_D_BwE
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000095605
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี