สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้จัดงานประชุมผู้จัดการทีม ของสโมสรสมาชิกระดับไทยลีก 1-4 ในฤดูกาล 2020 และเซ็นสัญญาความร่วมมือระหว่าง สมาคมฯ กับ IFAB ในเรื่องของการใช้ระบบวีดิทัศน์เพื่อช่วยในการตัดสิน (VAR)ขึ้น
โดยงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณกรวีร์ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมฯ,คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ, พล.ต.ท.อำนวยนิ่มมะโน โฆษกสมาคมฯ และประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท,มร.เบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการคลับ ไลเซ่นซิง, เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการเทคนิคของ IFAB, วิทยากรจากสมาคมฯ,ไทยลีก และผู้จัดการจากสโมสรในระดับไทยลีก 1-4 เข้าร่วม
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “สวัสดีผู้จัดการทีมของสโมสรระดับไทยลีก 1-4 ทุกท่าน ก่อนอื่น ผมต้องขอบคุณทุกสโมสร ที่ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยให้ฟุตบอลลีกของไทยประสบความสำเร็จด้วยดี ในฤดูกาล 2562 ที่ผ่านมา”
“ลีกของเรา ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของเอเชีย พร้อมกับได้โควตาไปเล่น เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2021 เป็น 2+2 ทีม ขณะที่ในเรื่องของผู้ชมไทยลีก 1 ก็มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 5,707 คนต่อเกมนอกจากนี้ ไทยลีก ยังได้โควตาเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน2 ทีมอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากสโมสรสมาชิกทุกท่าน ที่ทำให้ฟุตบอลไทยเติบโตอย่างยั่งยืน”
“ขณะเดียวกัน การทุจริตผลการแข่งขัน ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ในวงการกีฬาระดับอาชีพ ถ้าเราเปิดช่อง หรือไม่ระมัดระวัง ดังนั้น สมาคมฯ จึงมีมาตรการป้องกัน ให้ความรู้ รวมถึงการดำเนินคดีอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเราหยุดนิ่ง เท่ากับว่าเราปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เข้ามาในวงการฟุตบอลไทย”
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงนายกสมาคมฯ พร้อมด้วย เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการเทคนิคของ IFAB เซ็นสัญญาความร่วมมือระหว่าง สมาคมฯ กับ IFAB ในเรื่องของการใช้ระบบวีดิทัศน์เพื่อช่วยในการตัดสิน (VAR) ที่จะใช้แบบเต็มรูปแบบในศึกไทยลีก ฤดูกาลนี้
“อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมีความหวังว่า ในปีนี้จะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง ในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการฟุตบอลไทยร่วมกัน ซึ่งวันนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมาย
อันดี ที่ทุกท่านจะได้เป็นสักขีพยาน ในโอกาสที่ ไทยลีก ได้รับการรับรองจาก IFAB ให้สามารถใช้ VAR อย่างเต็มรูปแบบ เป็นชาติแรกในอาเซียน ในฤดูกาล 2020 ที่กำลังจะมาถึง”
“แน่นอนว่า VAR นั้นถือเป็นเรื่องยากในการนำมาใช้ เนื่องจากมีกระบวนการหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น ความพร้อมของสนาม, ระบบสัญญาณ, ราคาที่สูง รวมถึงบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ แต่สมาคมฯ และไทยลีก ก็ยินดีนำระบบนี้เข้ามา เพื่อที่จะยกระดับมาตรฐานฟุตบอลไทย โดยจะร่วมมือกับ IFAB ในการพัฒนาผู้ตัดสิน VAR อย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่ มร.เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB กล่าวว่า “นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทยที่ได้ใช้งาน VAR ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นชาติแรกของอาเซียน ที่ลีกอาชีพอย่าง ไทยลีก 1 จะได้ใช้งาน VAR ในฤดูกาลที่จะถึง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สมาคมฟุตบอลของไทย ได้ทำงานอย่างหนัก และประเทศไทยถือเป็นประเทศชั้นนำของเอเชีย จากการได้ใช้งาน VAR”
“อย่างที่นายกสมาคมฟุตบอลไทยได้เรียนให้ทราบ ความยุติธรรมของการตัดสินเป็นสิ่งสำคัญ การนำ VAR มาใช้ จะทำให้การตัดสินมีความบริสุทธิ์ และไร้ซึ่งข้อกังขา วันนี้ ผมเองก็จะมาอธิบายหลักการใช้งาน VAR ในฤดูกาลที่จะถึงพร้อมแสดงตัวอย่าง จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพให้ชม”
โดยในงานประชุมผู้จัดการทีมครั้งนี้เป็นการบรรยายของทางวิทยากรจากสมาคมฯ และไทยลีก มีการพูดคุยเรื่องการป้องกันทุจริตผลการแข่งขันในเกมฟุตบอล และพูดคุยถึงเรื่องระเบียบการแข่งขัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ ที่กำลังจะมาถึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี