สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บรรลุข้อตกลงต่อสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ออกไปอีก 2 ปี โดยจะทำหน้าที่ทั้งทีมชุดใหญ่ และ ทีมชุดยู-23 เช่นเดิมตั้งเป้าสานฝันไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้ในปี 2026
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 เวลา 11.00 น. ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ มร.การ์เลสโรมาโคซา ผู้อำนวยการเทคนิคฯ เพื่อรายงานผลการแข่งขันและสรุปผลงานของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย
โดย อากิระ นิชิโนะ ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่ว่าการเจรจาต่อสัญญาลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งจากสัญญาเดิม จะหมด ม.ค.นี้ ตอนนี้ก็ได้เวลาพูดคุยพอดี ซึ่งตนยังเป็นเฮดโค้ชชุดใหญ่ และยู-23 ทั้ง 2 ชุด อยากเป็นส่วนหนึ่งในการที่สมาคมตั้งเป้า ไปฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ซึ่งทีม 23 ปี ก็ทำผลงานดี อยากจะต่อยอด ทั้งนี้ เบื้องต้นยังใช้สต๊าฟโค้ชชุดเดิม
“ตั้งแต่ตอบรับการมาคุมทีม รู้ว่าเป็นงานยากลำบากมาก ที่จะคุมทั้ง 2 ทีม คงไม่ราบรื่นขนาดยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว แต่คิดว่านักเตะมีศักยภาพพัฒนามาได้ ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ 3 นัดที่เหลือ เราไม่มีทางเลือก ต้องเก็บแต้มให้ได้ทั้งหมดเพื่อเข้ารอบ ซึ่งทีมยังมี 2 เกมในบ้าน ซึ่งผมก็ได้เน้นย้ำกับสมาคมฯ ถึงขั้นตอนต่างๆโดยเฉพาะการเก็บตัวที่ 2 ชุดจะเก็บตัวพร้อมกัน ต้องพยายามมีเกมอุ่นเครื่องต่อเนื่องขณะที่ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่จะเตะปลายปี จะพยายามใช้ชุดใหญ่ให้ได้มากที่สุด แต่คงนำนักเตะที่เล่นต่างชาติมาไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์”
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวหลังการประชุมว่า “วันนี้ อากิระ นิชิโนะ ได้เดินทางมาพบและรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย นอกจากนี้ยังได้วางแผนอนาคตของทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร”
“ผมให้ นิชิโนะ และ มร.การ์เลส โรมาโกซา ที่เป็นผู้อำนวยการเทคนิค วางรากฐานฟุตบอลไทยทุกรุ่น ตั้งแต่ 12 ปี ไปจนถึง23 ปี ซึ่งทั้งคู่จะทำงานร่วมกัน โรมาโคซา จะเป็นแบ๊กอัพของนิชิโนะ เพื่อให้ทุกอย่างมีความสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบการพัฒนาฟุตบอลมันต้องใช้เวลานาน ซึ่งผลงานของทีมชาติไทยโดยเฉพาะในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทำผลงานได้ดีในการแข่งขันที่ผ่านมาถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจครับ”
“ส่วนเรื่องสัญญาของ นิชิโนะ เราได้สรุปข้อตกลงกันทั้งสองฝ่ายซึ่งทั้งสองฝ่ายก็จะนำสัญญาไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อความสบายใจ โดยระยะเวลาก็จะเซ็น 2 ปี และจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมนี้ ส่วนรายละเอียดเรื่องค่าเหนื่อย ผมขอไม่เปิดเผยนะครับ”
“ขณะที่ทีมงานสต๊าฟโค้ชของ นิชิโนะ ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ขออะไรเพิ่มเติมนอกจาก นักกายภาพชาวญี่ปุ่น และ อัมรินทร์ เยาดำ ซึ่งจะเข้ามาเป็นโค้ชผู้รักษาประตู ส่วนตำแหน่งอื่นๆ หากเขาต้องการเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่”
ทั้งนี้ ในส่วนของรายละเอียดสัญญา มีการเปิดเผยเพียงระยะเวลาที่ระบุไว้ 2 ปี ขณะที่ตัวเลขค่าตอบแทน มีการคาดหมายกันว่า น่าจะมีการปรับให้สูงกว่าเดิมราว 3 ล้านบาท กลายเป็นตกปีละ 33 ล้านบาท หรือราว 2.75 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับว่า สัญญาฉบับนี้ของนิชิโนะ มีมูลค่าสูงถึง 66 ล้านบาทเลยทีเดียว อันจะทำให้เขากลายเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยที่ได้รับค่าตอบแทนการทำงานสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อินโดนีเซีย ในวันที่ 26 มีนาคม 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี