ศึกแชมป์ชนแชมป์ “ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ 2020” ระหว่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์โตโยต้าไทยลีก 2019 พบกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี แชมป์ช้างเอฟเอคัพ 2019 ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563เวลา 19.00 น. ณ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม
โดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงความคาดหวังในการจัดฟุตบอลรายการ “ออมสินไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ” ว่า “ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ผมขอขอบคุณ “ธนาคารออมสิน” ที่เล็งเห็นความสำคัญของกีฬาฟุตบอล และให้การสนับสนุนฟุตบอลรายการนี้เป็นปีที่ 3ติดต่อกัน ในปีนี้ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ไทยลีกเป็นครั้งแรก กับ การท่าเรือ เอฟซี ที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในรอบ 10 ปี ซึ่งบ่งบอกถึงความเข้มข้น และคุณภาพของฟุตบอลไทยที่สูงขึ้นทุกปี จนก้าวขึ้นมาเป็นลีกอันดับ 8 ของเอเชีย ได้เป็นอย่างดี”
“สำหรับฟุตบอลรายการ ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ ถือเป็นรายการสำคัญ ที่เปรียบเสมือนการเปิดฉากเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลระดับอาชีพของไทย ในทุกๆ รายการของปี 2020 ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการพบกันของ 2 ทีม ระดับแชมป์ในประเทศไทย อย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟซี เพื่อชิงความเป็นหนึ่งของประเทศไทยในศึกแชมป์ชนแชมป์ ถือว่าน่าติดตามอย่างยิ่ง ผมมั่นใจว่าเกมนี้ นอกจากจะเป็นที่สนใจของแฟนบอลเชียงรายและท่าเรือแล้ว แฟนบอลทั่วประเทศ ต่างก็เฝ้ารอและตั้งตาคอยแมทช์คุณภาพแมทช์นี้เช่นกัน” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุลกล่าว
เกมนี้สภาพทัพ “กว่างโซ้งอันตราย”แชมป์ไทยลีก ที่ฤดูกาลนี้มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ตั้งแต่ ตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่ ไอล์ตัน กุนซือชาวบราซิล บอกลาทีมไป แทนที่ด้วย ทากิ มาซามิ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 47 ปี ที่มีโปรไฟล์การทำงานระดับเยาวชนกับหลายสโมสรเจลีกส่วนประสบการณ์ในไทยลีก เคยนำทีมไทยฮอนด้า เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ส่วนนักเตะมีการผ่องถ่ายพอสมควร โดยเฉพาะ วิลเลียม เอ็นริเก้ กองหน้าตัวเก่งที่ย้ายไปร่วมทีม พีที ประจวบ แต่ก็ทดแทนด้วย มาอิลซอน แนวรุกชาวแซมบ้า ซึ่งถือว่าน่าจับตาไม่น้อย แถมยังมี ศนุกรานต์ถิ่นจอม มิดฟิลด์วัย 26 ปี จาก เมืองทอง ร่วมทีมด้วย
ทางด้าน “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือเอฟซี ปีที่ผ่านมานอกจากเป็นแชมป์เอฟเอ คัพยังสามารถจบอันดับ 3 ฟุตบอลลีกได้อีก และปีนี้หมายมั่นปั้นมือจะมาล่าแชมป์ลีกด้วยเหมือนเคย เพิ่งเสียขวัญจากการแพ้ เซเรส เนกรอส แชมป์ลีกฟิลิปปินส์ 3 สมัยคาบ้านแบบน่าเจ็บใจ ในถ้วยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพลย์ออฟรอบ 2 แต่หลังจากนั้นดูเหมือนว่าจะพยายามรวมกำลังใจกลับมาสู้ใหม่ทั้งทีมงาน และตัวนักเตะโดยเฉพาะแผงแนวรุกที่มีผู้เล่นอย่าง เฮแบร์ตี้กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่หากเข้าฝักเมื่อไหร่คงอันตรายกว่านี้แน่นอน
สำหรับผลงานของทั้ง 2 ทีมในการดวลกันมา 15 นัด เชียงราย ชนะ 3แพ้ 6 และ เสมอ 6 ยิงได้ 17 ประตู เสีย 19 ประตู แม้ว่าแชมป์รายการนี้จะไม่มีสิทธิพิเศษอะไร แต่มันก็เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเปิดฤดูกาลไทยลีก กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
เรียกว่าแมทช์นี้ แฟนลูกหนังไทย พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี