การเลือกตั้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันพุธที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ท้าชิงตำแหน่ง 2 คน คือ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯคนปัจจุบัน และ “บิ๊กอู๊ด” ภิญโญ นิโรจน์ อดีตสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หลายสมัย
ในช่วงเช้า “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเลือกตั้ง
ในครั้งนี้ ได้เดินทางมาเช่นกัน ในฐานะผู้ได้สิทธิ์แต่งตั้งจากทีม สมุทรสาคร เอฟซี ในไทยลีก 2 จากนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงและ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ 2 ผู้ท้าชิง พร้อมด้วยผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 69 เสียง ประกอบไปด้วยตัวแทนจาก ไทยลีก (16 ทีม),ไทยลีก 2 (18 ทีม), ไทยลีก 3 (14 ทีม), ไทยลีก 4 (18 ทีม), ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (1 ทีม), ลีกหญิง (2ทีม) ก็ได้เดินทางมาถึงกันอย่างครบครัน นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) และสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) เข้ามาสังเกตการณ์ความเรียบร้อยของการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
จนเข้าสู่เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ผู้มีสิทธิ์นั้นเข้ามาในห้องประชุมเพื่อเตรียมตัวที่จะลงเสียงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นั้นได้ให้ สื่อมวลชนนั้นเข้าไปถ่ายภาพเพียง 5 นาทีเท่านั้น ก่อนจะเชิญออกจากห้องประชุม เพื่อรอแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้ชนะนั้นจะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 35 เสียงขึ้นไป ส่วนขั้นตอนการโหวต ตัวแทนสโมสรสมาชิก จะต้องเลือกผู้สมัครตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ 1 คน จาก 2 ผู้สมัคร, เลือกอุปนายกฯ 5 คนจาก 8 คน และเลือกสภากรรมการ 13 คน จาก 24 คน
ผลปรากฏว่าฝั่งของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั้นได้รับเสียงโหวต เอาชนะไปเป็นฝ่ายชนะขาดลอย ตั้งแต่การโหวตครั้งแรกเริ่มจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯชนะ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 17 เสียง และบัตรเสีย 1 ใบ รวมถึงอุปนายกสมาคมฯ 5 ราย และสภากรรมการทั้ง 13 ราย ก็เป็นฝ่ายได้รับการชูมือแบบเอกฉันท์เช่นกัน ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และจะดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปี
พล.ต.อ.สมยศกล่าวภายหลังได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯสมัยที่ 2 ว่า ต้องขอขอบคุณสโมสรสมาชิกทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกผมและทีมงานทั้งหมดให้ทำหน้าที่บริหารสมาคมอีกครั้ง ขอบคุณตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า),
สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ได้เข้าร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้
“เรามีความุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบแบบแผนอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าด้วยศักยภาพของแต่ละคนจะช่วยกันบริหารสมาคมให้ก้าวหน้า ก้าวไกล ตามแผนพัฒนาฟุตบอลไทย 20 ปี แม้ว่างานในวันข้างหน้าจะเป็นเรื่องยาก แต่จากกำลังใจจากทั้งสโมสร และแฟนฟุตบอลชาวไทยจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างที่หวังไว้” นายกลูกหนังไทย สมัย 2 กล่าว
สำหรับรายชื่ออุปนายกฯ และสภากรรมการ ที่ชนะการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีดังนี้
1.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ 2.นายอรรณพ สิงห์โตทอง อุปนายก 3.นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายก
4.นางลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายก 5.นางสาวศิริมา พานิชชีวะ อุปนายก 6.นายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ อุปนายก, 7.นายยุทธนา หยิมการุณ กรรมการกลาง 8.พลเรือตรีนิกูล อินทรสุวรรณ กรรมการกลาง, 9.นายธวัช อุยสุย กรรมการกลาง
10.นายมิตติ ติยะไพรัช กรรมการกลาง 11.นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ กรรมการกลาง12.นายสมเกียรติ กิตติธรกุล กรรมการกลาง13.รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม กรรมการกลาง 14.นายธนวัชร์ นิติกาญจนา กรรมการกลาง15.นางสาวนันทนี
วงศ์อำนิษฐกุล กรรมการกลาง16.นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ กรรมการกลาง 17.นายณัฐ ชยุติมันต์ กรรมการกลาง,
18.นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ กรรมการกลาง และ 19.นายบริพัฒน์ สมมี กรรมการกลาง
ภายหลังความพ่ายแพ้ ดร.ภิญโญ ผู้ท้าชิงตำแหน่งในครั้งนี้ เผยว่าการแพ้ชนะก็ว่ากันไป ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไรมาก ไม่ได้ต้องการร้องเรียนอะไร เพราะเข้าใจว่า เป็นธรรมดาของขั้นตอนการทำงาน และ 4 ปีข้างหน้า ก็ไม่มีแผนกลับมาลงสมัครอีกครั้ง เพราะครั้งนี้ ตัดสินใจลงแล้ว แต่สโมสรสมาชิกไม่เลือก
ทางด้าน “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่วันนี้มาลงคะแนนในฐานะตัวแทนทีม สมุทรสาคร เอฟซี ได้เผยว่าในที่ประชุมการเลือกตั้งวันนี้ตนได้ทำการประท้วง เรื่องที่ สมาคมฯทำผิดข้อบังคับ ข้อ 22.2 และ 22.3 ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ใบมอบอำนาจไม่ได้ แต่ทางเขาก็ไม่รับวินิจฉัย ซึ่งถ้ามันผิดข้อบังคับ มันก็ต้องเป็นโมฆะ ฉะนั้นการประท้วงก็ต้องได้รับการพิจารณา แต่ทางสมาคมฯเองแค่บอกว่าจะรับเรื่องไว้
“การตรวจสอบของเขามันเป็นการตรวจสอบฝ่ายเดียว ไม่ใช่ตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่าย มันต้องตรวจสอบตรงนั้นเลย เพราะข้อบังคับมันชัดเจนว่า ใครที่ถือใบมอบอำนาจ แต่ไม่มีใบแต่งตั้ง มันไม่มีสิทธิ์โหวต เราก็ต้องคัดค้าน ต้องตรวจสอบกัน แต่พอไม่มีการตรวจสอบ การเลือกตั้งก็ผ่านไป ผมก็ขอให้ฟีฟ่าและเอเอฟซีได้เก็บหลักฐานไว้ และคงต้องมีกระบวนการฟ้องร้องกันต่อไป ทั้งในและต่างประเทศ” อดีตนายก
ลูกหนังไทยกล่าว
ขณะที่ “ทนายอ๊อด” ภีมเดช อมรสุคนธ์ ผู้สมัครกรรมการกลาง ของฝั่ง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ได้กล่าวว่า ใบมอบอำนาจ สโมสรสมาชิกมอบอำนาจมา เขาก็ไปเอาพรรคพวกเพื่อนฝูงของเขามาลงคะแนน ก็จะไปฟ้องในวันศุกร์นี้ ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี