กระแสต่อเนื่องหลังจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกจับได้ว่า ใช้เงินนอกระบบมาช่วยให้ทีมกวาดแชมป์อย่างมากมายตลอดช่วงการเข้ามาทำงานของ ชีค มานซูร์
ล่าสุด เมื่อเปรียบเทียบกับการประเมินมูลค่า“ความเท่าเทียม” หรือ “ความยุติธรรม” ต่อเพื่อนร่วมอาชีพฟุตบอล ปรากฏว่า ผู้สอบบัญชีของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า รับข้อมูลที่ถูกส่งไปตรวจสอบจากออดิต พบว่าสโมสรได้รายงานการขาดดุลจำนวนมากระหว่างปี 2009 ถึง 2011 ซึ่งเป็นช่วงแรกในการเทคโอเวอร์ของ “ทีมชีค”
การตรวจสอบพบว่า 84% ของ “รายได้เชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่เป็นรายงานโดยสโมสร มาจากผู้สนับสนุนในอาบูดาบี ผู้ตรวจสอบบัญชีของยูฟ่า รายงานว่า พบสัญญา 3 ใน 4 ฉบับ ประกอบด้วย บริษัท โทรคมนาคม Etisalat, บริษัท ลงทุน Aabar, สำนักงานการท่องเที่ยวอาบูดาบี และองค์กรวัฒนธรรมอาบูดาบี ปรากฏว่า การลงนามกับ บริษัทจากอาบูดาบีมีมูลค่าสูงเกินไป เพราะมันสูงถึง 80% จากสิ่งที่ถูกพิจารณาว่าเป็น “มูลค่ายุติธรรม” สำหรับดีล เอกสารที่ตีพิมพ์โดยนิตยสารเยอรมัน “Der Spiegel” เมื่อปีที่แล้ว ที่ได้รับข้อมูลจากแฮกเกอร์ที่ชื่อ “รุย ปินโต้”ชี้ให้เห็นว่าในปี 2015 เอติฮัด เคยจ่ายเพียง 8 ล้านปอนด์ต่อปี เพิ่มไปถึง 67.5 ล้านปอนด์ต่อปี
เอกสารแสดงต่อมาที่ ผู้ตรวจสอบของยูฟ่า เปิดเผยก็คือ ผู้สนับสนุนอาบูดาบี 2 แห่ง คือ บริษัทการลงทุนของรัฐ Aabar และ บริษัท โทรคมนาคมของรัฐ Etisalat พบว่า มีการเติมเงินตัวเองลงไป จำนวนเงินดังกล่าวคือ 59.5 ล้านปอนด์
นักวิจัยของยูฟ่า กล่าวถึงสัญญาของ Aabar ว่า มี “มูลค่ายุติธรรม” อยู่ที่ 3-4 ล้านปอนด์ตามรายงานเบื้องต้น แต่มีมูลค่าไปถึง 15 ล้านปอนด์ และสิทธิ์การสนับสนุนของ Etisalat ถูกประเมินว่ามี “มูลค่ายุติธรรม” อยู่ที่ 4-5 ล้านปอนด์ต่อปี แต่มีการจ่ายเองไปจนถึง 16.5 ล้านปอนด์ต่อปี
ทางด้าน รายได้เชิงพาณิชย์ในปัจจุบันของ แมนฯซิตี้ จำนวน 130 ล้านปอนด์มาจากผู้สนับสนุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งเจ้าของสโมสรอย่างชีค มานซูร์ คือผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อพันธมิตร อย่างเช่น เอติฮัด เชื่อว่าจะจ่ายปีละ 80 ล้านปอนด์เพื่อสปอนเซอร์เสื้อ โดยข้อตกลงปัจจุบันรวมกับสิทธิ์การตั้งชื่อสนามกีฬาและทรัพย์สินอื่นๆ ของ แมนฯซิตี้มีข้อตกลง 10 ปีระหว่าง 2011-12 ถึง 2020-21 ดังนั้นการยัดเงินตัวเองเพื่อมูลค่าเสื้อ เพื่อให้ทีมยิ่งดูมีมูลค่า ทั้งที่จริงแล้วการคาดหน้าอกบนเสื้อ น่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านปอนด์ต่อปี
ซึ่งวันพุธนี้ แมนฯซิตี้ จะลงสนามเป็นนัดแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ถูกแบนออกจากบอลยุโรป 2 ซีซั่น ด้วยการเปิดบ้านทำศึกพรีเมียร์ลีก เจอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเวลา 02.30 น. ซึ่งเป็นเกมที่เลื่อนมาจากสัปดาห์ก่อนที่โดนพายุเซียร่าถล่มอย่างหนัก
เจ้าถิ่นเกมนี้รอลุ้น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แกนรุกทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องรอทดสอบความฟิต คาดว่าโอกาสลงเล่นมีค่อนข้างน้อย ทำให้ กาเบรียล เฮซุส น่าจะได้ประสานเกมรุกกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ และริยาด มาห์เรซแต่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชงโก้ ที่ติดแบน รวมถึงอายเมอริค ลาปอร์กต์ และเลรอย ซาเน่ ที่กำลังเรียกความฟิต
ฝั่งผู้มาเยือนที่กำลังฟอร์มย่ำแย่สุดๆ ไม่ชนะมา5 เกมรวด อยู่อันดับที่ 18 ต้องดิ้นรนหนีตาย รอลุ้น เฟลิเป้ อันแดร์ซอน ปีกบราซิเลี่ยน ที่เจ็บไปนาน แต่ อันเดร ยาโมเลนโก้ กับ แจ๊ค วิลเชียร์ ยังไม่พร้อมที่จะลงเล่นนัดนี้ โดยเล่นระบบ 4-5-1 อัดแดนกลางเดแคลน ไรซ์ เล่นกับ มาร์ค โนเล และ โทมัส ซูเซ็ค วาง เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ยืนหน้าตัวเป้า
ทั้งนี้ หาก แมนฯซิตี้ คว้าชัยชนะได้สำเร็จ จะทำคะแนนไล่ตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี เหลือ 22 คะแนน หลังจากผ่านไป 26 เกม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี