การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์นี้มีทั้งหมด 6 คู่ลงสู้กัน มีเกมสำคัญมาดวลกันถึง 2 คู่ เปิดหัวด้วยเวลา 19.30 น. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่กำลังฟอร์มฟุบเฝ้ารังอีกนัดล่าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ และคู่เวลาเที่ยงคืนครึ่ง “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ปะทะกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะต้องบี้แหลกเพื่อลุ้นแชมป์เฮือกสุดท้าย
ในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ศึกดาร์บี้แมทช์ มหานครลอนดอน เชลซี ยังอยู่ในอันดับที่ 4 มี 41 คะแนน ขณะที่ สเปอร์สตามมาติดๆ หลังจากได้ 11 จาก 12 แต้มหลังสุด มี 40 คะแนนแล้ว
เชลซี ที่ไม่ชนะใครมาถึง 4 นัดในลีก ได้แค่ 2 คะแนน ไม่มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางคนสำคัญทีมชาติฝรั่งเศสที่อาจจะต้องพักนานสุด 3 สัปดาห์ หลังจากกล้ามเนื้อต้นขาฉีกจากเกมลีกแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 คารัง เมื่อวันจันทร์ ทำให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ กุนซือยิ่งปวดหัวเข้าไปอีก เพราะทีมฟอร์มตกจริงๆ คาดว่า เมสัน เมาน์ท จะได้ลงเล่นแทน
ขณะที่ แทมมี่ อบราฮัม ต้องเช็คฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย ที่จะได้ลงสนาม หลังจาก มิตชี่ บาตซัวยี่ ที่ลงเล่นแทนฝืดแบบจารบียังช่วยไม่ได้ นอกจากนี้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย กับ คริสเตียน พูลิซิซ ก็ยังต้องเช็คความพร้อม หากลงไม่ได้ต้องใช้สองเฒ่าอย่าง วิลเลี่ยน และเปโดร ต่อไป
ฝั่งผู้มาเยือนเพื่อนร่วมกรุง ผลงานในลีกชนะมา 3 เกมติดแต่เพิ่งแพ้ อาร์เบ ไลป์ซิก คาเล้า 0-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกมีปัญหาใหญ่ในเกมรุกฝืดสนิททันที หลังจาก ซน ฮึง มิน ต้องเจ็บตามหลัง แฮร์รี่ เคน โดย โชเซ่ มูรินโญ่ อาจจะต้องปรับมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน อีกครั้งเพื่อแก้ไขการเล่นกันทั้งระบบ เพื่อเกมรุกทางด้านกว้างจะได้มากขึ้น หากว่า เอริคลาเมล่า ฟิตไม่พอ ก็จะเหลือแค่ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น กับ ลูคัส มูร่า เท่านั้นในตำแหน่งตัวรุก
ทางด้านเกมที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมเจ้าถิ่น เลสเตอร์ อยู่ในอันดับที่ 3 มีอยู่ 50 คะแนน ส่วนทีมเยือนที่เป็นแชมป์เก่ามีอยู่ 54 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เอฟซี ที่มีคิวเตะวันจันทร์อยู่ที่22 คะแนน
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเลสเตอร์ออกอาการแปลกๆ เมื่อจัดทัพปรับระบบไปมาจาก 4-1-4-1 ที่โกยแต้มจนมีลุ้นแชมป์ปรับมาใช้ 4-4-2 จนพลิกมาเป็น 3-5-2 จนฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย 3 นัดหลังถึงจะไม่แพ้แต่ได้แค่ 5 คะแนนเท่านั้น เกมนี้ลุ้นหนักกับ วินฟรีด เอ็นดีดี้ กองกลางตัวรับว่าจะกลับมาได้หรือไม่ ซึ่งตำแหน่งนี้ถือว่าบอดมากๆ เพราะ เอ็นดีดี้ เจ็บคนเดียวไม่พอ สำรองอย่าง ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ กับ นอมปาลิส เมนดี้ เจ็บทั้งคู่ แถม ฮัมซ่า เชาดูรี่ ดาวรุ่งอีกคนก็มาติดโทษแบน
แนวรับเมื่อปรับมาเล่น 3 คน คักลาร์ โชยุนคูจะยืนหลักกับ จอนนี่ อีแวนส์ อีกคนน่าจะเป็นไรอัน เบนเน็ตต์ ที่มาจาก วูล์ฟส์ ที่เบียดเซ็นเตอร์ซ้ายกับ คริสเตียน ฟุคส์ ขณะที่เจมส์ แมดดิสัน กับ ยูริ เตเลมองส์ จะเดินเครื่องตรงกลาง ส่วนหน้าเป้านั้นอโยเซ่ เปเรซ อาจจะได้ขยับขึ้นไปเล่นกับตัวหลักอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ที่ซัดไปแล้ว 17 ลูก แต่พักหลังปืนฝืดมา 4 นัดติด
ผู้มาเยือนที่หวังจะต่อลมหายใจในการลุ้นแชมป์ เพราะถ้าชนะจะย่อระยะเหลือ 19 แต้ม รอเช็คฟิต อายเมอริคลาปอร์กต์ ปราการหลังคนสำคัญที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปในเกมกลางสัปดาห์ ถ้าฟิตไม่ทัน จอห์น สโตนส์จะได้ลงตัวจริงยืนกับ แฟร์นานดินโญ่ ขณะที่แดนกลาง ดาบิด ซิลบา ที่เจ็บจากนัดทุบ เวสต์แฮม 2-0 รอเช็คอาการอีกครั้ง ถ้าลงไม่ได้ อิลคาย กุนโดกัน จะได้ประสานงานกับ โรดี้ และเควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนสำคัญ ส่วนแนวรุกจะยึดชุดเดิมคือ กาเบรียล เฮซุส, เซร์คิโอ อเกวโร่ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา เนื่องจาก ราฮีมสเตอร์ลิ่ง ยังไม่ฟิตพอ
สำหรับโปรแกรมอีก 4 คู่ที่เตะพร้อมกันในเวลา 22.00 น. “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ทีมอันดับที่ 12 มี 31 แต้ม เฝ้ารังเจอกับ “สิงห์เผ่นมิดแลนด์” แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 17 ที่กำลังหนีตายมีอยู่ 25 คะแนน เหนือโซนตกชั้นแค่คะแนนเดียว, “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ อันดับ 14 มี 30 แต้ม แต่ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือขึ้นเต็ง 1ตกงาน รับมือ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดอันดับ 13 มี 31 แต้ม ที่บุกลอนดอน 2 นัดติดโดยนัดก่อนแพ้ อาร์เซนอล ยับ 0-4, “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ล่าตั๋วยุโรป อยู่ที่ 6 มี 39 แต้มเปิดบรามอลล์ เลน ชนกับ “นกนางนวล” ไบรท์ตันแอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่มี 27 แต้มอยู่ที่ 15 และ“เดอะ คลาเร็ตส์” เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 11 มี 34 แต้มเปิดบ้านดวล “เดอะ เชอร์รี่” บอร์นมัธ ทีมอันดับ 16ที่มี 26 แต้ม ที่ต้องการทุกแต้มเพื่อหนีตกชั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี