เรียนท่านประธานที่เราคบและเคารพ...ขอใช้สิทธิ์ในการพาดพิง!!!!
หลายคนในวงการฟุตบอลคิดว่าทำไม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี จะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ
ทำไมมันช่างยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า มันเฉกเช่นเดียวกันกับที่การเป็นเจ้าภาพ “โอลิมปิกเกมส์” ในแต่ละครั้งของประเทศญี่ปุ่น ทำไมมัน “ยากเย็นแสนเข็ญ” อย่างนี้...ทุกทีไป!!!
หลังจากมีมติอย่างเป็นทางการต้องเลื่อนการแข่งขันครั้งนี้(The Games of the XXXII Olympiad) ในระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม-9 สิงหาคมนี้ ออกไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะการระบาดของโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 ไปแข่งปีหน้า 2021
นับเป็นครั้งแรกที่ต้องเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ไม่ได้มี“สงครามโลก” แต่เป็น “สงครามโรค”
ตั้งแต่กีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรกในปี 1896 มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนถูกยกเลิกเพียง 3 ครั้งเท่านั้น เพราะสงครามโลก ครั้งที่ 1 กับ 2 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ กรุงโตเกียวเหมือนกัน!!!!
ปี 1916 ที่กรุงเบอร์ลิน
ปี 1940 ที่กรุงโตเกียว
ปี 1944 ที่มหานครลอนดอน
...ย้อนกลับไปในปี 1940 ญี่ปุ่น กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน (Summer Olympics) และกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympics)
กำลังจะเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้จัดมหกรรมกีฬาฤดูร้อน และจะเป็นชาติแรกของโลกที่ได้จัดโอลิมปิกร้อน-หนาว ในปฏิทินเดียวกัน
แล้วโอลิมปิกทั้งร้อนและหนาวของญี่ปุ่น ก็ไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากพวกเขาถอนตัวในปี 1938 ก่อนจะเข้าสู่สงครามโลก ครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว
ญี่ปุ่น ในฐานะขุนศึกผู้พ่ายแพ้ ฟื้นฟูตัวเองกว่าทศวรรษ และสุดท้ายได้รับเอกราช เมื่อปลดแอกจากปฏิบัติการบัญชีดำที่สิ้นสุดลงในปี 1951 ด้วย “สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก” พวกเขาก็ก้าวสู่การเติมฝันในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ ในปี 1964
เป็นมหกรรมกีฬาที่เปลี่ยนแปลงพวกเขาไปตลอดกาล...
แดนอาทิตย์อุทัยใช้ “กีฬานำทาง”
การทุ่มเงินมหาศาลถึง 60,000 ล้านบาท พลิกโฉมระบบการขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะ “การรถไฟ” ที่มีการเปิดสายสำคัญอย่าง “ชินคันเซน” มุ่งหน้าจากมหานครโตเกียว ไปสู่โอซากา พร้อมการกำเนิดขึ้นด้วยถนนหลายสาย, สนามกีฬา และฟื้นฟูแม่น้ำซุมิดะ
การเนรมิตเมืองขึ้นมาใหม่ จากเดิม โตเกียว ที่กำลังเติบโตด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรม และเต็มไปด้วยขยะ กลายเป็นเมืองที่สะอาดมีระเบียบวินัยตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา
อีกทั้งการสร้างสนามแข่งขันในย่านชิบุยะ ฮาราจูกุ ทำให้เมื่อจบโอลิมปิก ย่านนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แฟชั่นต่างๆ มาเริ่มต้นกันที่นี่ จนกระทั่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
การพัฒนาจากวันนั้น ทำให้ ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญของคนในโลกที่อยากจะไปเยี่ยมเยียนสัก (หลายๆ) ครั้ง โดยเฉพาะความสะดวกสบายในการเดินทาง และความเป็นระบบระเบียบ
แน่นอนว่า โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 พวกเขาก็ต้องการใช้กีฬาโอลิมปิก ตอกย้ำความยิ่งใหญ่และต่อยอด
งบประมาณที่ใช้ไปกว่า 2แสนล้านบาท ถูกนำมาใช้ในกีฬาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็เข้ามาเอี่ยวด้วยอีกกว่า 90,000 ล้านบาท ในการร่วมกันพัฒนากิจการทั้งระบบ ในเรื่องของสนามแข่งขัน, ระบบการคมนาคม รวมไปถึงการสร้างรถไฟขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะโชว์ให้คนทั่วโลกได้เห็นในครั้งนี้
รถยนต์บินได้
สนามกีฬาแห่งชาติใหม่ (New National Stadium) สนามโตเกียวอควอติก เซ็นเตอร์ (ว่ายน้ำ), อาเรียเกะอารีนา (วอลเลย์บอล) ซึ่งเป็นสนามป้องกันแผ่นดินไหว
ทีมหุ่นยนต์ผู้ช่วยภาคสนาม
รถบัสพลังงานไฮโดรเจนแทนน้ำมัน
เหรียญผลิตจากขยะอิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยี 3DAT หรือ 3D Athlete Tracking ในสนามกรีฑา เหล่านี้พวกเขาเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ซึ่งญี่ปุ่นเองได้ถูกจับตามองอย่างมากในเรื่องของการเป็นอัจฉริยะด้านความคิด หลังจากพวกเขาไป “โชว์ของ” มาแล้วในพิธีปิดที่ริโอ เดอ จาเนโร เมื่อ 4 ปีก่อน ณ ดินแดนบราซิล
ญี่ปุ่นมีเป้าหมายว่า โอลิมปิกเกมส์ จะมาช่วยเพิ่มพื้นฐานและเป็นน้ำยาเร่งโตทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวเพื่อมาจุนเจือระบบหมุนเวียนภายในประเทศที่ไม่ค่อยดีมาหลายปีโดยประมาณการกันว่า เม็ดเงินจะหมุนเวียนมากกว่า 1 ล้านล้านบาท พร้อมกับต่อยอดไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การที่โลกต้องมาถูก “แช่แข็ง” โดยโคโรนาไวรัส ทำให้ทุกอย่างต้องหยุด แม้จะทำทุกอย่างแล้ว ทั้งการจุดคบเพลิง การเตรียมวิ่งในญี่ปุ่น แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป
เจ้าภาพจะต้องเสียแน่ ๆ ก็คือ ค่าเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาทให้กับผู้ที่ซื้อตั๋ว และทำประกันโอลิมปิกเอาไว้ ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้
อย่าลืมถึงค่าดูแลสนามที่ล่าช้าไปอีกเป็นปี และการเปลี่ยนแปลงแนวทางการประชาสัมพันธ์ใหม่ทั้งระบบ โดยเฉพาะคำว่า “2020” มาเป็น “2021” ก็ต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ เพราะจากการประเมินค่าประชาสัมพันธ์ใช้เงินไปแล้วถึง 31,000 ล้านบาท
ไม่แปลกใจที่พวกเขาพยายามทุกอย่างที่อยากให้ทุกอย่างมันเสร็จสิ้นในปีนี้
แต่ทั้งหมดก็ต้องมานับหนึ่งกันใหม่ แต่ทุกอย่างมันตั้งอยู่บนความจำเป็นและเหตุผลของชีวิต
กว่าจะได้จัดการแข่งขันแต่ละครั้งมันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ แต่เชื่อว่าโลกเข้าใจและเห็นใจญี่ปุ่นค่อนข้างมาก
ครั้งก่อนญี่ปุ่นใช้กีฬาโอลิมปิกในการล้างภาพจำจากผู้พ่ายแพ้ทุกสิ่งจากสงครามโลก ซึ่งเป็นสงครามของมนุษย์กับมนุษย์
ครั้งนี้ญี่ปุ่นจะได้ใช้กีฬาโอลิมปิกในการล้างภาพจำจากการที่โลกคือผู้พ่ายแพ้ทุกสิ่งจากสงครามโรค ซึ่งเป็นสงครามระหว่าง มนุษย์ กับไวรัส
ปี 1964 เป็นโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นใช้ “รีแบรนด์” ภาพลักษณ์ของประเทศ
ปี 2021 จะเป็นโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นใช้ “รีแบรนด์” ภาพใหม่ของโลก!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี