โอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ตัวเอ้ ที่ขึ้นปก “เลกิ๊ปส์”ของฝรั่งเศส หลังจากประกาศรับข้อเสนอลดค่าเหนื่อย 70 เปอร์เซนต์
สะเทือนกันไปทั้งวงการฟุตบอล เมื่อไม่สามารถลงทำการแข่งขันได้เกินกว่าครึ่งเดือนแล้ว
กระแสการ “ลดค่าตัว”หรือ “รีดค่าเหนื่อย” ของแต่ละทีมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่สโมสร “อกข้างซ้าย” ฮาร์ท ออฟ มิดโลเธียน แห่งสก็อตติช พรีเมียร์ ของประเทศสกอตแลนด์ ร้องขอเป็นเจ้าแรกเมื่อ19 มีนาคม ที่ผ่านมา
ฮาร์ท ขอลดเงินถึง 50 เปอร์เซ็นต์นั่นเพราะสโมสรขาดรายได้ และอาจจะไปต่อไม่ไหวในช่วงโคโรนาไวรัสหรือ โควิด-19 ระบาดหนัก
จากนั้นเริ่มมีกระแสหนักขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งสโมสรที่รวยที่สุดในโลกอย่าง บาร์เซโลน่า เจ้าของฉายาที่เมืองไทยรู้จักกันในนาม “เจ้าบุญทุ่ม” หรือ “อาซูลกราน่า”ยังจะไปไม่รอด
ขอลดเงินนักเตะมากถึง70 เปอร์เซ็นต์
ทั้งที่พวกเขาเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลก ณ เวลานี้
เมื่อทุกอย่างเป็นวงล้อ หมุนต่อเนื่อง แต่เมื่อเส้นทางนี้ ฟันเฟืองนี้ดันหยุดขึ้นมาแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม
ปัญหาจึงเกิดขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิดจริงๆ !!!
l เซ้ง “เนย์มาร์” กวาดรายได้ทุบสถิติ
เมื่อ 16 กรกฎาคม 2018 บาร์เซโลน่า กวาดรายได้ทำลายสถิติ หลังรับทรัพย์เข้าคลังสโมสร 914ล้านยูโร หรือเฉียดๆ 36,000 ล้านบาทหลักๆ ก็คือการทำสถิติโลกใหม่ด้วยการขาย เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล ไปให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมงเมื่อปี 2017 ด้วยเม็ดเงินมหาศาล 200 ล้านปอนด์
แม้จะมีการซื้อ อุสมาน เดมเบเล่ กับ เฟลิปเป้ คูตินโญ่รวมกันเกือบ 200 ล้านปอนด์ แต่เมื่อหักลบกลบหนี้
ผลกำไรจากการประกอบการนั้นเท่ากับ 32 ล้านยูโร หรือ 1,248ล้านบาท ขณะที่ผลกำไรสุทธิเท่ากับ 13 ล้านยูโร หรือกว่า 500 ล้านบาท
l ทุบสถิติรวยต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์
มาถึงเดือนกันยายน ปี 2019
บาร์ซ่า ประกาศสภาพการเงินของทีมแบบโลกตะลึง เมื่อได้เงินรายได้สูงถึง 990 ล้านยูโร หรือกว่า 33,500 ล้านบาท นับเป็นปีงบประมาณที่ บาร์ซ่า มีรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ทีม
พร้อมกับประกาศว่า จะทำสถิติใหม่ด้วยการโกยเงินให้ได้มากกว่า 1,000 ล้านยูโร เมื่อจบซีซั่น 2019-20 ซึ่งจะทำให้ทีมโตเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่จากเดิมจะทะลุหลักพันล้านก็ต้องรอถึงปี 2021เป็นอย่างน้อย
l ยึดบัลลังก์ทำรายได้มากสุดโลก
กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา “ดีลอยต์” บริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก เปิดเผยว่า ซีซั่น 2018-19ที่จบไปก่อนหน้านี้ครึ่งปี ทีมที่ทำรายได้มากที่สุดคือ บาร์เซโลน่า
รายงานระบุว่า บาร์ซ่า ทำรายได้ตลอดทั้งซีซั่นก่อนไปรวม 840.8 ล้านยูโร อาจจะน้อยกว่าที่สโมสรออกมาบอกกว่า 100 ล้านยูโร ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ยังมากที่สุดในโลกอยู่ดี
ชัยชนะของ บาร์ซ่า มาจากแบรนด์ที่กระจายไปทั่วโลก และเข้าถึงได้ทุกหย่อมหญ้ากับการมีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ยังอยู่ในทีมอย่างลีโอเนล เมสซี่
ไม่เพียงแต่ได้แชมป์รวยสุด แต่ยังน็อก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด คู่อริตัวฉกาจของพวกเขาได้สำเร็จ
เรอัล ที่เป็นแชมป์ทีมรวยจากปีก่อน ทำรายได้ไปรวม 757.3ล้านยูโร เท่านั้น เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะคู่ปรับตัวฉกาจของ เมสซี่คือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ย้ายไปอยู่กับยูเวนตุส ในอิตาลี
l แชมป์จ่ายค่าเหนื่อยแพงสุดโลก
ข้อมูลอีกฉบับที่น่าสนใจจากบริษัทบัญระดับโลกอย่าง KPMG ที่มีโปรเจกท์ว่า The Football Benchmark เปิดงบการเงินของแชมป์ลีกใน 8 ลีกระดับท็อปยุโรป ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า เป็นแชมป์ที่จะต้องค่าเหนื่อยต่อปีรวมกันถึง562 ล้านยูโร ตามมาด้วย “หอคอยฝังเพชร” ปารีส แซงต์-แชร์กแมงแชมป์จากลีก เอิง ฝรั่งเศส จ่ายอยู่ที่ 332 ล้านยูโร ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบุญทุ่มอังกฤษ อยู่ในอันดับ 3 คือ 293 ล้านยูโร
น่าสนใจก็คือ ลีโอเนล เมสซี่ ปัจจุับนมีมูลค่าทางการตลาดเป็นรองเนย์มาร์ กับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้สองแกนรุกค่าเปแอสเช ไปแล้ว แต่ความอมตะและเข้าถึงกลุ่มคน เมสซี่ยังคงครองใจแฟนบอลตีคู่มากับโรนัลโด้ เหมือนเดิม
l “โควิด” ไล่ขวิดทำร้องขอลดเงิน
“เราเป็นสโมสรที่มีรายได้มากที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรายังไปไม่ถึงเป้าหมายเกิน 1,000ล้านยูโร อย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้” โจเซปบาโตเมว ประธานบาร์ซ่า ให้สัมภาษณ์กับ เอพี หลังจากเขาเพิ่งประกาศว่า ได้ตกลงลดค่าเหนื่อยนักเตะคนละ70 เปอร์เซ็นต์ ให้ทีมสามารถไปได้ต่อ
การลดเงินในครั้งนี้ทำให้บาร์ซ่า ประหยัดเงินมากถึงเฉียดๆ 16 ล้านยูโรต่อเดือน แต่ บาโตเมวยืนยันว่า ยังไม่พออยู่ดีกับพนักงานที่มีมากของเรา ที่ต้องมาโดนล็อกดาวน์จากไวรัส
“เรากำลังจะไปที่เป้าหมายพันล้านยูโรในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทุกอย่างต้องหยุด เราไม่มีรายได้อะไรเลยในตอนนี้ทั้งการถ่ายทอดสด, การขายตั๋วฟุตบอล, เงินจากแมทช์เดย์ทั้งหมด, การทัวร์สนาม และร้านค้าของสโมสร ทำให้รายได้เราลดลงไปมาก แน่นอนที่สุดก็คือเราพยายามหาวิธีเพื่อที่จะประหยัดเงินที่สุด เพราะเราไม่รู้เลยว่า ไวรัสจะหยุดเมื่อไหร่”
บาโตเมว กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเราได้ศึกษาวิธีการปรับตัวเมื่อการระบาดใหญ่สิ้นสุดลงเราจะเปลี่ยนแบบจำลองและวิธีการทำสิ่งต่างๆ เราจะต้องปรับตัวและเป็นผู้บุกเบิกให้ทุกอย่างกลับมา”
l เคลียร์สตาร์ 10 วันก่อนลงตัว
ประธานบาร์ซ่า ยอมรับว่า เขาใช้เวลานานถึง 10 วัน ในการพูดคุยกับนักเตะคนสำคัญของทีมผ่านวีดีโอ ประกอบด้วย ลีโอเนลเมสซี่, เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอบุสเกตส์ และแซร์จี้ โรแบร์โต้โดยประชุมครั้งแรกวันที่ 20 มีนาคมก่อนจะได้ข้อสรุปวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา
“มีข่าวลือมากมายและแน่นอนว่ามีผู้คนทั้งในและนอกสโมสรที่แสดงความคิดเห็น โดยไม่รู้สถานการณ์จริงมีมาตรการมากมายที่จะช่วยลดรายได้ที่ลดลง แต่ไม่มีใครสามารถทำได้หากไม่มีข้อตกลงของผู้เล่นชุดใหญ่ เพราะพวกเขาเป็นรากฐานสำคัญของสโมสร ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจในสถานการณ์”
ในเวลานี้ แอตเลติโก มาดริดก็กำลังทำมาตรการเดียวกับ บาร์ซ่าแต่ เรอัล มาดริด ยังยืนยันว่าพวกเขาจะไม่ลดเงินเดือนใดๆ ทั้งสิ้น“เราหวังว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะเริ่มดีขึ้นในอีกประมาณสองเดือน แต่การสูญเสียจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากภาพรวม การขอลดเงินค่าเหนื่อยมโหฬารขนาดนี้ของ บาร์ซ่า เป็นเพราะอะไร
ทั้งนี้เงินรายได้ที่ตุนไว้นั้นก็มหาศาลอย่างมาก ที่สำคัญก็คือ ฟุตบอลเพิ่งจะหยุดไปครึ่งเดือน และพวกเขาก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรที่รุงรังเฉกเช่นการต้องแบ่งเงินให้กับสภาเมืองแบบในอิตาลี
แฟนฟุตบอลจึงตั้งข้อสงสัยไปหลายทาง
วูบจริง, ขาดทุนกำไร หรือว่าสมอ้างกันแน่!!!
สนามคัมป์นู ในวันที่ว่างเปล่าไม่มีแมทช์เดย์ แม้กระทั่งสเตเดี้ยมทัวร์
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี