ประเทศไทยเป็นชาติยักษ์ใหญ่ในแวดวงการกีฬาของประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่างแท้จริง คำว่ายักษ์ใหญ่เราไม่ได้วัดกันที่กองทัพนักกีฬาไทยได้เป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ที่แข่งขันกันในกลุ่มอาเซียนมา
ยาวนานมากกว่า 60 ปี แต่อย่างใด แต่ว่ากันว่าเขาวัดกันที่ใครยิ่งใหญ่ตรงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับโลกและในระดับทวีปมากกว่ากันต่างหากล่ะ
รัฐบาลไทยได้สนับสนุนให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2502 เมื่อไทยได้ริเริ่มให้กลุ่มชาติในอาเซียนขณะนี้จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 1 จนถึงปีที่แล้ว 2562 เป็นครั้งที่ 30 หลังจากนั้นประเทศไทยก็ก้าวหน้าไปกว่าทุกๆ ชาติ ในกลุ่มอาเซียนด้วยการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์กีฬายิ่งใหญ่ของชาวเอเชียมากถึง 4 ครั้ง ในครั้งที่ 5 ปี 2509 ครั้งที่ 6 ปี 2513ครั้งที่ 8 ปี 2521 และครั้งที่ 13 ในปี 2541
นอกจากนั้น ไทยยังรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และเอเชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ในครั้งแรกในปี 2548และครั้งที่ 3 ในปี 2552 อีกรายการหนึ่งก็คือเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2557 รวมแล้วไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาในระดับทวีปเอเชียมากถึง 7 ครั้ง 7 คราว และในปี 2564 ประเทศไทยจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในระหว่างวันที่24 เมษายน ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 รวมระยะเวลาการแข่งขันจำนวน 12 วัน
สภาโอลิมปิกแห่งเอเชียหรือ OCAภายใต้การนำของชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ประธานชาวคูเวต ได้มอบสิทธิจัดการแข่งขันกีฬารายการนี้ให้ไทยเมื่อ 4 ปีก่อนโดยในครั้งที่ 6 นี้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้จัดการแข่งขันรวมทั้งสิ้นจำนวน 12 ชนิดกีฬา คือ โบว์ลิ่ง, คิวสปอร์ต ได้แก่ สนุกเกอร์, พูล 9 ลูก,อิงลิชบิลเลียด, แคร่อมบิลเลียด ลีลาศ ได้แก่ลาติน, สแตนดาร์ด, ซัลซา, ฟลอร์บอล,อีสปอร์ต, กรีฑาในร่ม, ฟุตซอล, เนตบอล,เซปักตะกร้อ, ว่ายน้ำระยะสั้น, มวยไทย,เทควันโด ส่วนชนิดกีฬาเพิ่มเติมนั้น สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ที่มีท่านชีค ฟาฮัด อภิมหาเศรษฐีของโลก จะจัดประชุมในเร็วๆ นี้ เพื่อเพิ่มชนิดกีฬามาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์เข้ามาอีกสัก 4-5 ชนิด เช่น มวยปล้ำ, คาราเต้โด, ยูโด,คูราช และหวูซู เป็นต้น
สำหรับประเทศที่เป็นภาคีสมาชิกของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชียที่ได้สิทธิส่งนักกีฬาเข้ามาแข่งขัน ได้แก่ อัฟกานิสถาน, อิหร่าน,เลบานอน, จอร์แดน, อิรัก, คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย,ปาเลสไตน์ บาห์เรน, กาตาร์, ซีเรีย, โอมาน, เยเมน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เนปาล, มัลดีฟส์,ศรีลังกา, อินเดีย, ปากีสถาน, ภูฏาน,บังกลาเทศ, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน,เติร์กเมนิสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน,มองโกเลีย, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, ญี่ปุ่น,เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, เมียนมา, กัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, บรูไน, ติมอร์เลสเต, สิงคโปร์,มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทย รวม 44 ประเทศ
นอกจากนี้ การแข่งขันครั้งที่ 6 นี้ OCA ยังได้เชิญชาติในภูมิภาคโอเชียเนียอีก 19 ประเทศ ให้ส่งทีมนักกีฬาให้เข้ามาแข่งขันด้วย ได้แก่ ออสเตรเลีย, อเมริกันซามัว, เกาะคุก,สหสาธารณรัฐไมโครนีเซีย, ฟิจิ, กวม, คีรีบาติ,นาอูรู, เกาะมาร์แชลล์, นิวคาลิโดเนีย,นิวซีแลนด์, ปาเลา, ปาปัวนิวกินี, เกาะโซโลมอน,ซามัว, ตาฮิติ, วานูอาตู, ตองกา, ตูวาลู ทำให้การแข่งขันครั้งที่ 6 มีประเทศเข้ามาแข่งขันในไทยมากถึง 63 ประเทศเลยทีเดียว
ทางด้านการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของไทยนั้น “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับงานกีฬาเป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ทั้งยังเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯเรียกว่าท่านคุมกีฬาของประเทศไทยอยู่แล้วได้นัดประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันไปบ้างแล้วในนามของบอร์ดของ กกท.งบประมาณจัดการแข่งขันรัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ในปี 2563 และ 2564
แม่งานใหญ่ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตำแหน่งปัจจุบันมี 9 คน ได้แก่ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ดร.ก้องศักด ยอดมณีผู้ว่าการ กกท. พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกฯ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลกรรมการโอลิมปิกสากลฯ พลตำรวจเอกอัศวินขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. นายภัครธรณ์ เทียนไชยผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายสนธยา คุณปลื้มนายกเมืองพัทยา รับรองว่าการแข่งขันรายการนี้ยิ่งใหญ่สมความมุ่งหมายอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี