“ขมิ้นชัน” เป็นสมุนไพรในครัวเรือนที่นิยมนำมาปรุงแต่งรสและสีของอาหาร และเป็น 1 ใน 10 สมุนไพรหลัก ที่รัฐบาลผลักดันให้เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรแห่งชาติ เนื่องจากมีคุณค่าต่อสุขภาพหลากหลาย เช่น เหง้าของขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการอักเสบ และมีฤทธิ์ในการขับน้ำดี น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชันมีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นจุกเสียด จึงมีการนำขมิ้นชันมาผลิตเป็นยาแคปซูลสำหรับรักษาอาการ นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยพบว่าสารในขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ จึงมีการนำขมิ้นชันมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางชะลอความแก่และสปาบำรุงผิวอย่างแพร่หลาย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ผ่านการดำเนินงานของ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร จึงได้ดำเนิน “โครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระจากขมิ้นชันอย่างครบวงจร” โดย วว. ได้ศึกษาวิธีการสกัดและการตรวจควบคุมคุณภาพขององค์ประกอบหลักที่เป็นกลุ่มสารเคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) ในเหง้าขมิ้นชันสด การตรวจพิสูจน์สรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระทั้งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สารสกัดเคอร์คูมินอยด์ที่ได้มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระได้จริง
จากนั้น วว. ได้นำสารสกัดดังกล่าวมาวิจัยและพัฒนาเป็น “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดเม็ดจากขมิ้นชัน” หรือ“TISTRAMIN” มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายต่อสุขภาพ เช่น การอักเสบของเซลล์และการทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ช่วยชะลอความเสื่อมชราหรือการแก่ของเซลล์และการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดเม็ดTISTRAMIN ที่ วว. พัฒนาขึ้นได้ผ่านกระบวนการทดสอบด้านพิษวิทยาเพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ทั้งในระยะเฉียบพลันและระยะกึ่งเรื้อรัง นอกจากนี้ยังตรวจไม่พบคุณสมบัติก่อกลายพันธุ์ของผลิตภัณฑ์ TISTRAMIN เมื่อทดสอบด้วยวิธี micronucleus assay ในเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (V79) จากข้อมูลด้านพิษวิทยาสรุปได้ว่า ผลิตภัณฑ์ TISTRAMIN มีความปลอดภัยแก่การบริโภค โดยผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบที่ระบุใน OECD Guidelines for Testing of Chemicals (2001) ของสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร TISTRAMIN ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตในรูปแบบยาเม็ด ที่มีราคาเครื่องจักรในการตอกเม็ดถูกกว่าเครื่องทำแคปซูล จึงมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อแคปซูล รวมทั้งใช้ระยะเวลา และแรงงานในการผลิตน้อยกว่า อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาตามหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างครบวงจร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลงานวิจัยและพัฒนา วว. ได้ที่ Call center วว. โทร.02-5779300 ในวันและเวลาราชการ E-mail : marketing_tistr@tistr.or.th
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี