ความคืบหน้าของการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติของประเทศไทยขนาดใหญ่เต็มรูปแบบเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บตัวนักกีฬาทีมชาติไทยก่อนไปแข่งขันกีฬานานนาชาติได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์โดยใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งโครงการนี้ริเริ่มตั้งแต่สมัย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ยังเป็นผู้ว่าการ กกท.นั้น ล่าสุดดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.คนปัจจุบันได้ร่วมประชุมกับนายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ ผอ.สำนักก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวงกระทรวงคมนาคม ที่อาคารอำนวยการศูนย์ฝึกกีฬามวกเหล็ก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยกรมทางหลวงมีหน้าที่ปรับพื้นที่สร้างศูนย์ฝึกกีฬารวม 3 ชนิด ได้แก่ศูนย์ฝึกกีฬากอล์ฟ,ศูนย์ฝึกกีฬาเทนนิสและศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล การประชุมเป็นการจัดสรรพื้นที่สำหรับการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาทั้ง 3 ชนิด ซึ่งจะทำการจัดสรรพื้นที่ให้อยู่ภายในพื้นที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก และเร่งดำเนินการก่อสร้างต่อไปศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็กนี้ไ ด้มีการวางแผนการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้มากที่สุด โดยปัจจุบันนี้จะต้องทำภารกิจเดิมที่ผูกพันไว้กับกรมทางหลวง นั่นก็คือการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬากอล์ฟให้สำเร็จ ตามที่ได้ทำการลงนาม MOU ไว้กับกรมทางหลวง แต่เนื่องจากระยะเวลานั้นได้ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปีจึงต้องมีการสำรวจสภาพพื้นที่ใหม่และปรับพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะสม
กกท. ต้องเร่งดำเนินการคือความชัดเจนของการกำหนดจุดที่จะดำเนินการสร้างสนามกอล์ฟซึ่งจะใช้เป็นศูนย์ฝึกกีฬากอล์ฟแห่งชาติ แห่งแรกของไทย และในส่วนของการจัดพื้นที่เพื่อทำการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ โดยจะเป็นพื้นที่ที่ได้มาตรฐาน มีสนามฟุตบอลเมนสเตเดี้ยม และสนามฝึกซ้อม 6 สนาม และในอีกส่วนคือการจัดพื้นที่สำหรับสนามเทนนิส ซึ่งในส่วนของสนามเทนนิสนั้นจะเป็นแห่งแรกที่มีคอร์ตดิน คอร์ตหญ้า และคอร์ตปูนครบถ้วน สำหรับการออกแบบสนามทั้ง 3 ชนิดกีฬานั้น กกท.จะเร่งงานออกแบบโดยเน้นมาตรฐานโลกรับรองว่าสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี