พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และประธานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่29 พ.ค.โดยที่ประชุมให้ความเห็นชอบโครงการส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เยาวชน ประชาชน และบุคลากรทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศโครงการนำร่องประจำปีงบประมาณ 2563 มอบหมายให้ กกท. ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เกี่ยวข้องจัดทำระเบียบการแข่งขันกีฬาและเห็นชอบให้ขอใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 จำนวน 225,000,000 บาท ประกอบด้วย
งบประมาณในการจัดการแข่งขันระดับอำเภอจากเดิม อำเภอละ 250,000 บาท และปรับงบประมาณสมทบเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการ มีประสิทธิภาพ เป็นอำเภอละ 750,000 บาท จำนวน 77 อำเภอ จังหวัดละ 1 อำเภอ รวมเขต กทม. เป็นเงิน 57,750,000 บาท การเตรียมนักกีฬาในการเก็บตัวฝึกซ้อม โดยการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนาในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาระดับอำเภอ ก่อนการแข่งขันระดับภาค เป็นเงิน 35,112,000 บาท อุดหนุนการแข่งขันระดับภาค 5 ภาค ภาคละ 5,000,000 บาท เป็นเงิน 25,000,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน แต่ละอำเภอ จำนวน 42,253,750 บาท, การสร้างแรงบันดาลใจและสร้างกระแสความตื่นตัวในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายในส่วนภูมิภาค จำนวน 54,000,000 บาท และการบริหารจัดการโครงการและติดตามประเมินผล จำนวน 10,884,250 บาท ซึ่งโครงการ ดังกล่าว ได้กำหนดชนิดกีฬาที่จะพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ (โอลิมปิกเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และซีเกมส์) เพื่อขยายฐานและสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ในส่วนภูมิภาคตั้งแต่ระดับอำเภอ ที่จะพัฒนาไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ และจัดทำแผนสำรองการจัดการแข่งขันหลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลับเข้าสู่สภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี