ปะทุดุเดือดตั้งแต่ฟุตบอลไทยลีก ยังไม่กลับมาคืนสนาม สำหรับตลาดลูกหนัง ที่เวลานี้หลายทีมขยับตัวเพื่อเสริมทัพ ก่อนที่จะกลับมาเตะกันอีกครั้งในเดือน ก.ย. นี้
หนึ่งในนั้นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือบิ๊กดีลอย่าง “ตัง” สารัช อยู่เย็นกองกลางทีมชาติไทย ที่เพิ่งอำลา “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรที่เขาค้าแข้งมาตลอด 11 ปี ย้ายมาร่วมทัพ“กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่ไฟแรง
และนี่คือการเปิดใจเป็นครั้งแรกของ “เจ้าตัง” ถึงสาเหตุที่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น ลีโอ สเตเดี้ยม ย่านคลอง 3 พร้อมกับเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างร่วมกับสโมสรแห่งนี้
ความรู้สึกในการย้ายมาร่วมทีมในครั้งนี้ ?
“ก็อย่างที่ให้สัมภาษณ์ไปว่า สโมสร บีจีปทุม นั้นมีความทะเยอทะยานที่อยากจะคว้าแชมป์ค่อนข้างสูง และเวลากับจังหวะมันเหมาะซึ่งมันก็ดีสำหรับเรา โดยส่วนตัวผมก็ยังอยากจะได้แชมป์อยู่ เลยตัดสินใจเลือกมาอยู่ที่นี่”
มีหลายสโมสรให้เลือกทำไมถึงเป็น บีจี ?
“เอาจริงๆ คือ มันก็ใกล้บ้านด้วย และเป็นสโมสรที่ใหญ่ ถึงแม้ปีที่แล้วจะตกชั้น แต่ก็ใช้เวลาแค่ปีเดียวในการกลับขึ้นมา มีเพื่อนๆ หลายคนที่สนิทที่นี่ ทำให้ผมปรับตัวได้ง่าย ผมจึงตัดสินใจเลือกมาที่นี่ก็ใช้เวลาไม่นานในการเลือก 2-3 ทีม ที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา”
มีสโมสรจาก เจลีก ติดต่อมาบ้างไหม ก่อนมาบีจี ?
“ก่อนหน้านี้ก็เคยมีครับ และได้คุยๆบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ยื่นข้อเสนอมาชัดเจน แต่ก่อนจะย้ายมา บีจี ไม่มี”
วางเป้าหมายกับ บีจี ปทุม ไว้อย่างไรบ้าง ?
“ผมมาที่นี่เพื่อต้องการเป็นแชมป์ และเราเพิ่งจะได้ ตูเญซ มาเสริม ประกอบกับนักเตะที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งมีคุณภาพทุกคน เหลือแค่ปรับความสัมพันธ์กันนิดหน่อย ก็เชื่อว่าจะไปถึงแชมป์ไทยลีกได้ ตอนนี้อยากลงสนามมาก เพราะหยุดไปนาน ก็อยากรักษามาตรฐานตัวเองให้ดี เพื่อโอกาสสู่ทีมชาติต่อไป”
คิดว่ากองกลางของทีมดีที่สุดในไทยลีกรึยัง ?
“ผมว่าเราติดท็อป 5 ตอนนี้ก็รอจังหวะ และปรับตัวกันให้ได้เร็วที่สุด ก็เชื่อว่าเราจะทำผลงานได้ดีแน่นอน”
พูดถึง นิว (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) ที่เป็นเพื่อนสนิทหน่อย ?
“เราก็รู้จักกันตั้งแต่เด็ก และอยู่เมืองทองด้วยกัน ติดทีมชาติด้วยกัน สไตล์การเล่น นิวเป็นคนที่มีพละกำลังดี ไม่กลัวใคร บู๊ดุดัน ก็หวังว่าเราจะทำผลงานได้ดีร่วมกันที่นี่ เหมือนที่เคยเป็นมา”
คู่แข่งที่น่ากลัวของ บีจี ?
“ผมมองว่าปีนี้ลุ้นกันสนุกมีหลายทีมเลยที่จะได้ลุ้น ทั้ง บียู, ท่าเรือ, บุรีรัมย์ หรือแม้กระทั่ง เมืองทอง ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะเขายังเป็นทีมใหญ่อยู่ นอกจากนี้ยังมีเชียงราย ที่เป็นแชมป์เก่าอีก ตอนนี้ไทยลีกนั้นพัฒนาทำให้ทุกทีมค่อนข้างใกล้เคียงกันแล้ว อยู่ที่การรักษามาตรฐานและการยืนระยะมากกว่า”
ต้องปรับตัวกับ บีจี นานแค่ไหน ?
“ไม่น่านาน เชื่อว่า ไทยลีก กลับมาลงสนามเตะอีกครั้งก็น่าจะลงตัวเลย”
คิดว่าทีมจะมีโอกาสไปเตะถ้วย ACL ในฤดูกาลหน้าไหม ?
“คิดว่าพร้อม ด้วยศักยภาพตัวผู้เล่นเชื่อว่าจะทำได้ แต่ก็ต้องได้แชมป์ให้ได้ก่อน”
หากเทียบตัวเองกับนักเตะในยุโรป คิดว่าเล่นสไตล์คล้ายใคร ?
“ผมมองว่าสไตล์ตัวเองคล้ายกับ ชาบี เอร์นานเดซ นะ คือเป็นคนควบคุมจังหวะเกมในสนาม”
จะตั้งชื่อลูกว่าอะไร ?
“ลูกชื่อ ตุลย์ เพราะกำลังจะเกิดเดือน ต.ค. นี้ครับ”
จากนี้มีแพลนจะย้ายไปค้าแข้งต่างประเทศไหม ?
“ก็มีแน่นอน แต่ด้วยจังหวะและโอกาสมันยังไม่ได้ ก็ต้องรอต่อไป ตอนนี้อยู่กับ บีจี ก็ต้องการทำผลงานตัวเองให้ดีที่สุดก่อน”
พร้อมกันนี้ สารัช ก็เผยถึงการสวมเสื้อหมายเลข 6 ซึ่งเดิมทีเคยมีผู้เล่นระดับตำนานของ บีจี อย่าง อำนาจแก้วเขียว เป็นเจ้าของ ก่อนจะถูกรีไทร์เพื่อเป็นเกียรติให้เจ้าตัวที่ค้าแข้งและสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมมาตั้งแต่ปี 2006 จนตอนนี้ได้ผันตัวมาเป็นโค้ช
“เป็นเกียรติมากครับที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 6 ตอนแรกผมจะเลือกเบอร์ 33 เพราะรู้ว่าเบอร์ 6 ของบีจี นั้นถูกยกเลิกไปแล้ว แต่หลังจากทุกฝ่ายได้คุยกันในเรื่องนี้ ซึ่ง น้าอ่ำ (อำนาจ แก้วเขียว) ก็มอบเบอร์ 6 ให้เรา และเมื่อได้รับมา ก็จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดครับ”
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี