หลังจากที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ประกาศผลโหวตสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในอาเซียน ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยผลการโหวตปรากฏว่าสนามเกโลรา บุง การ์โน ของประเทศอินโดนีเซีย คว้าอันดับ 1 ไปครอง ส่วนอันดับ 2 เป็นของ บูกิตจาลิล ของประเทศมาเลเซียขณะที่อันดับ 3 เป็นสเตเดี้ยม ออสเตรเลีย ของประเทศออสเตรเลียโดยราชมังคลากีฬาสถานของประเทศไทย ได้อันดับ 4 และอันดับ 5เป็นของ มีดินห์ สเตเดี้ยม ของประเทศเวียดนาม
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า กกท. พร้อมที่จะผลักดันให้ราชมังคลากีฬาสถาน ก้าวขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 3 สนามที่ดีที่สุดของอาเซียนให้ได้ในอนาคต ยอมรับว่าการขยายจำนวนที่นั่งผู้ชมให้มากขึ้น หรือให้เท่ากับ 3 อันดับแรก คงเป็นไปไม่ได้แต่ในด้านของการอำนวยความสะดวก ความทันสมัย และได้มาตรฐาน เชื่อมั่นเราทำได้แน่นอน
“ขณะนี้ กกท. กำลังดำเนินการโครงการเนชั่นแนลสปอร์ตพาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานของตน เพื่อปรับปรุงราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาหัวหมาก และเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวก ความทันสมัย รวมถึงมาตรฐานด้านต่างๆ เข้าไป เชื่อว่าในส่วนนี้จะเป็นจุดเด่นสนามของประเทศไทย ที่จะทำให้เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติได้อย่างแน่นอน”
สำหรับสนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้าของทีมชาติไทย ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเป็นสังเวียนหลักของการแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี