การแข่งขันฟุตบอล “ลา ลีกา” ซึ่งเป็นลีกดิวิชั่น 1 ของประเทศสเปน ในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนนี้มีการแข่งขัน 4 คู่ โดย 2 ทีม จากแคว้นคาตาลุนญ่าแต่อยู่ในสภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจะลงสนามเริ่มจาก 18.00 น. “ไอ้นกแก้ว” เอสปันญ่อล ที่อมบ๊วยจนปากชา และกองอยู่ก้นตารางมาตลอดฤดูกาล ต้องเจอกับ อลาเบส ผู้มาเยือนจากบิตอเรีย-กาสเตอิซ ในแคว้นบาสก์ ที่กำลังต้องการแต้มเพื่ออยู่รอด ขณะที่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า คู่ปรับเอสปันญ่อล ซึ่งเป็นทีมนำฝูง และไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 27 ในประวัติศาสตร์ จะบุกไปเยือน “ชาวเกาะ” เรอัล มายอร์ก้า และอีกคู่ เลกาเนส พบ เรอัล
บายาโดลิด
เกมสำคัญอยู่ที่ บาร์ซ่า จะยกพลไปเยือน “ชาวเกาะ” เรอัล มายอร์ก้า ที่บาเลริค ไอส์แลนด์โดยที่เป้าหมายของทั้งสองทีมต่างกัน โดยที่เจ้าถิ่นนั้นกำลังดิ้นรนหนีตายสุดชีวิต ผิดกับฝั่ง บาร์ซ่า ที่ต้องการทุกคะแนนเพื่อไล่ล่าตำแหน่งแชมป์
เจ้าถิ่นไม่มีแน่นอนคือ เลโอนาร์โด้ คูตริส กับ ลูมอร์ อั๊กเบนเยนู ที่บาดเจ็บทั้งคู่ พร้อมกับฝากความหวังไว้ที่ อันเต้ บูดิมีร์ หัวหอกคนสำคัญที่ผลงานดีที่สุดของทีมทั้งค่าเฉลี่ยนในการเล่น และซัดไปแล้วมากที่สุดของทีมคือ 19 ประตู
ทางฝั่ง บาร์ซ่า จะนำทัพโดย ลีโอเนล เมสซี่ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนตินา ที่ซัดไปแล้ว 19 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ แต่จะขาด อุสมัน เดมเบเล่ ปีกดาวรุ่งกระดูกเปราะที่ยังเจ็บ และเกลมองต์ลองเลต์ ปราการหลังฝรั่งเศส ที่ติดโทษแบน ที่เหลือพร้อมทั้งหมด โดย ซามูแอล อุมตีตี้ จะลงมาเล่นเซ็นเตอร์แบ๊กร่วมกับ เคราร์ด ปีเก้ ส่วนแนวรุกนั้น หลุยส์ ซัวเรซ ฟิตกลับมาแล้ว จะเล่นกับ เมสซี่และอองตวน กรีซมันน์ ทั้งนี้ หากพวกเขาชนะจะทำแต้มห่าง เรอัล มาดริด ที่มีคิวเตะวันอาทิตย์ออกไปเป็น 5 แต้มทันที
ทางด้านฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี แมทช์เดย์ที่ 31 “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูงและแชมป์เก่า จะเปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า รับมือ“สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่กำลังลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก ในเวลา 23.30 น.
ในตอนนี้ บาเยิร์นฯ ขออีกแค่ 6 แต้มเพื่อการันตีแชมป์เมืองเบียร์สมัยที่ 30 ทันที โดยไม่ต้องรอดูบอลจากคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งตอนนี้พวกเขามีแต้มเหนือ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่จะต้องบุกไปเยือน ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ในเวลา20.30 น.
ประเด็นคือเกมนี้ บาเยิร์นฯ ต้องปวดหัวเมื่อสองแกนรุกตัวฉกาจระดับแม่ทัพนายกองอย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงไป 30 ลูก และ โธมัส มุลเลอร์ ที่แอสซิสต์ไป 20 ลูก ติดโทษแบนลงเล่นไม่ได้ ทำให้คงจะต้องปรับแนวรุกกันเป็นพัลวัน คาดว่า อีวาน เปริซิซ กับ ธิอาโก้ อัลคันตาร่า จะได้ลงแทน พร้อมกับดัน เลออน กอเร็ตซ์ก้า ขึ้นมาเดินเกมรุก แล้วให้ เปริซิซ ออกไปพิงริมเส้นซ้าย แล้วให้ แซร์จ กนาบรี้ ปักหอก
ฝั่ง กลัดบัค ยังไม่มี เดนิส ซาคาเรีย, โทเบียสสโตรเบิ้ล และฟาเบียง จอห์นสัน ที่ยังเจ็บทั้งหมด ที่สำคัญก็คือ อเลสซาน เพอา กองหน้าคนสำคัญก็มาติดโทษแบนพอดี ทำให้เกมรุก โยนาส ฮอฟมันน์ต้องประสานกับ ลาร์ส สตินเดิ้ล และมาร์คุส ตูรามในการลุ้นสกอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี