“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้2019-20 ประสบปัญหาช่วง 4 นัดสุดท้าย ของฤดูกาล เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าต้องพักยาวทั้งฤดูกาลที่เหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เฮนโด้ บาดเจ็บจากเกมบุกชนะ ไบรท์ตัน 3-1 ได้เข้ารับการสแกนตอนบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลคือ เฮนเดอร์สัน ได้รับความเสียหายบริเวณเอ็นหัวเข่าซ้าย ซึ่งอาจหมายถึงการฟื้นตัวอย่างน้อย 8 สัปดาห์เลยทีเดียว และอาจจะส่งผลกระทบถึงฤดูกาลหน้าที่จะเปิดขึ้นในกลางเดือนกันยายนอีกด้วย
ในวันเสาร์นี้ ลิเวอร์พูล จะเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ โดยที่ “หงส์แดง” ลุ้นชนะในบ้านทุกนัดในฤดูกาลนี้เป็นเกมที่ 18 และชนะในบ้านติดต่อกันเป็นเกมที่ 25 พร้อมกันนี้ยังลุ้นทำคะแนนเหนือรองแชมป์มากที่สุด โดยตอนนี้นำอยู่ 23 คะแนน สถิติเดิมทิ้งห่างสูงสุดคือ 19 คะแนน
นักเตะฟอร์มกลับมาแรงอย่าง “โมฮาเหม็ด ซาลาห์”จะนำทัพลงสนาม หลังจากทำสถิติยิงไปแล้ว 19 ประตู กับอีก9 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทุกรายการยิงไป 23 ลูกกับ 12 แอสซิสต์ จากผลงานในเกมนี้ทำให้ ซาลาห์ ทำประตูรวมนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ไปแล้ว 73 ประตู กับ 27 แอสซิสต์ จากการลงสนามเพียง 104 เกมเท่านั้น กลายเป็นนักเตะที่ทำสถิติมีส่วนร่วมกับประตูของทีมครบ 100 ลูกเร็วที่สุดในเวทีพรีเมียร์ลีก
พร้อมกับทำสถิตินักเตะที่ทำสถิติมีส่วนร่วมกับประตูของทีมครบ 100 ลูกเร็วที่สุดในเวทีพรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้ก็คือ ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ใช้เวลา 148 เกม ตามด้วย ร็อบบี้ ฟาวเลอร์158 เกม และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 212 เกม
สถิติการเจอกันของคู่นี้ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าด้วยการชนะ 38 เสมอ 20 เบิร์นลี่ย์ ชนะ 27 ขณะที่สถิติทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะ 47 เสมอ 25 เบิร์นลี่ย์ ชนะ 33 เจอกันในยุคพรีเมียร์ลีก11 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 9 เสมอ 1 และแพ้หนเดียวเมื่อ 20 สิงหาคม 2016 ที่เทิร์ฟมัวร์
ทางด้าน พรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันและกล่าวขอโทษหลังจากวีดีโอช่วยในการตัดสิน หรือVAR ผิดพลาดถึง 3 ครั้งในการดวลแข้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีผลให้เปลี่ยนโฉมหน้าการแข่งขัน
ทั้ง 3 เกม คือ 1.แมนยูฯ ไม่ควรได้จุดโทษ,2.เซาแธมป์ตัน ไม่ควรได้จุดโทษ และ 3.สเปอร์สควรได้จุดโทษ
ลูกที่ 1 เกม วิลล่า กับ แมนฯยูไนเต็ด ในนาทีที่ 27 เมสัน กรีนวู้ด ส่งให้ อ็องโตนี่ย์ มาร์กซิยาล แล้วแตะต่อให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ม้วนตัวรับบอลแล้วถูก เอซรี่ คอนซ่า แหย่ขาสกัด แฟร์นันด์ส ล้มลง โดย ผู้ตัดสินให้ฟรีคิกในจังหวะแรก ก่อนจะดู วีเออาร์ แล้วให้จุดโทษ ก่อนจะเบิกทางให้ แมนยูฯ บุกชนะสบายๆ 3-0 ทำสถิติไร้พ่าย 17 เกมติด แต่ได้จุดโทษไปแล้วเป็นสถิติลีกถึง 13 ลูก
ลูกที่ 2 ในเกมระหว่างเอฟเวอร์ตัน กับ เซาแธมป์ตันในนาที 28 “นักบุญ” ได้ลูกจุดโทษ หลัง อังเดร โกเมส มีปะทะกับ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที แต่ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ที่ยิงไม่เข้า ก่อนจะเสมอกัน 1-1
ลูกที่ 3 เกมระหว่าง สเปอร์สกับ บอร์นมัธ ในนาทีที่ 6 โจชัว คิง วิ่งชนด้านหลังของ แฮร์รี่ เคน ที่พยายามเข้าพังสกอร์จากลูกเตะมุม กรรมการไม่ได้รับการเตือนจากสัญญาณ VAR ทำให้เกมเตะต่อ ก่อนจะเสมอกันไปแบบไร้สกอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี