“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2019-20 ยืนยันพร้อมบุกทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แบบใส่เต็มสูบ เพื่อลุ้นทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ได้กดดันอะไร เพราะยังไงก็ถือว่า ได้แชมป์มาครองแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าสถิติ ในการดวลแข้งคืนวันพุธนี้เวลา 02.15 น. ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง รอทดสอบความฟิตของ เดยัน ลอฟเรน กับ เจมส์ มิลเนอร์ ว่าจะพร้อมเป็นกำลังเสริมหรือไม่ เพราะ จอร์แดน เฮนเดอร์สันกับ โฌแอล มาติ๊ป ลงเล่นไม่ได้อยู่แล้ว คาดว่า นาบี เกอิต้าจะได้กลับมาเป็นตัวจริงในแดนกลาง กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่จะได้เยือนถิ่นเก่า ส่วน 3 ประสานเกมรุกน่าจะยังใช้งาน ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์
ฝั่งเจ้าบ้านน่าสนใจว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มจะพักนักเตะคนสำคัญๆ เพื่อเตรียมทำศึกเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศ ที่มีคิวเตะกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันเสาร์นี้หรือไม่ เนื่องจากทีมก็มีปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ เลโน, คัลลัม แชมเบอร์,ปาโบล มารี, กาเบรียล มาร์ติเนลลีร่, เมซุต โอซิล และตัวแบนอย่าง เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียห์ แต่คาดว่าแดนกลางจะใช้ ดานี่ เซบายอส เป็นตัวหลัก และวาง อเล็กซงดร์ลากาแซตต์ เป็นหน้าตัวความหวัง
ทางด้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งคดีการโกงเพื่อนร่วมอาชีพด้วยการใช้เงินแบบผิดกฎมาแบบช็อกแฟนบอลทั่วโลก จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อหนีตายอยู่ในตอนนี้
เจ้าถิ่นถือว่าสภาพทีมพร้อมมาก ไม่มีแค่ เซร์คิโออเกวโร่ กองหน้าอาร์เจนตินา เพียงคนเดียวเท่านั้นที่บาดเจ็บคาดว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือจะจัดทัพแบบเต็มพิกัดลงเล่นเหมือนเดิม แม้จะมีเกมเอฟเอ คัพ รออยู่ในวันเสาร์นี้ก็ตามที
ฝั่งผู้มาเยือนที่เพิ่งกลับมากำชัยได้สำเร็จหลังจากล็อกดาวน์ ทำให้มีความหวังในการอยู่รอดขึ้นมาในทันทีแต่เกมนี้รอเช็คฟิตถึง 4 คนด้วยกันคือ ไซม่อน ฟรานซิส,คริส เมฟาม, อดัม สมิธ และโจชัว คิง แต่ นาธาน เอเก้ปราการหลังคนสำคัญ และชาร์ลี แดเนี่ยลส์ บาดเจ็บลงเล่นไม่ได้ ทำให้แผงรับนั้นต้องใช้ สตีฟ คุ้ก เล่นกับลอยด์ เคลลี่
ขณะเดียวกัน หลังจากที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่เสมอกับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน2-2 แฟนบอลบนโลกออนไลน์ขยี้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์เละเทะ หลังจากยืนตำแหน่งผิดแบบเฟอะฟะ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียประตูสำคัญในช่วงทดเวลาเจ็บและเสียคะแนนสำคัญ ทำให้ต้องลุ้นไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีกแบบหืดจับต่อไป ทั้งที่มีการลงทุนซื้อนักเตะไปกว่า 150 ล้านปอนด์ ในปีนี้
จังหวะดังกล่าว แม็กไกวร์ ยืนคุมพื้นที่ ก่อนที่จะขยับเข้าไปหา อาร่อน วาน-บิสซาก้า เพื่อนร่วมทีมที่ตอนนั้นตามประกบ แจ็ค สตีเฟ่นส์ แล้ว แม็กไกวร์ ดันไปกดวาน บิสซาก้า ก่อนบอลจะเลยทั้งสองคนมาเข้าทางตีนของโอบาเฟมี่ จิ้งเข้าไปตุงตาข่าย
แฟนบอลยูไนเต็ดเองถึงกับสบถและประชดว่า แม็กไกวร์ ทำได้เสมอเมื่อต้องประกบพวกเดียวกันเอง และทำผลงานได้แย่ไม่คุ้มราคา 80 ล้านปอนด์ โดยก่อนหน้า แม็กไกวร์ เพิ่งโดนหลอกลอดขาจนเสียประตูในเกมกับ บอร์นมัธ และถูกแฟนบอลเรด เดวิลล์ ที่อังกฤษสับเละว่า “ไอ้ทึ่ม” จะเป็นเหตุให้ด่ากันเองในโลกออนไลน์มาแล้ว
ส่วน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนฯยูไนเต็ด ยอมรับว่า เรามาเสียประตูในช่วงเวลาแบบนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก แต่ฟุตบอลมันสามารถเกิดอะไรแบบนี้ได้อยู่แล้ว เราต้องเรียนรู้เพื่อกลับสู่เส้นทางชัยชนะให้ได้เหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี