การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ ครั้งที่ 139 ประจำซีซั่น 2019-20หรือ The Emirates FA Cup เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศที่สนามนิว เวมบลีย์ ในคืนวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2563 โดยในนัดชิงชนะเลิศจะใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “The Heads Up FA Cup Final” โดยเป็นการโคจรมาปะทะกันระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แชมป์สูงสุดถ้วยนี้ 13 สมัย กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แชมป์ 8 สมัย ซึ่งเป็นเกมลอนดอน ดาร์บี้แมทช์อีกด้วย
l The Heads Up FA Cup Final
แคมเปญ Heads Up ริเริ่มโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงแคมเปญ Heads Together มีเป้าหมายในการจะใช้อิทธิพล และความนิยมของฟุตบอล ร่วมดูแลในเรื่องของสุขภาพจิต ด้วยการใช้เวลา 1 นาทีก่อนเกมการแข่งขัน หรือ “Take a Minute” เพื่อที่จะคิดถึงการดูแลสุขภาพจิตของตัวเรา และของคนอื่นๆ เพื่อเพิ่มความตระหนักถึงผลกระทบเชิงบวกของทุกคน ทำให้เอฟเอ คัพ ที่ผ่านมาในปีนี้จะสตาร์ทด้วยเวลา อาทิ 22.01 น. หรือ 23.01 น. เป็นต้น
ในสหราชอาณาจักร เจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุค ออฟ เคมบริดจ์ ทรงผลักดันโครงการหนึ่งที่เรียกว่า Heads Together ในการส่งเสริม “Heads Up” โดยพระองค์ตรัสว่า เราจะใช้เกมฟุตบอลเอฟเอ คัพ เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนโดยเฉพาะในช่วงนี้ เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างมาก เนื่องจากเราทุกคนได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ที่จะต้องให้กำลังใจกันและกัน
โครงการนี้ เจ้าชายวิลเลี่ยม เจ้าหญิงเคท และเจ้าชายแฮร์รี่พระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีปัญหาโรคซึมเศร้า และสภาวะทางจิตใจ
l “เอฟเอ”ขอบคุณทุกฝ่ายที่แข่งต่อ
มาร์ค บุลลิ่งแฮม ผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เป็นตัวแทนของ เอฟเอ กล่าวขอบคุณทุกๆ สโมสรสมาชิก ที่ร่วมมือกันอย่างดี และยอมรับวันที่รีสตาร์ทชั่วคราวสำหรับเอฟเอ คัพในฤดูกาลนี้
“การแข่งขันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินฟุตบอลอังกฤษมาเกือบ 150 ปีแล้ว และเราขอขอบคุณผู้บริหารและสโมสรในพรีเมียร์ลีกที่ให้การสนับสนุนพวกเขาในการจัดตารางนัดการแข่งขันที่เหลือในช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับการระบาดแบบนี้”
สำหรับ เอฟเอ มี เจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุค ออฟ เคมบริดจ์ เป็นองค์ประธานใหญ่(President) ตั้งแต่ปี 2006 ดูแลอังกฤษ,เจอร์ซี่ย์, เกิร์นซี่ย์, และเกาะแมน ขณะที่ เกร็ก คลาร์ก เป็นประธานบริหารตั้งแต่ปี 2016 โดยรับไม้ต่อมาจาก เกร็ก ไดค์ โดยเข้าร่วมกับฟีฟ่า รวมทั้งสิ้น 3 รอบ ตั้งแต่ปี 1905-1920, 1924-1928 และ 1946 จนกระทั่งปีปัจจุบัน
สำคัญที่สุดก็คือ เอฟเอ ดำรงตำแหน่งถาวรในคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFAB) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อกฎหมายของเกม ในฐานะสมาคมฟุตบอลแห่งแรกของโลก
ทีมฟุตบอลอาชีพทั้งหมดของอังกฤษเป็นสมาชิกของเอฟเอ แม้ว่า พรีเมียร์ลีก จะมีความเป็นเอกเทศ แต่ เอฟเอมีอำนาจในการยับยั้งการแต่งตั้งประธานลีกและหัวหน้าผู้บริหาร รวมถึงเป็นผู้ถือกฎ และสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของลีกได้อีกด้วย
l นัดชิงแบบ “นิว นอร์มอล”
เกมนี้ รัฐบาล กับ สาธารณสุขอังกฤษ(NHS) ไม่อนุญาตให้มีผู้ชม และจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 400 คนในสนาม และจะไม่มีพิธีขึ้นไปรับถ้วยบนอัฒจันทร์ตรง “รอยัล บ็อกซ์” แต่อย่างใด โดยจะรับด้านล่างแทน
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น 15 นาที เป็นพิธีที่ทำเป็นทำเนียมปฏิบัติที่จะต้องร้องเพลงประจำการแข่งขัน นั่นคือเพลง Abide with Me ซึ่งเป็นเพลงประจำการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1927 ซึ่งปีนั้น อาร์เซนอล ชิงกับ คาร์ดิฟฟ์
ปีนี้ นักร้องสาว เอมิลี่ แซนเด้ วัย 33 ปี ลูกครึ่งแซมเบีย-อังกฤษ เจ้าของรางวัลบริต อวอร์ด ปี 2013 ที่เคยขึ้นแสดงทั้งพิธีเปิดและปิดโอลิมปิกเกมส์ 2012 จากซันเดอร์แลนด์ ย่านไทน์ แอนด์ เวียร์ จะขับร้อง แต่จะไม่ได้แสดงสด โดยจะเป็นภาพบันทึกเอาไว้ก่อน แต่มีข่าวหลุดว่า เธอจะขึ้นไปร้องเพลงบนหลังสนาม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว
“ด้วยความรักความยุติธรรมและเอกภาพเท่านั้นที่จะได้รับการเยียวยาจากความเกลียดชังและการแยกจากกัน แทนที่ชนชาติด้วยความยุติธรรมสำหรับทุกคน” แซนเด้ กล่าว
ส่วนเพลง God Save The Queen จะขับร้องโดย วงโอเปร่าเยาวชน หรือ The British Youth Opera
ทั้งนี้สองทีมคู่ชิงมีส่วนกับการติดเชื้อไวรัสในช่วงเริ่มต้น จนเป็นเหตุให้วงการฟุตบอลอังกฤษสั่งประกาศหยุดเตะทันที โดย มิเกลอาร์เตต้า กุนซือปืนคือผู้จัดการทีมคนแรกของลีกที่ติดเชื้อ และคัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปีกเชลซี ก็เป็นนักบอลคนแรกของลีกที่ติดเชื้อเช่นกัน
l ตัวเลข-ข้อมูลเอฟเอคัพ 2019-20
ในซีซั่นนี้มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 735 สโมสร จากประเทศอังกฤษ, แคว้นเวลส์ และเกาะเกิร์นซี่ย์ เข้าร่วมดวลแข้ง โดยมีแมทช์ดวลแข้งกันไปแล้วทั้งสิ้น 155 นัด ยิงไป 426 ประตู เฉลี่ยนัดละ 2.75 ลูก
ดาวซัลโวคือ เจมส์ บอลล์ มิดฟิลด์ของทีมโซลิฮัลล์ มัวร์และ แฮร์รี่ แม็คเคียร์ดี้ กองหน้าของคาร์ไลส์ ยูไนเต็ด ยิงไปคนละ 5 ประตู
ในส่วนของหนังสือโปรแกรมประจำการแข่งขัน หรือ แมทช์เดย์มีจำหน่ายในราคา 10 ปอนด์ มีทั้งหมด 116 หน้า
สำหรับสนามนิว เวมบลีย์ ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 2003 และเปิดใช้ในปี 2007 ด้วยงบประมาณกว่า 789 ล้านปอนด์ ในสมัยนั้น
แต่ถ้าเป็นยุคนี้จะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท มีความจุ 90,000 ที่นั่งดีไซน์โดย HOK Sport (โปปูลอส) กับ ฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส ความสูง 440 ฟุต โดยสถาปัตยกรรมเพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความทันสมัยยุคโมเดิร์น มีเส้นรอบวงบนกลางอากาศ พร้อมมีห้องน้ำถึง 2,618 ห้อง มากที่สุดในสนามกีฬาระดับโลก สามารถเดินทางมาได้หลายช่องทางจากรถโดยสารสาธารณะทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน London Underground และรถไฟ National Rail รวมทั้งสิ้น5 สาย 3 สถานี คือ เวมบลีย์ พาร์ค, เวมบลีย์ เซ็นทรัล และ เวมบลีย์สเตเดี้ยม
l ความพร้อมของอาร์เซนอล
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือเคยเป็นแชมป์รายการนี้กับ “ปืนใหญ่”สมัยเป็นนักบอล 2 สมัย นำทัพมาล่าแชมป์ หลังจากรับตำแหน่งได้แค่ 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม รอตัดสินใจว่าจะให้เซอัด โคลาซินาช หรือ คีแรน เทียร์นี่ย์ คนใดคนหนึ่งยืนกองหลังด้านตัวจริง ร่วมกับ ดาวิด ลุยซ์ และร็อบ โฮลดิ้ง ในระบบ 3-4-3 ซึ่ง ชโคดราน มุสตาฟี่ บาดเจ็บไปแล้วก่อนหน้านี้
ในส่วนตำแหน่งอื่นๆ กำลังเล่นได้ลงตัว บูกาโย่ ซาก้าไปปักหลักเล่นด้านซ้าย โดยที่ กรานิต ชาก้า กับ ดานี่ เซบาญอสเดินเกมตรงกลาง ส่วนแนวรุก 3 คน ปิแอร์ เอเมริค-โอบาเมยัง เล่นกับ นิโกลัส เปเป้ และอเล็กซงดร์ ลากาแซตต์
ทั้งนี้หาก อาร์เซนอล ชนะ จะเป็นแชมป์ถ้วยนี้มากที่สุดเพิ่มขึ้นเป็น 14 สมัยทันที
l ความพร้อมของเชลซี
แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ บนวัย 42 ปี ลุ้นแชมป์ตั้งแต่จับงานที่เดอะ บริดจ์ ตั้งแต่ปีแรก หลังจากตัวเขาเคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้ถึง 4 สมัยในช่วงค้าแข้ง และลุ้นนำ เชลซี ครองถ้วยนี้เป็นสมัยที่ 9 ซึ่งทีมปรับมาใช้ระบบ 3-4-3 รอเช็คแค่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แค่คนเดียวเท่านั้น ที่เหลือพร้อมลงสนาม
คริสเตียน พูลิซิซ ที่กลับมาฟิตเต็มถังจะได้เดินเกมรุกตัวจริง ร่วมกับ เมสัน เมาท์น ทำให้ วิลเลี่ยน ต้องสตาร์สำรองไปก่อน โดยหน้าเป้า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่กำลังเข้าฟอร์มจะได้ยืนหน้าเป้า ส่วนด่านสุดท้ายนั้น วิลลี่ กาบาเยโร่ จะได้รับความไว้วางใจต่อไป
l 11นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซนอล : เอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ-ร็อบ โฮลดิ้ง, ดาวิด ลุยซ์,คีแรน เทียร์นี่ย์-เอ๊คตอ เบเยริน, ดานี่ เซบาญอส, กรานิต ชาก้า,บูกาโย่ ซาก้า-ปิแอร์ เอเมริค-โอบาเมยัง, นิโกลัส เปเป้ และอเล็กซงดร์ลากาแซตต์
เชลซี : วิลลี่ กาบาเยโร่-เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า, ควร์ต ซูม่า,อันโตนิโอ รือดิเกอร์-รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ, มาร์กอสอลอนโซ่-คริสเตียน พูลิซิซ, เมสัน เมาท์น และโอลิวิเยร์ ชิรูด์
l เส้นทางสู่นัดชิงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : รอบ 3 ชนะ ลีดส์(เหย้า) 1-0, รอบ 4 ชนะ บอร์นมัธ (เยือน) 2-1, รอบ 5 ชนะ พอร์ทสมัธ(เยือน) 2-0, รอบ 6 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด(เยือน) 2-1, รอบรองฯ ชนะ แมนเชสเตอร์
ซิตี้ (สนามกลาง) 2-0
เชลซี : รอบ 3 ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์(เหย้า) 2-0, รอบ 4 ชนะ ฮัลล์(เยือน) 2-1, รอบ 5 ชนะ ลิเวอร์พูล (เหย้า) 2-0, รอบ 6 ชนะ เลสเตอร์(เยือน) 1-0 และรอบรองฯ ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(สนามกลาง) 3-1
l Head to Head
คู่นี้เจอกันในถ้วยเอฟเอ คัพ ปรากฏว่า อาร์เซนอล เหนือกว่าด้วยการชนะ 9 เสมอ 6 เชลซี ชนะ 5 โดยพบกันในนัดชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง อาร์เซนอล ชนะได้ทั้ง 2 ครา ด้วยสกอร์ 2-0 ปี 2002 และ 2-1 ปี 2017
นอกจากนี้เคยพบกันในฟุตบอลถ้วยอีก 2 รายการ นั่นคือนัดชิงลีกคัพ ปี 2007 เชลซี ชนะ 2-1 และนัดชิงยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซี ชนะ 4-1 ส่วนการพบกันครั้งแรกของคู่นี้เกิดขึ้นเมื่อ 113 ปีที่แล้ว
ผู้สัดทันกรณีที่อังกฤษ และบริษัทพูลถูกกฎหมายยกให้ เชลซีเหนือกว่า ด้วยโอกาสคว้าแชมป์อยู่ที่ 6-10 หรือแทง 10 ได้คืน 6 ขณะที่ อาร์เซนอล อยู่ที่ 11/8 หรือแทง 8 ได้ 11 ส่วนโอกาสที่จะเสมอกันใน 90 นาทีอยู่ที่ 5-2 หรือ แทง 5 ได้ 2 สำหรับสกอร์ที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดอยู่ที่ เชลซี ชนะ 2-1
ทั้งนี้ มิเกล อาร์เตต้า แพ้นัดแรกในถิ่นของการคุมทัพ อาร์เซนอล ก็คือแพ้ เชลซี 1-2
l อัตราต่อรอง : เชลซี ต่อ เสมอควบครึ่ง
l ฟันธง : 90 นาทีอาจไม่จบ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี