เรื่องราวที่ดังคับโลกวงการกีฬาได้ “จบ” แบบ “ไม่จบ” ลงแล้ว
ลีโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังแห่งยุคชาวอาร์เจนตินา ตัดสินใจ จะอยู่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดออกไปอีก 1 ฤดูกาล ด้วยเหตุที่ว่า ไม่ต้องการให้ทีมรักของเขาต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่สับแหลกบอร์ดบริหารบาร์ซ่าชุดนี้ดีแต่พูด และนำหายนะเข้าสู่สโมสรตลอดมา
“เป็นความสัตย์ ที่ผมต้องการย้ายทีม เพราะผมไม่มีความสุขแต่บาร์ซ่าขัดขวางผม ซึ่งการบริหารงานของ โจเซฟ บาร์โตเมว ถือว่าแย่มากๆ เขาไม่รักษาคำพูด การบริหารงานของเขาคือ หายนะ”
จอมทัพหมายเลข 10 กล่าวต่อไปว่า มันเป็นปีที่ยากลำบากมาก ผมต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากในการฝึกซ้อมในเกมและในห้องแต่งตัว ซึ่งประธาน ก็พูดอยู่เสมอว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลผมสามารถตัดสินใจได้ว่า ผมจะไปหรืออยู่ต่อ และสุดท้ายเขาก็ไม่ยอมรักษาคำพูดของเขาเอง ที่ผ่านมาผมบอกกับประธานสโมสรว่า ผมอยากย้ายทีม ผมบอกเขามาตลอดทั้งปี มันน่าเศร้า เพราะผมอยากเลิกเล่นอาชีพที่นี่มาตลอด ซึ่งผมจะอยู่ที่บาร์เซโลน่าต่อไปอีก 1 ปี และทัศนคติของผมจะไม่เปลี่ยนไป ไม่ว่าผมจะอยากย้ายทีมแค่ไหนก็ตาม
“ผมต้องการแข่งขันในระดับสูงสุดคว้าแชมป์รายการแข่งขันในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งคุณสามารถชนะหรือแพ้ได้ แต่คุณต้องไม่เละเทะแบบที่เกิดขึ้น 3 ปีหลังทั้งที่โรม, ลิเวอร์พูล และลิสบอน ทั้งหมดนั้นทำให้ฉันคิดถึงการตัดสินใจที่ผมไม่เคยทำ ผมต้องการแผนงานโครงการที่ชัดเจน เพื่อชนะ เพื่อเป็นแชมป์ เพื่อเติมต่อตำนานของบาร์เซโลนา แต่ในความจริงก็คือไม่มีโครงการ หรือแผนงานอะไรมานานแล้ว พวกเขาเล่นปาหี่และปิดช่องโหว่เมื่อสิ่งต่างๆ ผ่านไป!!!!!”
เมสซี่ ยอมรับว่า เขาเจ็บปวดกับสิ่งต่างๆที่ได้ยินจากผู้คน และจากสื่อที่ตั้งคำถามกับเป็น “บาร์เซโลนิสโม” ของเขา แต่นั่นแหล่ะมันช่วยให้ผมเห็นว่าใครเป็นใคร และมีคนจอมปลอมมากมายขนาดไหนในโลกนี้
“มันทำให้ผมเจ็บปวดเมื่อความรักของผมที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ถูกตั้งคำถาม จำไว้....ความรักของฉันที่มีต่อ บาร์ซ่า จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่วงการลูกหนังโลกจับตามองความเคลื่อนไหวของ เมสซี่ ทุกย่างก้าวของเขาคือสิ่งที่น่าสนใจ เขาจะไปไหนกันแน่
เพราะทั้งตัวทั้งหัวใจ และจิตวิญญาณของเขาคือ บาร์เซโลน่า
ทั้งหมดนี้คือไทม์ไลน์ที่น่าสนใจกับเหตุการณ์วุ่นวายระดับโลกในคราครั้งนี้!!!!
16 สิงหาคม
หลังจากการตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกแบบเละเทะ ด้วยการที่ บาร์ซ่า พ่าย บาเยิร์นฯ 2-8 ทำให้มีข่าวว่า เมสซี่ อาจจะอำลาทีม
สมาชิกบางคนของคณะกรรมการบริหารของบาร์ซ่า พร้อมจะเปิดโต๊ะเจรจาให้สโมสรขายออกไปจากทีม หากมีความต้องการจะย้ายทีมจริงๆ เพื่อจะได้นำเงินจากการขายทั้งหมดไปลงทุนในการสร้างทีมใหม่
17 สิงหาคม
โรนัลด์ คูมัน ปรากฏภาพเตรียมเข้าตบตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ หลังจากกระแสการปลด กีเก้ เซเตียน หนักขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายก็มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อ เซเตียน โดนปลดในอีกไม่ถึง24 ชั่วโมงต่อมา เพราะทำทีมย่อยยับที่สุดในรอบกว่า 70 ปี
18 สิงหาคม
ไม่เพียงแต่การปลด กีเก้ เซเตียน ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ทีมยังปลด เอริก อบิดัล จากผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรหลังจากทำงานตำแหน่งนี้มา 2 ปี
อบิดัล เคยมีข่าวจะโดนเด้งมาแล้ว หลังจากมีปัญหากับลิโอเนล เมสซี่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
20 สิงหาคม
แต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 พร้อมกับมีข่าวว่า จะมีการผ่าตัดทีม และเหลือนักบอลที่จะอยู่ต่อแน่ๆ แค่ 8 คนเท่านั้น
21 สิงหาคม
ลีโอเนล เมสซี่ เตรียมลดวันหยุดพักผ่อน เพื่อเดินทางมาพบกับ โรนัลด์ คูมัน นายใหญ่
จากนั้นมีการปูดข่าวว่า เมสซี่ บอกกับ คูมันว่า มองไม่เห็นอนาคตที่ดีของทีม และคิดว่าการย้ายทีมน่าจะเหมาะสมกว่าที่จะอยู่กับทีมต่อ และย้ำว่า เขาไม่มั่นใจใน บาร์โตเมว
22 สิงหาคม
โรนัลด์ คูมัน ยืนยันว่า เมสซี่ ได้คุยและเคลียร์กันทุกประเด็นแล้ว พร้อมกับจะอยู่ต่อไปที่คัมป์นู
คูมัน อ้างถึงได้คุยกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่า เป๊ป บอกกับผมว่า เมสซี่ อยากคว้าแชมป์ เขาต้องการแชมป์ทุกอย่าง และถ้าเขาไม่ได้แชมป์ เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิด กังวลใจ ดังนั้น จะมุ่งมั่นคว้าชัยไปด้วยกัน
23 สิงหาคม
คูมัน บอกว่า เมสซี่ คือบาร์ซ่า และบาร์ซ่า คือ เมสซี่ โดยเชื่อมั่นว่า เมสซี่จะไม่ย้ายไปไหนแน่นอน
ขณะเดียวกัน สื่อเริ่มตีข่าวว่า คงยากที่จะมีใครมาซื้อ เมสซี่ เพราะมูลค่าอันมหาศาลของค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 700 ล้านยูโร
24 สิงหาคม
อีกหนึ่งสาเหตุแห่งความร้าวฉานเกิดขึ้น
โรนัลด์ คูมัน โทรศัพท์ ไปแจ้ง หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม และจะยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก1 ปี บวกออปชั่น 1 ปี เพื่อให้ ซัวเรซ ไปหาที่อยู่ใหม่
25 สิงหาคม
เมสซี่ ยืนยันการขอยกเลิกสัญญาด้วยการส่งแฟกซ์มายังสโมสร เป็นที่คาดการณ์ว่า หนึ่งในสาเหตุการย้ายเบื้องต้นน่าจะมาจากการที่ โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชคนใหม่ของบาร์เซโลน่า ได้โทรศัพท์ไปแจ้งเมสซี่ ว่า จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษภายในสโมสรอีกต่อไป และสโมสรกำลังจะเปลี่ยนวิธีทำใหม่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น
1 วัน หลังจากที่ หลุยส์ ซัวเรซ ถูกประกาศปล่อยตัวทั้งที่มีสัญญา 1 ปีเช่นกัน
มีเงื่อนไขในสัญญา ที่ระบุว่า “ขอย้ายทีมได้” หลังจบแต่ละฤดูกาล แต่เงื่อนไขคือ “ภายในวันที่ 10 มิถุนายน” ของแต่ละปีเท่านั้น โดยเสมอนั้นไม่คิดที่จะขายออกไปจากทีม หลังจาก เมสซี่ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่า ไปแล้ว 731 นัด ทำได้ 634 ประตู คว้าแชมป์มาได้ถึง 33 รายการ
26 สิงหาคม
การย้ายทีมยิ่งชัดขึ้นไปอีก เมื่อ ควิม ตอร์ร่า ประธานาธิบดีของรัฐบาลประจำแคว้นกาตาลุนญ่า กล่าวขอบคุณและยกย่องลีโอเนล เมสซี่
มีข่าวตามมาว่า แมนฯซิตี้ เป็นทีมเดียวที่จะ “ซื้อได้” และรู้ดีว่าข้อตกลงใดๆ สำหรับเมสซี่ นั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก
เนื่องจาก เมสซี่ คือนักเตะคนสำคัญอย่างที่สุดของสโมสร และไม่มีไว้ขาย รวมถึงมีคำขู่มาตลาดจากสโมสรว่า เมสซี่มีค่าตัวมหาศาลถึง 700 ล้านปอนด์ ทั้งค่าตัว และค่าฉีกสัญญา
27 สิงหาคม
มีข่าวว่า บาร์โตเมว ประกาศขอยอมแพ้ต่อกระแสสังคม และพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่ง หากตัวเขาเองคือปัญหาที่ทำให้เมสซี่ ต้องการย้ายทีม
กระแสแรงขึ้นด้วยว่า เมสซี่ ก็พร้อมจะอยู่ต่อกับทีมอีกครั้ง หากว่า บาร์โตเมว ลาออกจริง
ราม่อน ปลาเนส ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า ยืนยันอยากให้ เมสซี่ อยู่ต่อ
28 สิงหาคม
การยื่นคำร้องขอย้ายทีมของ เมสซี่ อาจจะต้องใช้เวลา1 สัปดาห์ ถึงรู้ผล แต่ถ้าหาก ทั้งเมสซี่ และ บาร์เซโลน่า ยังเจรจากันไม่ลงตัวก็อาจจะต้องถึงขั้นให้ฟีฟ่าเข้ามามีส่วนตัดสินเรื่องนี้ และอาจจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องต่อศาลกีฬาโลกต่อไป
หลายสำนักนั่งเทียนเขียน ฮอร์เก้ เมสซี่ บิดาของดาวเตะดังที่เป็นเอเย่นต์ส่วนตัวด้วย ได้เดินทางมาถึงเมืองแมนเชสเตอร์ประเทศอังกฤษ แล้ว เพื่อเข้ามาเจรจากับ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
29 สิงหาคม
สถานีวิทยุของสเปนอย่าง Cadena SER เปิดเผยว่า ค่าฉีกสัญญา 632 ล้านปอนด์ ของเมสซี่นั้น ได้หมดอายุลงแล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2019/20 และไม่มีค่าซื้อสัญญาอยู่ในสัญญาของ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ อีกต่อไป
30 สิงหาคม
เมสซี่ แสดงจุดยืนชัดเจนด้วยการแข็งเมืองใส่ บาร์เซโลน่า ด้วยการอารยะขัดขืนไม่ยอมมาตรวจร่างกาย และไม่ตรวจไวรัสโควิด-19 ตามกำหนด
“ลา ลีกา สเปน” ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เงื่อนไขฉีกสัญญา 700 ล้านยูโร หรือ 629 ล้านปอนด์ ของลีโอเนล เมสซี่ยังคงมีผล และต้องจ่ายตามนั้นหากนักเตะอยากย้ายออกจากทีม เพราะถือว่าสัญญายังคงติดค้างอยู่
“มีเงื่อนไขระบุไว้ในสัญญาว่า เมสซี่ สามารถย้ายแบบไร้ค่าตัวได้หลังฤดูกาลสิ้นสุดลง โดย บาร์ซ่า อ้างว่าเงื่อนไขหมดเขตไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน และเพื่อเป็นไปตามกฎที่เกี่ยวข้อง, ลา ลีกาจะไม่อนุมัติคำขอร้องการถอดถอนนักเตะออกจากการลงทะเบียนกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน, ยกเว้นว่าจะมีการจ่ายเงินตามเงื่อนไขฉีกสัญญา”
31 สิงหาคม
เมสซี่ ไม่เข้ามาฝึกซ้อมในวันแรกของการเตรียมตัวสู่ซีซั่นใหม่
ฮอร์เก้ เมสซี่ บิดาและเอเย่นต์ของเขา ยืนยันว่าจะมีการพูดคุยกัน ระหว่าง ลีโอเนล เมสซี่ กับ โจเฟ บาร์โตเมว จะมีขึ้นในวันพุธที่ 2 กันยายนนี้ แต่ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งธงเอาไว้แล้ว โดย บาร์ซ่าต้องการให้ เมสซี่ อยู่กับทีมต่อไป แต่ถ้าจะย้ายก็ต้องราคา 700 ล้านยูโรส่วน เมสซี่ ต้องการย้ายออกสถานเดียว อาจจะไม่ต้องย้ายฟรี แต่ราคาต้องเหมาะสม ไม่ใช่ 700 ล้านยูโร
สถานการณ์ปัจจุบัน เมสซี่ ยังเป็นนักเตะของบาร์ซ่าอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าเจ้าตัวยืนยันว่าการขอย้ายทีมมีผลมาตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้ไม่เข้ามารายงานตัว ดังนั้นตามกฎของสโมสรก็คือ จะต้องมีการพักงาน เมสซี่ ก่อนเป็นลำดับแรกด้วยเหตุผลทางวินัย และไม่จ่ายค่าจ้างในช่วงแรก หากยังไม่ปฏิบัติตามที่ต้นสังกัดกำหนด ก็จะถูกปรับเงินไปเรื่อยๆ สูงสุดอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
1 กันยายน
ก่อนการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้น มีการระบุว่า บาร์เซโลน่า เริ่มมีท่าทีว่าจะอ่อนลง
พลิกลิ้นเตรียมจะยื่นข้อเสนอต่อสัญญาฉบับใหม่ 2 ปี ให้กับ เมสซี่ พร้อมสิทธิ์พิเศษต่างๆ ตามที่ซูเปอร์สตาร์อาร์เจนไตน์ ปรารถนา เพื่อต้องการไม่ให้เขาย้ายสโมสรไปไหน
โลกออนไลน์ฮือฮากันต่อเนื่องสำหรับประเด็นของ เมสซี่ พร้อมกับมีการเปรียบเทียบการย้ายทีมของซูเปอร์สตาร์ต่างๆ ของโลกฟุตบอล ปรากฏว่า เนย์มาร์ ช่วงที่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีการทวิตรวม 530,000 ครั้ง ขณะที่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ย้ายจาก เรอัล มาดริด ไป ยูเวนตุส ทวิตรวม 800,000 ครั้ง แต่เมสซี่ ตอนนี้มีการทวิตรวมไปแล้วกว่า 30 ล้านครั้งด้วยกัน
2 กันยายน
การประชุมกันระหว่าง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว และ ฮอร์เก้ เมสซี่ไม่ได้ข้อสรุปใดๆ แบบเป็นชิ้นเป็นอัน
การเจรจากันใช้เวลาทั้งสิ้น 90 นาที เนื่องจากข้อเสนอต่างไปกันคนละทิศคนละทาง
หลายสื่อคาดเดากันต่างๆ นานา แต่หนักสุดคือ “เดลี่ เรคคอร์ด” และ “เดอะ ซัน” เจ้าเก่า ระบุว่า เมสซี่ บรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการเซ็นสัญญากันเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อหมดสัญญาแล้วนักเตะจะต้องย้ายไปเล่นให้กับ นิวยอร์ก ซิตี้ สโมสรในศึกเมเจอร์ลีก
ซ็อคเกอร์สทีมในเครือของเรือใบต่ออีก 2 ปี โดยมูลค่ารวมทั้ง 5 ปี อยู่ที่ 623 ล้านปอนด์
ภาพตัดมาที่ ฮอร์เก้ เมสซี่ ได้ยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่รู้เรื่องดังกล่าวนี้รวมถึงไม่ได้คุยอะไรกับใครในแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลย
“ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมยังไม่ได้คุยกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และผมยังไม่รู้อะไรทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็น ลีโอ อยู่ต่อที่บาร์เซโลน่า”
3 กันยายน
เกมพลิกอีกรอบ เมื่อ ทีวายซี สปอร์ตส์ สื่อของอาร์เจนตินา เชื่อว่า เมสซี่ ต้องอยู่ต่อที่บาร์ซ่า และมีโอกาสเป็นไปได้ 90 เปอร์เซ็นต์
บอร์ดบาร์ซ่า ได้ร้องขอไปยัง ฮอร์เก้ ให้ช่วยกล่อมลูกชายให้อยู่ต่อ และด้วยเชิงกฎหมาย ก็ยากที่ เมสซี่ จะย้ายทีม
4 กันยายน
มีการยืนยันจาก ฮอร์เก้ ว่า มีโอกาสที่ลูกชายของเขาจะอยู่กับ บาร์เซโลน่า ต่อ และยืนยันว่า ได้คุยกับบอร์บริหารบาร์ซ่าครั้งที่ 2 แล้วรู้สึกว่า ดีขึ้น
สุดท้าย.............ภาพก็ลงเอยอย่างที่เห็น
เมสซี่ ให้สัมภาษณ์แบบลึกสุดใจใส่เต็มข้อ เหมือนกับลากบาร์โตเมว และทีมงานบริหาร มาตบกลางสี่แยก
อยู่กันแบบไหน.....อยู่กันอย่างไร เมื่อหนนี้แก้วไม่ได้ร้าว แต่แตกแทบจะละเอียด
เมสซี่ เดินแผน “ผิดพลาด” ทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ “เป็นรอง” โดยเฉพาะเรื่องของ “ตัวบทกฎหมาย” และมันอาจจะวุ่นวายถึงกับต้องขึ้นศาล
ลงท้ายก็ต้องอยู่กันต่อไป ซึ่งมันคงกล้ำกลืนฝืนใจน่าดู
ที่สำคัญก็คือ ทุกอย่างก้าวนับจากนี้ แรงกดดันของทุกฝ่ายยิ่งมหาศาล และมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายต่อหลายเท่า
1 ปีนับถอยหลังไป เราพลาดอะไรจากคัมป์นูไม่ได้แม้แต่วันเดียว..............
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี