การแข่งขันฟุตบอลอังกฤษ กลับมาดวลแข้งอย่างเป็นทางการในฤดูกาลใหม่ล่าสุด 2020-21 หลังจากเพิ่งปิดไปเพียงเดือนเศษๆ นับเป็นครั้งแรกที่ “พรีเมียร์ลีก” เปิดซีซั่นในเดือนกันยายนอีกด้วยเนื่องจากเหตุผลของการระบาดของโรค ส่งผลต่อทุกอย่างบนโลกใบนี้
ไฮไลท์นัดเปิดสนามอยู่ที่แอนฟิลด์ ในเวลา 23.30 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี แชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้ว ประเดิมป้องกันตำแหน่งแชมป์ ดวลกับ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ในฐานะแชมป์จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
“หงส์แดง” ประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งการเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 ในปี 2019จากนั้นเดินหน้าคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลก ก่อนจะยุติการรอคอยการเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกรอบ 30 ปีได้สำเร็จ และครองความเป็นหนึ่งของประเทศได้เป็นสมัยที่ 19
เจอร์เก้น คล็อปป์ เสริมทัพมารายเดียวคือ คอนสแตนตินอสซิมิคาส แบ๊กซ้ายจอมบุกทีมชาติกรีซ แต่ต้องมาเป็นสำรองของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ส่วนที่เหลือนั้นล้วนเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์มาแบบยกทีม และไม่เสียผู้เล่นตัวหลักไปเลยแม้แต่รายเดียวยกเว้นการผ่องถ่ายนักเตะที่เป็นตัวสำรองอดทนอย่าง เดยัน ลอฟเรนและ อดัม ลัลลาน่า ออกไปจากทีม และลดค่าใช้จ่ายไปอย่างน้อยๆ8.8 ล้านบาทต่อสัปดาห์ โดยพวกเขาไม่แพ้ที่แอนฟิลด์มาตั้งแต่เมษายน 2017 รวม 59 นัด และชนะในลีกได้ถึง 25 เกม จาก 26 เกมหลังสุดเป็นสถิติใหม่ของวงการฟุตบอลยุโรป 24 เกม และมีความเป็นไปได้ที่เกมนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ซ้อมแบบเต็มที่แล้ว จะกลับมาสวมปลอกแขนนำทัพลงสนาม รวมถึง เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็น่าจะประจำการแบ๊กขวา หลังจากช่วงปรีซีซั่นทั้งคู่ไม่ได้เล่นเลยแม้แต่เกมเดียว
ฝั่ง “ยูงทอง” ที่กลับมาสูดบรรยากาศบนลีกสูงสุดได้อีกครั้งนับจากปี 2004 นำโดย มาร์เซลโล่ บิเอลซ่า มีการเสริมทัพด้วยการคว้า โรดรีโก้ โมเรโน่ กองหน้าจอมเทคนิคทีมชาติสเปน จาก“ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย ในราคา 26 ล้านปอนด์ เพื่อมาเติมเกมรุกขณะที่แนวรับซื้อ โรบิน คอช จาก “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ไฟร์บวร์ก13 ล้านปอนด์ มาแทนที่ เบน ไวท์ ดาวรุ่งตัวยืมที่กลับรังเก่าไบรท์ตันโดยทีมนี้มี เคลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางเด็กท้องถิ่นที่เกิดในเวสต์ ยอร์เชอร์ ซึ่งติดทีมชาติอังกฤษไปหมาดๆ คุมเกมในแดนกลางร่วมกับ ปาโบล เอร์นานเดซ จอมเก๋าวัย 35 ปี ที่เคยอยู่กับ บาเลนเซียและเคยมาค้าแข้งกับ สวอนซี ปี 2012-14
11 นักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้ ลิเวอร์พูล :อลิสซอน เบ๊คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ,ฟานจีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
ลีดส์ : อัลแล็ง เมสลิเยร์, ลุค อายลิ่ง, เลียม คูเปอร์, โรบินคอช, สจ๊วร์ต ดัลลัส, เอลแดร์ คอสต้า, ปาโบล เอร์นานเดซ, เคลวินฟิลลิปส์, มาเตอุสซ์ คลิช, แจ๊ค แฮร์ริสัน และโรดรีโก้ โมเรโน่
สำหรับสถิติการพบกันของคู่นี้ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าด้วยการชนะ 58 เสมอ 30 ลีดส์ ชนะ 27 โดยที่ ลิเวอร์พูล ไม่เพลี่ยงพล้ำให้กับ ลีดส์ มาตั้งแต่ 13 เมษายน 2001 และหลังจากนั้นพบกัน 9 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 7 เสมอ 2
18.30 น.ฟูแล่ม-อาร์เซนอล : “เจ้าสัว”ภายใต้การทำทีมของ สก็อตต์ พาร์คเกอร์ คืนสู่ลีกสูงสุดได้ในปีเดียว จะส่ง 3 นักเตะตัวใหม่ลงสนามพร้อมกันทั้งหมด อัลฟอนเซ่ อเรโอล่า นายประตูจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง, อองโตนี่ โรบินสัน มาเล่นเป็นแบ๊กซ้ายและมาริโอ เลมิน่า คุมแดนกลาง ส่วนแกนรุกได้ อองโตนี่ย์น็อคคาร์ต จากไบรท์ตัน ในราคา 10.5 ล้านปอนด์ มาล่าสกอร์กับอเล็กซานดร้า มิโตรวิช
ฝั่ง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่ได้แชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ มีข่าวดีเมื่อ ดานี่ เซบาญอส ได้มาร่วมทีมต่อไปอีกปีในฐานะตัวยืม จะเดินเกมแดนกลางร่วมกับ กรานิต ชาก้าในระบบ 3-4-3 ขณะที่แนวรับ วิลเลี่ยม ซาลิบา น่าจะได้ประเดิมตัวจริงในตำแหน่ง 3 เซ็นเตอร์แบ๊ก ร่วมกับ ร็อบ โฮลดิ้ง และคีแรน เทียร์นี่ย์ เนื่องจาก ดาวิด ลุยซ์ มีอาการบาดเจ็บ ส่วนแนวรุก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ จะออกสตาร์ทร่วมกับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง และ นิโกลัส เปเป้
21.00 น. คริสตัล พาเลซ-เซาแธมป์ตัน : “อินทรีผงาด”ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเต็งตกชั้นด้วย หลังจากผลงานหลังจากล็อกดาวน์ไม่ดี และ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือขรัวเฒ่าเป็นเต็ง 1 ที่จะโดนเด้ง ขณะที่การเข้าตลาดไปซื้อตัว อีบีรีชี่ อีซี่ กองหน้าดาวรุ่ง วัย 22 ปีจากควีนส์พาร์ค 16 ล้านปอนด์ และยืมตัว มิชี่ บาตชูอายี่ กองหน้าสำรอง เชลซี มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
ทางด้าน “นักบุญ” ที่เสีย ปิแอร์ ฮอยเบียร์ ไปให้กับ สเปอร์สจะจัดทัพแดนกลางให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เล่นกับ โอริออล โรเมอูจะขาดก็คือ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ที่น่าจะฟิตไม่ทัน ส่วนแนวรุกให้เช อดัมส์ จับคู่กับ แดนนี่ อิงส์ เล่นร่วมกัน โดยคู่นี้น่าสนใจก็คือต่างฝ่ายต่างยึดระบบการเล่นที่ 4-4-2 ลงสนามเหมือนกัน
02.00 น. เวสต์ แฮม-นิวคาสเซิ่ล : “ขุนค้อน” ที่รอดตกชั้นเสริมทัพแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นคือ โทมัส ซูเซ็ค กองกลางทีมชาติเช็กจากสลาเวีย ปราก 15 ล้านปอนด์ โดย ซูเซ็ค ที่มาเล่นตั้งแต่ซีซั่นก่อนจะประสานงานกับ เดแคลน ไรซ์ ดาวโรจน์ที่ยังไม่ย้ายไปไหนและมาร์ค โนเบิ้ล ส่วนความหวังแดนหน้ายังเป็น มิคาอิล อันโตนิโอเช่นเดิม
“สาลิกาดง” ที่ยังไม่เปลี่ยนเจ้าของทีม มีการลงทุนน่าสนใจเมื่อคว้าตัว คัลลัม วิลสัน กองหน้าจากบอร์นมัธ 20 ล้านปอนด์, ไรอัน เฟรเซอร์ มิดฟิลด์จอมขยัน แบบไม่มีค่าตัวจากบอร์นมัธ, เจฟฟ์ เฮนริค กองกลางจากเบิร์นลี่ย์ แบบฟรี และจามาล ลูวิส แบ๊กซ้ายจากนอริช ซิตี้ 15 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังได้ ไนออลล์ บรู๊คเวลล์ จากลิเวอร์พูล และมาร์ค จิลเลสพี จากมาเธอร์เวลล์ที่เหลือตัวหลักๆ ยังอยู่กับครบนำโดย จอนโจ้ เชลวี่, มิเกลอัลเมร่อน และอแลง แซงต์-แม็กซิแมง แต่ มาร์ติน ดูบราฟก้า, แมตต์ ริตชี่ และฟาบียน แชร์ ยังไม่พร้อมลงเล่นเพราะเจ็บ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี