จากการที่รัฐบาลอังกฤษ ของ มิสเตอร์บอริส จอห์นสันได้ประกาศผ่านทางสภา ว่าด้วยเรื่องของการยกระดับการควบคุมและป้องกันโควิดเป็นระดับ 4 หมายถึง การแพร่ระบาด มีตัวเลข “สูง” หรือ “เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” ยังผลให้ความฝันและความหวังของแฟนฟุตบอลที่จะได้กลับเข้าไปชมเกมในสนามเหมือนกับลีกประเทศอื่นๆ ต้องกลายเป็นหมันทันที
บรรยากาศกองเชียร์ไม่มี สีสันหมด ใช่!!! แต่มันไม่ใช่แค่นั้น
มูลค่าต่างๆ ของวงการฟุตบอลต้องสูญเสียรายได้ไปแบบยับเยิน และอาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะถึงครา“ล่มสลาย” อะไรบางอย่างไม่ใช่เฉพาะฟุตบอล
แต่มันจะพังกันทั้งวงการกีฬากันได้เลยทีเดียว!!!!!
l คำประกาศจากรัฐบาล
บอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ประกาศว่า หลังจากมีการกำหนดให้ผับและร้านอาหาร ปิดเวลา 22.00 น. ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากค่าเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ โดยมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึงวันละเกือบๆ 5,000 คน ถ้ายังเป็นแบบนี้่ต่อไป ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายวันอาจสูงถึง 50,000 คน ในช่วง
กลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า จะต้องมีการกลับไปทำงานที่บ้าน หรือ เวิร์ก ฟอร์ม โฮม กันอีกครั้ง ส่วน ดร.คาลั่ม เซมเปิ้ล ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพเด็กและเวชศาสตร์การระบาดของโรคที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล ระบุว่า รัฐบาลจะต้องเร่งเรื่องการจำกัดจำนวนคนให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่ทันเวลา
l สะเทือนทั่ววงการกีฬา
ในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หน่วยงานที่กำกับดูแลกีฬา รวมถึงฟุตบอล, รักบี้, คริกเก็ต, ฟอร์มูล่า วันและการแข่งม้า ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อม สำหรับการไม่มีผู้ชมในสนามตลอดฤดูหนาว ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า หรือ 2021
โอลิเวอร์ ดาวเด้น เลขาธิการกระทรวงวัฒนธรรม,สื่อ และกีฬาของอังกฤษ หรือ The Department for Culture, Media and Sport (DCMS) พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ได้ยืนยันว่า จะไม่มีผู้ชมเข้าร่วมชมเกมอย่างแน่นอน เนื่องจากการประกาศที่ออกมาเตือนภัยในระดับ 4
ดาร์เรน ชิลด์ ผู้บริหารระดับสูงของรักบี้ พรีเมียร์ชิพยอมรับถึงการประกาศว่า แฟนๆ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสนามกีฬาอีก 6 เดือนจะตัดรายได้ที่สำคัญสำหรับสโมสรที่ประสบความสูญเสียทางการเงินอย่างมากจากการระงับฤดูกาลและการแข่งขันหลังไม่มีผู้ชมตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“เราเชื่อว่าการขาดแฟนกีฬาในสนามอาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อสโมสรของเรา และดังนั้นเราต้องหาทางหลีกเลี่ยงปัญหานี้”
ราล์ฟ ริมเมอร์ ผู้บริหารระดับสูงของ รักบี้ ฟุตบอล ลีก กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมได้มุ่งเน้นไปที่การเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันแบบนำร่อง และแผนการสำหรับแฟนกีฬาที่หายไปจากสนาม บทสรุปคงไม่พ้นผลกระทบที่รุนแรงต่อไป
l กฎเหล็กสั่งห้ามทั่วประเทศ
รัฐบาลอังกฤษ ได้ประกาศข้อกำหนดออกมา เพื่อเป็นมาตรการเดียวกันในการควบคุมโรคทั้งประเทศ ประกอบไปด้วย 1.ห้ามมีการชุมนุมเกิน 6 คน โดยใช้ในการบังคับทั้งกลางแจ้ง และในร่ม, 2.กรณีการชุมนุมที่ได้รับการยกเว้นก็คือ กลุ่มที่สามารถควบคุมได้, 3.งานแต่งงานจำกัดผู้เข้าร่วมพิธีได้ทั้งสิ้น 15 คน และงานศพ 30 คน, 4.การแข่งขันกีฬาในภาคของประชาชน สามารถเล่นได้ทีมละไม่เกิน 6 คนโดยผู้ใดที่มีการฝ่าฝืน จะมีการสั่งปรับคนละ 200 ปอนด์หรือประมาณ 8,000 บาท
ทั้งนี้ มีกรณียกเว้น ประกอบด้วย การแข่งขันกีฬาระดับอาชีพ, การทำงานที่อยู่ภายในโปรโตคอลและการศึกษาที่อยู่ภายใต้การควบคุม
l เมื่อคำร้องเป็นหมัน!
องค์กรกีฬาหลายชนิด ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือไปยังรัฐบาลแล้ว เพื่อให้มีการทบทวนเรื่องชะลอการนำแฟนเข้าสนาม โดยหวั่นใจกันว่า ธุรกิจกีฬาอาชีพกำลังเสียหายยับเยิน เนื่องจากไม่มีผู้ชมเข้าสู่สนาม นอกจากนี้ ระบบการพัฒนากีฬาทั้งหมด จะสูญเสียการสร้างนักกีฬาไปอีกหลายปีเลยทีเดียว แต่สุดท้ายชีวิตความเป็นอยู่บนความเป็นจริงของผู้คนถือว่าสำคัญที่สุด
“สปอร์ต อิงแลนด์” หน่วยงานดูแลกีฬาของประเทศ ได้มอบเงินเยียวยาจำนวน 200 ล้านปอนด์ เอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ผู้นำองค์กรกีฬากว่า 100 แห่งเชื่อว่า ไม่มีทางเพียงพอที่จะเยียวยาอย่างแน่นอน ขณะที่ จูเลี่ยน ไนท์ ประธานคณะกรรมการ DCMS กล่าวว่า เรามี สมาร์ท โซลูชั่น ที่มั่นใจและเข้าถึงปัญหาของทุกฝ่าย โดยสิ่งที่ช่วยเหลือได้ในเวลานี้ก็คือ การถ่ายทอดสด
ขณะนี้การติดเชื้อเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่วงการกีฬา เมื่อเกมคาราบาว คัพ หรือ ลีกคัพ ระหว่าง เลห์ตัน โอเรี้ยนท์ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากนักเตะของเลห์ตัน ติดเชื้อกันหลายคน แถมก่อนเกมระหว่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ ฮัลล์ ซิตี้ ก็มีการประกาศว่า เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม และลูกทีมอีก 2 รายติดเชื้อโควิดอีกด้วย
l หวั่นใจบอลลีกล่างพังก่อน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเข้าใจและร่วมผลักดันการแข่งขันกลับมาแข่งขัน ก่อนที่จะให้แฟนกีฬาข้าสู่สนาม เนื่องจากทราบดีว่าสโมสรกีฬาต่างๆ จะต้องพึ่งพาแหล่งรายได้นี้ขนาดไหนตัวอย่างคือ สโมสรในพรีเมียร์ลีกมีรายได้ 680 ล้านปอนด์จากแมทช์เดย์ ในปี 2018/19 ซึ่งคิดเป็น 13.2% ของรายได้ทั้งหมด
ในการแข่งขันเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มีรายได้ 155 ล้านปอนด์คิดเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด
รายได้ในการแข่งขันลีก วัน ประมาณ 45-50 ล้านปอนด์และ 30% ของทั้งหมด โดยรายละเอียดมาจากการประเมิน เนื่องจากหลายสโมสรเผยแพร่บัญชีแบบย่อ และรายได้ในการแข่งขัน League Two ประมาณ 35 ล้านปอนด์และ 34% ของทั้งหมด
ส่วนในสกอตแลนด์ ผลกระทบหนักสุดก็คือ รายรับมากกว่า 100 ล้านปอนด์และ 46% ของทั้งหมด มาจากแมทช์เดย์
เท่ากับว่า ลีกยิ่งเล็กลง ยิ่งต้องอาศัย “แมทช์เดย์”
ตอนนี้สถานการณ์เข้าสู่ปากเหวเข้าไปทุกขณะแล้ว!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี