ดีลของ หลุยส์ ซัวเรซ มันได้บอกอะไรกับวงการฟุตบอลมากมาย และเป็นบทสะท้อนให้เห็นออกมาหลายด้านจนเหลือเชื่อ
ในฐานะดาวยิงระดับเบอร์ต้นๆ ของโลก แต่อยู่ดีๆ ก็ถูกสโมสรที่เปลี่ยนตัว “ผู้จัดการทีม” สั่งเฉดหัวออกจากทีมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
โดยเฉพาะตัวของ ซัวเรซ ที่มีปัญหาให้ได้เห็นจนเป็น “ภาพจำ”ไปทั้งโลกว่า บางทีก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ไปไล่กัดเพื่อนร่วมอาชีพ 3 ครั้ง 3 ครา แต่เมื่อเจอเคสแบบนี้เข้าไป
เป็นใครก็สติแตก
สุดท้ายดีลนี้ลงตัวอย่างที่สุดเมื่อ ซัวเรซ ยังคงอยู่ที่ประเทศสเปน ยังคงอยู่ที่ลา ลีกา ต่อไป แต่มาอยู่ในคราบไคลของ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด
มันส่งผลที่ดีต่อหลายต่อหลายฝ่าย ด้วยความบังเอิญแบบพอดี............
โดนเฉดหัวแบบไร้เหตุผล
24 สิงหาคม ไม่กี่ชั่วยามหลังจาก โรนัลด์ คูมัน เข้ามาถือบังเหียนเป็นนายใหญ่คนใหม่ของทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า โทรศัพท์ ไปแจ้งต่อ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม
สาเหตุที่หลายคนคาดเดากันไปต่างๆ นานา คงไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่หลายสโมสรถังแตก ยิ่ง บาร์ซ่า ก็ลดค่าจ้างอุตลุด และเมื่อเห็นแบบนี้ ด้วยวัย 33 ปี มีสัญญาอยู่ 1 ปี กับออปชั่นเพิ่มอีก 1 ปี
เลยตัดสินใจ “ตัดหางปล่อยวัด”
หลายคนมองว่า การกระทำของ คูมัน ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อเขาประกาศไล่ ซัวเรซ ทางโทรศัพท์ ไม่ยอมมาเจอด้วยตัวเอง
แม้กระทั่ง มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือคนดังชาวชิลี บอกว่านี่ไม่ใช่มืออาชีพที่เค้าทำกัน
การไล่ ซัวเรซ ออกจากทีมแบบไม่เป็นธรรมครั้งนี้ ทำให้วันรุ่งขึ้น มีข่าวดังไปทั้งโลกเมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ ประกาศขอย้ายทีมทันที เพราะทนไม่ไหวที่เห็นทีมทำกับเพื่อนรักของเขาที่เล่นกันมานานถึง 6 ปี
วุ่นวายเมื่อจะไปอิตาลี
เมื่อจะไม่มีที่อยู่ เขาจึงไปเจรจากับ พาเวล เนดเวด รองประธานยูเวนตุส เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะย้ายไปอยู่ที่อิตาลี
ข่าวปูดมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมว่า ซัวเรซ เลือกจะไปอิตาลี มากกว่าจะกลับไปยังเนเธอร์แลนด์ เล่นกับ อาแจ๊กซ์ ทีมเก่า รวมถึงประเทศอังกฤษ ที่เขาไม่ค่อยจะถูกกับสื่อมวลชนที่นั่น เพราะเคยเขียนข่าวทำลายอาชีพเขากับ ลิเวอร์พูล จนหมดสิ้นไปเมื่อปี 2014
ระหว่างนั้น ยูเว่ ก็มีข่าวฉวัดเฉวียนอยู่กับ เอดิน เชโก้ และอัลบาโร่ โมราต้า พร้อมกับทำท่าจะปล่อย กอนซาโล่ อิกวาอินออกไปจากทีม
ซัวเรซ เดินทางไปยังเมืองเปรูจา เพื่อทำการสอบภาษาอิตาเลียนโดยเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำหรับการทำพาสปอร์ตเพื่อย้ายไปเล่นที่แดนรองเท้าบู๊ต และเขาสอบผ่านแบบ “น่าสงสัย”
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อเริ่มมองมาที่ ความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการสอบครั้งนี้ เนื่องจาก ซัวเรซ ที่แม้ว่า ภรรยาจะมีเชื้อสาย
อิตาเลียน แต่เขาพูดภาษาอิตาเลียนไม่ได้ มันน่าสงสัยตรงนี้ผลสอบนั้นในระดับ B 1 ทำให้คาดเดากันว่า อาจจะเกิดเหตุข้อสอบรั่ว
หรือ “ฉลาดเกมส์โกง” นั่นเอง!!!!
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น ในช่วงวันที่ 9 กันยายน ซัวเรซ ได้โพสต์ภาพซ้อมกับ บาร์เซโลน่า อย่างอารมณ์ดีผ่านทางอินสตาแกรม พร้อมกับพิมพ์ข้อความ “เมื่อมีข่าวปลอมถูกนำเสนอเกี่ยวกับผม”
หลายคนตีความไปต่างๆ นานา แต่ท้ายที่สุด ฟาบิโอ ปาราติชี่ผู้อำนวยการกีฬาของ ยูเว่ ออกมาบอกว่า ได้ล้มเลิกความตั้งใจ เพราะกระบวนการการทำพาสปอร์ตของซัวเรซ ต้องใช้เวลานาน พร้อมกับไม่สามารถลงทะเบียนชื่อเขาสำหรับการทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
กระทั่งการดีล โมราต้า จบลงเมื่อวันอังคาร และในวันพุธทุกอย่างยุติลงเมื่อมีการ “สลับขั้ว” กัน
โมราต้า กลับไปยูเว่ และซัวเรซ ไปอยู่ที่แอต.มาดริด แทน
จะได้มาร่วมงานกับหัวหอกสายคลั่งอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า
ศอกกลับในวันอำลา
ซัวเรซ แถลงต่อหน้าสื่อมวลชนในวันอำลาสโมสรถึงช่วงเวลาแห่งความซับซ้อน และสับสนที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
เขาเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อปี 2014 ที่สื่อมวลชนอังกฤษปีนเกลียวถึงขึ้นมาเขียนถึงลูกๆ ของเขา เมื่อครั้งที่ซัวเรซ มีส่วนสำคัญในการเตะอังกฤษตกรอบบอลโลก สุดท้ายเขาย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาที่ บาร์เซโลน่า
“ผมเชื่ออยู่แล้วว่า โรนัลด์ คูมัน จะโทรมาหาผมว่า ผมต้องไป มันมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น ถึงผมจะมีสัญญาอยู่ และโมโหกับการเขียนข่าวมั่วๆ ของบางสื่อ แต่ผมก็ยอมรับการตัดสินใจของสโมสร”
เขาย้ำว่า การถูกทีมแจ้งว่า “โค้ชไม่ต้องการ” มันคือสิ่งที่ดูเหมือนกับการเหยียดหยามและเยาะเย้ย แต่ก็ต้องยอมรับ พร้อมกับเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว และมีหลายสโมสรติดต่อมา
“ผมคิดว่า การได้เล่นในลาลีกา และได้ดวลกับ เรอัล มาดริด ได้สู้กับ บาร์ซ่า คือสิ่งที่ท้าทาย ผมมั่นใจว่าผมพร้อมจะอยู่ในระดับที่สู้กับพวกเขาได้ ถึงแม้ว่าโค้ชจะไม่ต้องการผม แต่ผมรู้สึกว่า ผมได้ทำตามหน้าที่แล้ว ผมทำดีที่สุด และยิงประตูแซงหน้าตำนานของสโมสรหลายคน นี่คือความสุขของผมในบาร์ซ่า”
อนาคตที่น่าสนใจ
การอยู่ที่สเปนต่อของ ซัวเรซ มีผลดีอย่างมหาศาล
มหาศาลอย่างไร????
ที่ผ่านมา บอล ลา ลีกา เริ่มเสื่อมความนิยมลงไป หลังจากมูลค่าสูงลิบลิ่วเมื่อครั้งที่คู่ปะทะที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กับ ลีโอเนล เมสซี่ ยังบี้กันอยู่
เมื่อ โรนัลโด้ ย้ายออกไป ทำให้มูลค่าของลีกนี้ลดลงอย่างมาก กอปรกับการมาเยือนแบบไม่ได้รับเชิญของ “โควิด-19” ยิ่งทำให้ระบบต่างๆ มอดไหม้ไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง
ลา ลีกา ที่ไม่เคยมีเรตติ้งที่ดียกเว้นแค่ เรอัล มาดริด กับบาร์เซโลน่า กระทั่งต้องมาจับเข่าคุยกัน พร้อมกับแบ่งเงินการถ่ายทอดสดใหม่ และปรับโฉมโปรแกรมการแข่งขันใหม่ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น หลายทีมลืมตาอ้าปากในช่วงทศวรรษหลังนี้
แต่เมื่อขาด โรนัลโด้ มูลค่าเริ่มลดลงอีกครั้ง และเมื่อโดนไวรัสโควิด-19 ซ้ำมาอีกดาบ ทำให้ทุกคนต้องเหนื่อยหนักขึ้นไปอีก การถ่ายทอดสดที่หวังว่าแฟนบอลจะรับชมในช่วงที่ห้ามเข้าสนามนั้น เป็นตรงกันข้ามไปเลย
ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับ บาร์ซ่า
วัฒนธรรมสเปน ก็คือ วันแบบนี้ต้องออกจากบ้าน คือถ้าไม่ได้มาสนามบอล ก็ไม่ไปเที่ยวเลย ไม่ดูหรอกถ่ายทอดสด!!!
ถือว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของ ซัวเรซ เป็นผลดีต่อลา ลีกา อย่างน้อยก็ยังมีซูเปอร์สตาร์อยู่ในลีกต่อไป เพราะส่วนใหญ่นักบอลที่ดี หรือนักบอลที่รุ่งๆ ขึ้นมามักจะไปโกยเงินที่อื่นกันหมด และคงไม่มีใครจะจ่ายเงินดู เมสซี่ ในยามที่หงุดหงิดเล่นให้มันจบสัญญาแบบนี้แน่นอน
ซัวเรซ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผลงานคงเส้นคงวาอย่างยาวนาน เขาขึ้นชั้นระดับโลกตั้งแต่อยู่กับ ลิเวอร์พูล แต่หลายคนอาจจะไม่ยอมรับด้วย “อคติที่สีเสื้อ”
พอมาอยู่ที่ บาร์ซ่า ก็ชัดเจนปฏิเสธกันไม่ได้ กินน้ำลายตัวเองไปหลายคน
สำคัญที่สุดก็คือ แอตเลติโก มาดริด กลายเป็นยกระดับทีมขึ้นมาเลย เมื่อได้นักบอลแบบ ซัวเรซ ที่กระหายในการเล่น ซึ่ง “ตรงจริต”กับกุนซืออย่าง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
ผมมองว่า ปีนี้ แอต.มาดริด ถ้าหากยังอยู่กันแบบนี้พวกเขาสามารถก้าวไปมีลุ้นแชมป์ได้ทันทีกับ เรอัล มาดริด
เรอัล มาดริด ก็ไม่ได้เสริมทัพน่ากลัวอะไร ขณะที่ บาร์ซ่า ปัญหาภายในเละเทะ และสภาพทีมก็อย่างที่เห็น คนกุมหัวใจอย่าง เมสซี่ แกแตกสลายขนาดนั้น และยังเขียนข้อความขยี้ทีมตัวเองในตอนที่ขาย ซัวเรซ
เมื่อดูขุมกำลังของ “ตราหมี” บอกได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้เป็นรองอะไร 2 ยักษ์ใหญ่เท่าไหร่เลย
ยาน โอบลัค, โฆเซ่ ฆิเมเนซ, ซาอูล ญีเกซ, โกเก้, โตมาส ปาเตย์, ชูเอา เฟลิกซ์, ดีเอโก้ คอสต้า และหลุยส์ ซัวเรซ
ยังต้องกลัวใครอะไรอีกมั้ย
ลา ลีกา ไม่ได้สนุกกันแค่สองทีมเดิมๆ แน่นอน!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี