การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 4 ของฤดูกาล 2020-21 ประจำวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ มีทั้งหมด 4 คู่ 4 เวลา ประเดิมด้วยการลอนดอน ดาร์บี้ ระหว่า“สิงห์บลูส์” เชลซี ที่จะเปิดเดอะ บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ
ความพร้อมของเจ้าถิ่นที่เพิ่งตกรอบคาราบาว คัพ หลังดวลจุดโทษพ่ายให้กับสเปอร์ส เกมนี้ยังไม่มี มิดฟิลด์ดาวรุ่งอย่างบิลลี่ กิลมอร์ ที่บาดเจ็บ ส่วนฮาคิม ซีเย็คและคริสเตียน พูลิซิซ ยังไม่ฟิต ทำให้ต้องใช้นักเตะแกนหลักชุดเดิม โดย ธิอาโก้ ซิลวามีลุ้นกลับมายืนตัวจริงอีกครั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ได้พักเมื่อกลางสัปดาห์ฟิตพร้อมเต็มถังเตรียมประสานงานร่วมกับ เมสัน เมาท์, ตีโม แวร์เนอร์ และ แทมมี่ อบราฮัม
ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ เกมล่าสุดฟอร์มสะดุดเล่นในรังพ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน 1-2 ความพร้อมของ รอย ฮ็อดจ์สัน ยังคงไม่มี แกรี่ เคฮิลล์, แพทริค ฟาน อานโฮลท์, เจมส์ ทอมกิ้นส์ ที่บาดเจ็บ ส่วนในรายของเจ้า “แบทแมน” มิตชี่ บัตซัวญี่ ที่ยืมมาเล่นไม่ได้เพราะเจอต้นสังกัดที่แท้จริง ทำให้เกมนี้ไม่มีการปรับทัพอะไรใช้ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์และ เจมส์ แม็คคาร์ธีย์ คอยทำลายเกมรุกคู่แข่ง โดยมี เอเบเรชี่ เอเซ่ และ อันดรอสทาวน์เซ่นด์ ป่วนทางริมเส้นสนับสนุนคู่หัวหอกอย่าง วีลฟรีด ซาฮา และจอร์แดน อายิว
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม เชลซี (4-2-3-1): เอดูอาร์ เมนดี้, รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, เคิร์ต ซูม่า, เบน ชิลเวลล์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เม้าท์, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์และ แทมมี่ อบราฮัม
คริสตัล พาเลซ (4-4-2): บิเซนเต้ กวยต้า, โจเอล วอร์ด, ชีค คูยาเต้, มามาดูซาโก้, ไทริค มิทเชลล์, อันดรอส ทาวน์เซ่นด์, เจมส์ แม็คคาร์ธีย์, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เอเบเรซี่ เอเซ่, วีลฟรีด ซาฮา และ จอร์แดน อายิว
สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุด เชลซี เหนือกว่า คริสตัล พาเลซ เยอะ โดยพวกเขาเอาชนะได้ทั้ง 5 ครั้งที่พบกัน พาเลซ ชนะเชลซี ครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ปี 2017 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเชลซี บุกเอาชนะที่เซลเฮิร์ท พาร์ค 3-2
คู่ต่อมา 21.00 น. “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน พบกับ “นกนางนวล” ไบรท์ตันโดยที่เจ้าบ้านฟอร์มยอดเยี่ยมมากชนะมา 3 เกมรวด มี 9 คะแนน เกมล่าสุดก็เพิ่งถล่มเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 ในศึกคาราบาว คัพ ด้วย ความพร้อมเกมนี้ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวลมีเจ็บเพียงแค่เมสัน โฮลเกต เท่านั้น ส่วน อัลลัน รอเช็คความฟิตหากเล่นไม่ได้ ฟาเบี่ยน เดลฟ์ จะได้เล่นแทน ที่เหลือเป็นนักเตะชุดเดิมนำโดย ฮาเมส โรดริเกวซ,อับดูลาย ดูคูเร่, อันเดร โกเมส, ริชาร์ลิซอน และ โดมินิคคัลเวิร์ต-เลวิ่น ที่กำลังฟอร์มฮอตกดแฮททริก 2 ครั้งในเกมลีกและบอลถ้วย
ทางฝั่ง “นกนางนวล” ผู้มาเยือนจากแดนใต้ ที่พักตัวหลักยกแผงในการลีก คัพ ที่พ่าย แมนฯยูไนเต็ด 3-0 เกมนี้จะได้ อีฟ บิสซูม่า แดนกลางที่พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมเป็นตัวจริงทันที ส่วนแข้งที่ได้พักจะกลับมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่นอัลซาเต้, ทาริค แลมพ์ตีย์, โซลลีย์ มารช์ส่วนแดนหน้ายังเหมือนเดิมมี เลอันโดร ทรอสซาร์ เล่นร่วมกับ อารอน คอนนอลลี่และ นีล มัลเปย
คู่ 23.30 น. “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ดที่ชนะ 2 แพ้ 1 จากการเล่น 3 เกม เจอกับ“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ความพร้อมของเจ้าบ้านยังไม่มี ปาโบล เอร์นานเดซ, กาเอตาโน่ เบราร์ดี้, และอดัม ฟอร์ชอว์ ส่วน แจ็ค แฮร์ริสัน ที่ยืมมาเล่นไม่ได้เนื่องจากเจอต้นสังกัดที่แท้จริง ทำให้เกมนี้มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ต้องส่ง เอซกาน อลิโอสกี้ลงไปประจำการกราบซ้าย ขณะที่แดนกลางยังใช้ คาลวิน ฟิลิปป์ส เล่นกับ มาเตอุสซ์ คลิช โดยมี โรดริโก้ โมเรโน่ และแพทริค แบมฟอร์ด ยืนเป็นคู่หัวหอก
ทางฝั่ง “เรือใบสีฟ้า” ที่เพิ่งโดน เลสเตอร์ ซิตี้ ถล่มคารังมา 5-2 เกมนี้ยังไม่มี อิลคาย กุนโดกัน ที่อยู่ในระหว่างกักตัวหลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนในรายของ จอห์น สโตนส์, เซร์คิโอ้ อเกวโร่, ชูเอากานเซโล่ และกาเบรี่ยล เฮซุส บาดเจ็บ ทำให้เกมนี้ยังต้องใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไปยืนหน้าเป้า ขนาบไปด้วยตัวสนับสนุนอย่าง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ และเฟร์ราน ตอร์เรส ที่เพิ่งเบิกสกอร์แรกให้กับทีมในเกมลีก คัพ กลางสัปดาห์ พร้อมกับจะประเดิม รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวใหม่คุมแนวรับด้วย
คู่เกมปิดท้ายไล่แขก “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เจอกับ เบิร์นลี่ย์ โดยเจ้าถิ่นที่ช่วงนี้กำลังดวงมีโชคเข้าข้างมา 2 เกมติด ทั้งการไล่ตีเสมอ สเปอร์ส
จากจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ รวมไปถึงเมื่อกลางสัปดาห์ก็เพิ่งจะดวลจุดโทษเอาชนะ นิวพอร์ท ซิตี้ มาในเกมลีก คัพ ความพร้อมเกมนี้ยังไร้เงาของ มาร์ติน
ดูบราฟก้า ที่บาดเจ็บเช่นเดียวกับ แมตต์ ริตชี่ แต่ในตำแหน่งผู้รักษาประตูไม่น่ากังวลอะไรเพราะ คาร์ล ดาร์โลว์ กำลังท็อปฟอร์ม ขณะที่ อแล็ง แซงต์ มักซิแมง รอเช็คความฟิต
เบิร์นลี่ย์ ของ ฌอน ไดซ์ ที่เล่นมา 2 เกมแพ้ทั้ง 2 นัด ยังไม่มีแต้ม กลางสัปดาห์ก็เพิ่งโดน แมนฯซิตี้ ถลุงคารังมาอีก 3-0 ตกรอบลีกคัพ ยังไม่มี โยฮาน เบิร์ก กุดมุนด์สัน, เบน มี, แจ็ค คอร์ก และเจย์ โรดริเกซ ที่บาดเจ็บ ทำให้ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ยังต้องใช้ เควิน ลอง เล่นกับ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ส่วนแดนกลางมีแนวโน้มว่า เดล สตีเฟ่นส์ อาจจะได้เล่น ส่งผลให้ต้องขยับ จอช บราวน์ฮิลล์ ไปยิงทางขวา ขณะคู่หน้า มาเตจ์ วิดร้า ได้ออกสตาร์ทร่วมกับ คริส วู้ด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี