ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์นี้มีทั้งหมด 4 คู่ เกมคู่เอกประจำวันอาทิตย์เป็นศึกลอนดอน ดาร์บี้ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เตะเวลา 22.30 น.
ความพร้อมเกมนี้เจ้าถิ่น สเปอร์ส ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซด้วยการบุกไปกะซวกแมนฯยูไนเต็ด ถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด 6-1 เกมนี้มีข่าวดีอาจจะได้เห็น แกเร็ธ เบล ลงประเดิมสนามเกมแรกหลังจากหายเจ็บกลับมาซ้อมแบบเต็มรูปแบบอยู่ที่ว่าจะฟิตพอหรือไม่ ส่วน เอริค ดายเออร์ เจ็บมาจากการรับใช้ทีมชาติอังกฤษ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคงไว้วางใจใช้บริการของ แซร์ก โอริเย่ร์ ในตำแหน่งแบ๊กขวาส่งผลให้ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ต้องนั่งสำรองต่อไป
ทีมเยือน “ขุนค้อน” ช่วงหลังฟอร์มดีขึ้นผิดหูผิดตา เกมนี้จะได้กุนซืออย่าง เดวิด มอยส์ กลับมาประจำสั่งการข้างสนาม หลังจากที่ติดโควิด-19 ต้องกักตัวกว่า 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับแนวรับอย่าง อิสซ่า ดิยอป ที่ตรวจเจอพร้อมกัน ตามรายงานผู้เล่นที่มีอยู่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ถือว่าพร้อมแบบเต็มสูบ วาง เดแคลน ไรซ์ และโทมัส ซูเช็ค เป็นตัวขับเคลื่อนเกมแดนกลาง แนวรุกหลังเพิ่งสอดประสานของ จาร็อด โบเว่น, ปาโบล ฟอร์นาลส์ และมิคาอิล อันโตนิโอ
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-3-3) : ฮูโก้ ญอริส, แซร์ก ออริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ,เซร์คิโอ้ เรกีล่อน, ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์,แฮร์รี่ วิงค์ส, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, แกเร็ธ เบล, แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง มิน
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (5-4-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบี่ยนสกี้, ไรอัน เฟรเดริคส์, อิสซ่า ดิยอป, อังเจโล่ อ๊อกบอนน่า, อารอน แครสเวลล์, อาร์ธูร์ มาซัวกู, จาร็อด โบเว่น, โทมัส ซูเซ็ค, เดแคลน ไรซ์, ปาโบล ฟอร์นาลส์ และมิคาอิล อันโตนิโอ
สถิติการพบกันของทั้งสองทีมเจอกันมา5 ครั้งหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอเลยสเปอร์ส ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ถึง 4 ครั้งส่วนเวสต์แฮมฯ ชนะ 1 ครั้ง เกมล่าสุดที่พบกันเมื่อ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา สเปอร์ส เปิดบ้านต้อนไปได้ 2-0
อีกเกมที่่น่าสนใจในเวลา 01.15 น. “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นไป 4 นัด ชนะ 3 แพ้ 1 จะเปิดถิ่น คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงห์ผงาด” แอสตัส วิลล่าที่หักปากกาเซียนจากทีมเต็งตกชั้น แต่ออกสตาร์ทด้วยการชนะ 3 นัดรวด
ความพร้อมเกมนี้เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนพักเบรกหนีหนาวฟอร์มสะดุดด้วยการพ่ายคารังให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 เกมนี้แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ต้องกุมขยับเมื่อแกนหลักอย่าง คักลาร์ โซยุนคู, วีลฟรีด เอ็นดิดี้ บาดเจ็บไปสมทบกับ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่เดี้ยงอยู่แล้ว ทำให้ในตำแหน่งของ โซยุนคู กับ เวสลีย์ โฟฟาน่าปราการหลังดาวรุ่งค่าตัวแพงจะได้ลงประเดิมจับคู่กับ จอนนี่ อีแวนส์ ขยับมาที่แดนกลาง เจมส์ แมดดิสัน ฟิตสมบูรณ์พร้อมเป็นตัวจริงแล้ว โดยจะปั้นเกมร่วมกับ ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เซนกิซ อุนแดร์ คอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง เจมี่ วาร์ดี้
ทางฝั่งผู้มาเยือน แอสตัน วิลล่า ที่เล่นบทโหดถล่มแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด 7-2 เกมนี้ ดีน สมิธ ยังไม่มี เวสลีย์ ดาวยิง
ที่เจ็บยาว ซึ่งไม่น่าส่งผลอะไร เพราะแกนหลักอยู่กันครบ แถมกำลังเล่นได้อย่างลงตัวด้วยคาดว่า ดั๊กลาส ลุยซ์ ที่เดินทางไกลไปเล่นให้กับทีมชาติบราซิล อาจจะต้องถูกเข็นลงไปเล่นร่วมกับ จอห์น แม็คกิน และรอสส์ บาร์คลีย์ โดยมี แจ็ค กรีลีช, โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ มาห์มู้ด เทรเซเกต์เป็นแนวรุก
สถิติการพบกันของทั้งสองทีมดวลกันมา 5 ครั้งหลังสุด ค่อนข้างสูสีกัน เลสเตอร์ ซิตี้ชนะได้ 2 ครั้ง เสมอ 2 ส่วน วิลล่าชนะ 1 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่เพิ่งเจอกันในฤดูกาลที่แล้ว เลสเตอร์ฯเปิดบ้านถล่มเอาชนะไปได้ 4-0 ได้ประตูจากเจมี่ วาร์ดี้ และฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่ยิงคนละ 2 เม็ด
ส่วนปรีวิวอีกสองเกมมีดังนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด-ฟูแล่ม : คู่แรกเตะในเวลา 18.00 น. เจ้าถิ่น“ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ยังหาชัยชนะไม่เจอเลย ผลงานแตกต่างจากซีซั่นที่แล้วเป็นอย่างมาก ความพร้อมยังไม่มี ลีส มุสเซ่ต์ และ แจ็ค โอคอนเนลล์ ต้องกักตัวน่าจะไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ทำให้โอกาสจะตกเป็นของ เอธาน อัมปาดู จะได้เสียบแทนนอกนั้นแกนหลักถือว่าพร้อม ริอาน บรูวสเตอร์ หัวหอกตัวใหม่ที่ได้มาจาก ลิเวอร์พูล น่าจะได้ฤทธิ์ลงประเดิมสนามจับคู่กับ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
ทีมเยือน “น้องใหม่” ฟูแล่ม ที่แพ้รวดทั้ง 4 เกม ยังคงตามหาคะแนนแรกบนลีกสูงสุด เกมนี้สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ หมดสิทธิ์ใช้งาน โยอาคิมแอนเดอร์เซ่น ปราการหลังเดนมาร์กที่บาดเจ็บ ส่วนในรายของ แฮริสัน รีด น่าจะผ่านความฟิตลงคุมแดนกลางร่วมกับ อังเดร-ฟรองซ์ ซามโบ้ อองกิสซ่า แนวรุกไว้ใจ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ที่ไม่ยืมมาจากเชลซีลงปั้นเกมป้อนบอลให้กับหน้าเป้าอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
คริสตัล พาเลซ-ไบร์ทตัน คู่นี้เตะกันในเวลา 20.00 น. “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ที่นัดล่าสุดฟอร์มสะดุดมา 2 เกมติด นัดล่าสุดเพิ่งบุกไปโดนเชลซีถล่มมา 4-0 ความพร้อมเกมนี้มีข่าวดีเมื่อ แกรี่ เคฮิลล์ และเจมส์ ทอมกินส์สองเซ็นเตอร์หายเจ็บกลับมาซ้อมได้แล้ว ส่วนกาบซ้ายอย่าง แพทริค ฟาน อานโฮลท์ และเจฟฟรีย์ ชลุปป์ รอเช็คความฟิต แต่ดูแล้วน่าจะนั่งสำรองไปก่อน ทำให้ ไทริค มิทเชลล์ และเอเบเรชี่ เอเซ่ ยังได้ทำหน้าที่ต่อไป ประสานงานกับแกนหลักอย่าง เจมส์แม็คคาร์ธีย์, อันดรอส ทาวน์เซ่นด์, วีลฟรีด ซาฮาและจอร์แดน อายิว
ทีมเยือน “นกนางนวล” ไบร์ทตันจากแดนหน้าใต้ ที่เล่นมา 4 เกม ชนะ 1 แพ้ ไป 3 ทรงบอลโดยรวมดูดีแต่ผลการแข่งขันมักจะไม่เป็นใจ เกมนี้ยังไม่มี ฟลอเรียน อันโดเน และโฆเซ่ อีซเกียร์โด้สองแนวรุกที่เจ็บโลกลืม ส่วนจอมลุยอย่างทาริค แลมพ์ตีย์ ต้องเช็คความฟิต แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ลงประจำการวิ่งแบ๊กฝั่งขวา มี อีฟ บิสซูม่าและสตีเว่น อัลซาเต้ คอยคุมจังหวะตรงกลาง ปล่อยให้ เลอันโดร ทรอสซาร์, อารอน คอนเนลลีและ นีล เมาปาย เป็นสามประสานในแนวรุก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี