ผ่านมาร่วมสองเดือน ในฟุตบอลลีกฤดูกาลที่เริ่มต้นช้ากว่าทุกปี เมื่อมองไปยัง 5 ลีกดังของยุโรป เวลานี้ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะแต่ละทีมที่ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของตาราง หรือทีมที่อยู่ในหัวตาราง หาใช่ทีมที่คุ้นตาเหมือนที่เคยผ่านมาไม่ และเราจะพาไปดูว่ามีทีมไหนกันบ้าง
l พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน : แข่ง 5 นัด มี 13 คะแนน
มาแบบเซอร์ไพรส์สุดๆ สำหรับลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เมื่อเวลานี้พวกเขา ได้ก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบร่วม 10 ปี จากผลงาน ชนะ 4 เสมอ 1 ฤดูกาลนี้พวกเขาเล่นในระบบ 4-3-3 ซึ่งแต่ละตำแหน่งถือว่าเล่นกันได้อย่างลงตัว โดยเกมรับฤดูกาลนี้ใช้ เยรี่ มีน่า จับคู่กับ ไมเคิล คีน ที่เรียกว่าฟอร์มดีผิดหูผิดตาจากฤดูกาลก่อนอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ทัพ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยังเสริมทัพผู้เล่นได้ถูกจุดไม่ว่าจะเป็นการได้ตัว อัลลัน ห้องเครื่องตัวแกร่งจาก นาโปลี หรือ ฮาเมส โรดริเกวซ จาก เรอัล มาดริดที่ “อันเช่” นั้นมีคู่มือใช้งาน ขณะเดียวกัน กองหน้าของทีมอย่าง โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน นั้นก็ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงยิงไปแล้ว 7 ประตู ขึ้นนำดาวซัลโวลีก จนเวลานี้ก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว น่าสนใจว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลนี้
l กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
เอซี มิลาน : แข่ง 4 นัด มี 12 คะแนน
โหดจัดปลัดบอกของจริงสำหรับทัพ “ปีศาจแดง-ดำ” ฤดูกาลนี้ พวกเขาระเบิดฟอร์มในทุกรายการที่ลงสนาม และคว้าชัยมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว พร้อมกันนี้ก็ทำสถิติยิงประตูคู่แข่งอย่างต่ำเกมละ 2 ประตูได้ 10 เกมติดต่อกันรวม ทุกรายการ ซึ่งเป็นครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 1964 หรือเมื่อ 56 ปีที่แล้วเลยทีเดียว
ฤดูกาลนี้ทัพ “รอสโซเนรี่” ของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของทีม มาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรับมี ซิมง เคียร์ และ อเลสซานโดร โรมันโญรี่ เป็นแกนหลัก ส่วนแดนกลางการได้ ซานโดร โตนาลี่ เจ้าของฉายา “นิวปีร์โล่” เข้ามา
เสริมทัพ นั้นถือเป็นการยกระดับทีมได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเล่นได้อย่างเข้าขากับ แฟรงค์ เคสซี่ จนทำให้แดนกลางนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแนวรุกมี บราฮิม ดิอาซ ที่ยืมตัวจาก เรอัล มาดริด เข้ามาสร้างสีสันในเกมริมเส้นร่วมกับ ซามูเอล กาสตีเยโฆ่ และ ฮาคาน คัลฮาโนกลู และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือดาวยิงตัวเก๋าวัย 39 ปี อย่าง
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ยังคงเป็นความหวังของทีมได้ทุกครั้ง เรียกว่าขาด ซลาตัน เหมือนขาดใจคำนี้ไม่เกินเลยไปจริงๆ
l ลาลีกา สเปน
เรอัล โซเซียดัด : 6 นัด มี 11 คะแนน
ปกติแล้วจ่าฝูง ลาลีกา ที่เราคุ้นเคยจะมีเพียงแค่ เรอัลมาดริด, บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด หรือ เซบีญ่า แต่มาฤดูกาลนี้ เรอัล โซเซียดัด สร้างผลงานที่น่าสนใจสุดๆ เมื่อทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำ จากการชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยทีม
ของ อีมานอล อัลกวาซิล กุนซือของทีมมาในระบบ 4-1-4-1 แนวรับมี อาริตซ์ เอลูสตอนโด้ ยืนเป็นปราการหลังตัวหลัก ส่วนแดนกลางการได้ ดาบิด ซิลบา ดาวเตะแมนฯซิตี้ เข้ามาเสริมทัพ เรียกว่าเมื่อเล่นกับ มิเกล เมริโน่ ทำให้แผงมิดฟิลด์ของทีมในเวลานี้นั้นลื่นไหลสุดๆ บวกกับแนวรุกที่มีทั้ง มิเกล โอยาซาบาล แนวรุกทีมชาติสเปน, ปอร์ตู และ วิลเลี่ยน
โฆเซ่ ทำให้ฤดูกาลนี้พวกเขาน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง
l บุนเดสลีกา เยอรมนี
แอร์เบ ไลป์ซิก : 4 นัด มี 10 คะแนน
การขาดหายไปของ ติโม แวร์เนอร์ ไม่ได้ทำให้ไลป์ซิก อ่อนลงไปเลย เมื่อยอดทีมเซอร์ไพรส์ที่ผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อนยังสร้างผลงานสุดยอดอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ ซึ่งยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่ม นั้นจะปรับแผนตามสถานการณ์ของทีมที่เขาต้องเจอมากกว่ายึดรูปแบบการเล่นที่ตายตัว ทำให้มีแท็กติกที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น 4-2-3-1,4-1-4-1 หรือแม้กระทั่ง 3-4-2-1
โดยแกนหลักของทีม ยังนำมาโดย ปีเตอร์ กูลาชซี่ นายทวารดาวรุ่งทีมชาติฮังการี ยืมเฝ้าเสา ส่วนเกมรับดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในปราการหลังดาวรุ่งเนื้อหอมที่สุดของยุโรป เวลานี้ยึดเป็นตัวหลักร่วมกับ วิลลี่ ออบาน ส่วนแดนกลางมี เควิน คัมเพิ่ล เป็นห้องเครื่องร่วมกับ อมาดู ไฮดาร่า พร้อมให้แนวรุกอย่าง ดานี่ โอลโม่ ดาวรุ่งทีมชาติสเปน ที่ก้าวขึ้นมาเป็นจอมทัพเต็มตัวเล่นขับเคลื่อนเกมร่วมกับ อังเคลินโญ่, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนคูและ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ส่วนกองหน้าการขาดหายไปของแวร์เนอร์ ทำให้ฤดูกาลนี้ทีมฝากความหวังเอาไว้ที่ ยูซุฟ โพลเซ่น และ ฮวัง ฮี-ชาน ดาวยิงเกาหลีใต้ที่เพิ่งย้ายมาเป็นตัวซูเปอร์ซับ
l ลีก เอิง ฝรั่งเศส
ลีลล์ : แข่ง 7 นัด มี 17 คะแนน
ในช่วงออกสตาร์ทนี้ ลีลล์ นับว่ามีผลงานไม่ธรรมดา ด้วยการเอาชนะไปได้ถึง 5 เกม และเสมอ 2 เกม ในลีกเอิง แม้ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส จะต้องเสียแข้งสำคัญในเกมรับอย่าง กาเบรียล มากัลเญส ไปให้ อาร์เซนอล
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทีมต้องเจอปัญหาเท่าไหร่
โดย ลีลล์ นั้นจะมี 2 แผนที่สลับใช้ทั้ง 4-4-1-1 และ 4-4-2 แผงหลังวาง โฆเซ่ ฟอนเต้ ยืนคู่กับ สเวน บ็อตแมน ส่วนแดนกลาง เรนาโต้ ซานเชส ที่เป็นดาวรุ่งมาหลายปีมาฤดูกาลนี้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักที่ขาดไม่ได้ของทีมไปซะแล้ว ผนวกกับแนวรุกที่มีทั้ง โจนานธาน แบมบ้า, โจนาธานอิโคเน่, บูรัค ยิลมาซ และ โจนาธาน เดวิด วันเดอร์คิดส์ทีมชาติแคนาดา วัย 18 ปี เรียกว่าทำให้ฤดูกาลนี้ของพวกเขาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
__________ กาลอป _________
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี