ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่น่าสนใจในคำคืนวันเสาร์อยู่ที่คู่ดึกสุด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าที่ชนะไป 4 เสมอ 1 แพ้ 1 จะเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ความพร้อมของเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เจอปัญหาให้ปวดหัวอีกเมื่อจะไม่มี ฟาบินโญ่ หัวใจในแนวรับที่เจ็บแฮมสตริงมาจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ บวกกับของเดิมอย่าง เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ที่พักยาว ส่วน โฌเอล มาติป ก็ยังไม่น่าจะฟิตทันเกมนี้ทำให้ต้องใช้บริการของดาวรุ่งอย่าง รีส วิลเลี่ยมส์ ที่น่าจะได้จับคู่กับ โจ โกเมซ ส่วนในแผงเกมรุกสามประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่และซาดิโอ มาเน่ จะคืนตัวจริงทั้งหมดเล่นร่วมกับดิโอโก้ โชต้า ในระบบ 4-2-3-1
ฟากของผู้มาเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมบังเหียนของ เดวิด มอยส์ เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิคาอิล อันโตนิโอ หัวหอกจอมลุยที่เจ็บเอ็นร้อยหวายพักยาวเดือนครึ่ง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรความพร้อมของทีมถือว่าสมบูรณ์มีตัวเลือกให้ใช้งานอย่างหลากหลาย แต่เชื่อว่ายังคงยึดแกนหลักชุดเดิม ในระบบ 5-4-1 มีเดแคลน ไรซ์ และโทมัส ซูเซ็ค คอยทำลายจังหวะคู่แข่ง ส่วนแนวรุกฝากความหวังเอาไว้ที่ จาร็อด โบเว่น และปาโบล ฟอร์นาล์สที่จะคอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง เซบาสเตียน อัลแลร์
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล(4-2-3-1): อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์, รีส วิลเลี่ยมส์, โจ โกเมซ, แอนดรูว์โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดิโอโก้ โชต้า และโมฮาเหม็ด ซาลาห์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-5-1): ลูคัสซ์ ฟาเบี่ยนสกี้,วลาดิเมียร์ คูฟาล, ฟาเบี่ยน บัลบูเอน่า, อังเจโล่อ็อกบอนน่า, อาร่อน แครสส์เวลล์, อาร์ตูร์ มาซัวกู, จาร็อด โบเว่น, โทมัส ซูเซ็ค, เดแคลน ไรซ์, ปาโบล ฟอร์นาล์ส และ เซบาสเตียน อัลแลร์
สถิติการพบกันทั้งสองทีม ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ชนะ 74 เสมอ 38 เวสต์แฮม ชนะ 28 โดยเฉพาะ 5 เกมหลังสุด “หงส์แดง” เอาชนะไปได้ถึง 4 ครั้ง และเสมอ 1 เจอกันในฤดูกาลที่แล้วในแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เฉือนสุดมันส์ 3-2
ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็งแชมป์อีกทีม ที่ออกสตาร์ทฟอร์มเพลียๆ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 อยู่อันดับที่ 13 จะยกพลไปเยือน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มไม่กระเตื้อง จมอยู่รองบ๊วย เตะ 6 นัดไปแล้ว แต่มีแค่คะแนนเดียว และแพ้ถึง 5 เกมด้วยกัน แข่งขันเป็นคู่แรก เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36
เจ้าถิ่น “ดาบคู่” ยังไม่มี ลีส มุสเซต์, แจ็ค โอคอนเนลล์ และจอห์น เฟลค ที่บาดเจ็บ ทำให้ยังคงต้องใช้บริการของ เนธาน อัมปาดู ในตำแหน่งกองหลังระบบ 3 คนต่อไป ขณะที่ แดนกลางโอลิเวอร์ นอร์วู้ด น่าจะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงเล่นร่วมกับ จอห์น ลุนด์สแตรม และซานเดอร์ เบอร์เก้ ขยับที่ที่แดนหน้า โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ เป็นตัวยืนพื้นอยู่ที่ว่าจะได้เล่นคู่กับใครระหว่าง ริอาน บริวสเตอร์ หรือ เดวิด แม็คโกลดริค
ผู้มาเยือน ปัญหาอยู่ที่อาการบาดเจ็บของ กาเบรี่ยลเฮซุส, เบนฌาแม็ง เมนดี้, แฟร์นานดินโญ่ และเซร์คิโอ้กุน อเกวโร่ ทำให้ ส่วน เนธาน อาเก้ รอเช็คความฟิต แต่ข่าวดีได้ เอเมอริก ลาปอร์ก ที่ฟิตสมบูรณ์กลับมาคุมแนวรับร่วมกับ รูเบน ดิอาส ที่เหลือลงได้หมด โรดรี้จะคุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน แนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น โดยมี ราฮีมสเตอร์ลิ่ง รับบทหน้าเป้าจำเป็น
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุดเป็นทางฝั่ง แมนฯซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าชนะได้ 3 ครั้ง เสมอ 1 และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะ 1 ครั้ง ดวลกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “เรือใบสีฟ้า’ ชนะทั้งไปและกลับแบบไม่เสียประตู
อีกคู่ในเวลา 22.00 น. เบิร์นล่ีย์ พบกับ เชลซี โดยเจ้าถิ่น “เดอะ คลาเร็ตต์” ที่ยังไม่ฟื้นเล่นไป 5 เกม เสมอ 1 แพ้ไป 4 ยังชนะใครไม่เป็นในซีซั่นนี้ ยังคงไม่มี เบน มี ปราการหลังคนสำคัญที่ไม่ฟิต เช่นเดียวกับแจ็ค คอร์ก ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ฟิล บาร์ดสลีย์ แนวรับตัวเก๋าติดโควิด-19 อยู่ในช่วงกักตัว ที่เหลือพร้อมลงเล่นทั้งหมด นำโดยแกนหลักอย่าง นิค โป๊บ, เจมส์ทาร์คอฟสกี้, แอชลีย์ เวสต์วู้ด, ดไวท์แม็คนีล แอชลีย์ บาร์นส์ และคริส วู้ด
ทีมเยือน “สิงห์บลูส์” ที่ฟอร์มดุมาจากเกมกลางสัปดาห์ด้วยการบุกไปรัสเซียถล่มเอาชนะ เอฟเค คราสโนดาร์ 4-0 เกมนี้กลับมาด้วยสภาพทีมที่ถือว่าพร้อมสุดๆ ไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติมเข้ามา โดย ติอาโก้ ซิลวา ที่ได้พักจากเกมล่าสุดน่าจะได้กลับมาคุมแนวรับยืนคู่กับ เคิร์ท ซูม่า เช่นเดียวกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีแววจะเบียด มัตเตโอ โควาซิซ ไปนั่งสำรอง ส่วนแนวรุก คริสเตียน พูลิซิซ กลับมาแล้วพร้อมออกสตาร์ทตัวจริงสร้างสรรค์เกมร่วมกับบรรดาแนวรุกวัยรุ่นอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เม้าท์ และติโม แวร์เนอร์
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 ครั้งหลัง เชลซี เหนือกว่าเยอะไม่เคยพ่ายให้กับ เบิร์นลี่ย์ เลย โดยชนะไปได้ 4 ครั้ง หลุดเสมอ 1 ส่วนการดวลกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว “สิงห์บลูส์” ชนะไปกลับ เกมแรกเล่นที่เทิร์ฟ มัวร์ บุกอัด 4-2 และกลับมาเล่นในเดอะบริดจ์ถล่มไป 3-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี