โลกลูกหนังได้เสียบุคลากรคนสำคัญไปอีกหนึ่งราย นั่นคือ เรย์ เคลเมนซ์ อดีตผู้รักษาประตูจอมหนึบทีมชาติอังกฤษ จากสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซีและ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ด้วยวัย 72 ปี หลังจากป่วยมานาน และต้องต่อสู้กับมะเร็งตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา
l ‘แชงคลี่ย์-บอย’ กวาดทุกแชมป์ที่แอนฟิลด์
บิลล์ แชงคลี่ย์ กุนซือลิเวอร์พูล จ่ายเช็ค 18,000 ปอนด์ คว้าตัวหนุ่มน้อยวัยกำลังจะครบ 19 ปี จากสโมสรในดิวิชั่น 3อย่าง สคันธอร์ป 18,000 ปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ 1967 มาเรียนรู้และศึกษาจาก ทอมมี่ ลอว์เรนซ์ โกล์ตัวจริง ก่อนที่ 2 ปีต่อมา เคลเมนซ์ จะขึ้นมาเป็นมือ 1
เคลเมนซ์ อยู่กับทีมยาวนานถึง 14 ปี ลงสนามทั้งหมด 665 นัด แบ่งเป็นฟุตบอลลีก 470 เกม โดยปี 1970-71 ลงเล่น 41 นัด เสียแค่ 22 ประตูในลีกและทำสถิติในปี 1978-79 ด้วยการเสียแค่16 ประตูเท่านั้น โดยเฉพาะในแอนฟิลด์เสียแค่ 4 ลูก ในช่วงเวลาที่แนวรับทีมถือว่าลงตัวสุดๆ คือ เคลเมนซ์, ฟิล นีล, ฟิล ธอมป์สัน, อลัน แฮนเซ่น และอลัน เคนเนดี้ เก็บคลีนชีตถึง 21 เกม
เขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุด หรือ ดิวิชั่น 1รวม 5 สมัย 1972-73, 1975-76,1976-77, 1978-79 และ 1979-80, เอฟเอ คัพ 1 สมัย 1973-74, ลีก คัพ1 สมัย 1980-81, แชริตี้ ชิลด์ 5 สมัย 1974,1976, 1977, 1979, 1980, ยูโรเปี้ยน คัพ3 สมัย 1976-77, 1977-78, 1980-81, ยูฟ่า คัพ 2 สมัย 1972-73, 1975-76 และซูเปอร์คัพ 1 สมัย 1977
ในช่วงวันที่ 9 กันยายน 1972 ไปจนถึง 4 มีนาคม 1978 เคลเมนซ์ที่เคยพลาดแม้แต่เกมเดียว ซึ่งตอนนั้นเขาเล่นต่อเนื่องถึง 336 เกม และตลอดการรับใช้ ลิเวอร์พูล นั้น เขาสามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 323 เกมด้วยกัน
l หาความท้าทายใหม่ยิ่งใหญ่กับ ‘สเปอร์ส’
“การทำงานที่ ลิเวอร์พูล ก็คือ จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่ง ที่คุณจะต้องสอนงานเขา และจะต้องมีคนมาคอยกดดันคุณอยู่เสมอ” เคลเมนซ์ กล่าว “น่าสนใจก็คือ คนที่ถูกสอนงาน ก็คือคนที่คอยกดดันคนสอน ผมได้รับการสอนจาก ทอมมี่ ลอว์เรนซ์ แล้วผมก็ขึ้นไปกดดันเขา มันเป็นวิถีของที่นี่ จากนั้นก็มี แฟรงกี้เลน, ปีเตอร์ แม็คโดเนลล์, สตีฟอ็อกริโซวิซ และบรู๊ซ กร็อบเบลลาร์ ที่เข้ามากดดันผม”
เคลเมนซ์ ย้ายไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 1981 ราคา 300,000 ปอนด์ ด้วยวัย 33 ปี เคยได้ชิงลีกคัพ ทันทีในปี 1982 กับ ลิเวอร์พูล ก่อนแพ้ทีมเดิม 1-3 แต่ก็ได้แชมป์เอฟเอ คัพ ด้วยการชนะ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ในเกมรีเพลย์ 1-0 โดยเขาได้แชมป์กับ สเปอร์ส3 รายการ นั่นคือ เอฟเอ คัพ 1982,ยูฟ่า คัพ 1984 และแชริตี้ ชิลด์ 1981
“ผมกลับไปแอนฟิลด์ ในฐานะนักเตะสเปอร์ส ซึ่งตอนนั้น ลิเวอร์พูล กำลังลุ้นแชมป์แต่สิ่งที่ผมได้รับก็คือ แฟนบอลเดอะ ค็อปปรบมือต้อนรับผมทั้งสนาม ผมภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับ เพราะตอนนั้นผมอยู่ในเครื่องแบบของสเปอร์ส”
l เบียดไหล่ต่อไหล่กับ ‘น้าชิล’ในทีมชาติ
ในตำแหน่งทีมชาติ หลายคนบอกว่า เคลเมนซ์ “วาสนาน้อย” ในการติดธงสิงโตคำราม แต่จำนวน 61 นัด ในยุคก่อนหน้านี้ ไม่ถือว่าเป็นจำนวนที่แย่ แต่คาดว่า น่าจะมองถึงการเป็น “มือ 1 มือ 2”ที่ต้องแย่งกับ ปีเตอร์ ชิลตัน มากกว่า เมื่อหมดยุคทองของ กอร์ดอน แบงค์ส
เมื่อก่อนใครที่เป็นมือ 1 คือ เป็นแล้วเป็นเลย กระทั่งมีการชิงตำแหน่งตรงนี้เมื่อปี 1972 และกินเวลานานถึง 11 ปีด้วยกัน ซึ่ง รอน กรีนวู้ด กุนซืออังกฤษ ก็แทบจะเลือกไม่ได้ ทำให้หวยออกคือการสลับกันลงสนาม ก่อนที่ ชิลตัน ได้ยึดหัวหาดยุค 90 เป็นยุคที่ อังกฤษเดินหน้าสู่รอบสุดท้ายถ้วยใหญ่ๆ ได้หมดยกเว้น ยูโร 84 ผิดกับยุค 70 ที่บอลระดับชาติของอังกฤษดูเหงียบเหงาไม่ได้เข้ารอบสุดท้าย
“เรย์ เป็นคนที่น่าเคารพ เขาอายุมากกว่าผม 1 ปี สิ่งที่ผมเห็นมาตลอดก็คือการนอบน้อมถ่อมตน ซึ่งหาได้ยากสำหรับคนในยุคที่โด่งดังในตอนนั้น เราอยู่คนละทีมและต้องชิงตำแหน่งกัน แต่สำหรับผมแล้วเราคือเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา” ชิลตัน กล่าว
l ขึ้นชั้นทีมโค้ช ‘สิงโตคำราม’ก่อนสิ้นใจ
หลังจากเลิกเล่นเมื่อปี 1988 โดยทำสถิติลงสนามกับ 3 สโมสร กับ 1 ทีมชาติไปกว่า 1,117 นัด สูงที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก เคลเมนซ์ เริ่มจับงานโค้ชโดยเข้าเป็นสต๊าฟที่สเปอร์ส ก่อนจะขยับไปคุมทีม บาร์เนตต์ เมื่อปี 1994 ก่อนจะลงจากตำแหน่งในอีก 2 ปีต่อมา
เรย์ เข้าเป็นหนึ่งในสต๊าฟทีมชาติอังกฤษ ยุคของ เกล็น ฮ็อดเดิ้ล ในเดือนสิงหาคม 1996 และทำงานร่วมกับ เควินคีแกน, สเวน โกรัน เอริคส์สัน, สตีฟแม็คลาเรน จนกระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2007ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในยุคของ รอย ฮอดจ์สัน ปี 2012 ก่อนจะตัดสินใจยุติบทบาททางการเป็นโค้ชในปีต่อมา
“เขาคือ หูและตาของพวกเรา” ฟิลธอมป์สัน กล่าวถึงความสำคัญในการเล่นของ เคลเมนซ์ ในวันที่นายประตูคนสำคัญสิ้นใจเมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
“สำหรับ เรย์ เขาเกิดมาเพื่อชัยชนะเขาคล่องแคล่ว ว่องไว และคุณต้องการอะไรจากเขาได้เสมอ เขามีทุกอย่างจริงๆ” ปรมาจารย์บิลล์ แชงคลี่ย์ กล่าวเอาไว้....................
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี