การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคมนี้ มีการดวลแข้งกันทั้งสิ้น 4 คู่ โดยเกมคู่เอกคือนัดแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ระหว่าง “ปีศาจแดง” กับ “เรือใบสีฟ้า” ขณะที่ “สิงห์บลูส์” ต้องยกพลไปดวล “ทอฟฟีเมน” ซึ่งปรีวิวการดวลแข้งทุกคู่มีดังนี้
19.30 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - แอสตัน วิลล่า : “หมาป่า” กำลังระส่ำหลังจากต้องเสียหัวหอกตัวหลักอย่าง ราอูล ฆิเมเนซ ที่บาดเจ็บต้องผ่าศีรษะ เกมล่าสุดเพิ่งบุกไปโดน ลิเวอร์พูล ถลุงมา 4-0เกมนี้ไม่มี ฆิมิเนซ ที่เพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด รวมไปถึง จอนนี่อ๊อตโต้ นอกนั้นขุมกำลังถือว่าพร้อมทั้งหมด คาดว่ายังใช้ระบบ 4-3-3 วาง รูเบน เนเวส คุมแดนกลางร่วมกับ ชูเอา มูตินโญ่ และเลอันโดร เดนดอร์คเกอร์ แนวรุกใช้ อดาม่า ตราโอเร่, แดเนี่ยลโพเดนซ์ และเปโดร เนโต้ ลงเป็นสามประสาน
ทีมเยือน ผลงาน 5 เกมหลังสุดออกทะเลแพ้ไป 4 ชนะแค่เกมเดียวเท่านั้น นัดนี้ ดีน สมิธ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน รอสส์ บาร์คลีย์ แนวรุกที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ บียอร์นเอนเกลส์ และเฟรเดริก กิลแบร์ต ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร จัดระบบ4-3-3 มาดวล นำทัพโดย ดั๊กลาส ลุยซ์, จอห์น แม็คกิน, คอเนอร์ฮูรีแฮน, มาห์มุด เทร์เซเกต์, แจ็ค กรีลิช และโอลลี่ วัตกิ้นส์
22.00 น. นิวคาสเซิ่ล - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน : เจ้าบ้านผ่านวิกฤติโควิด-19 ไม่มี มาร์ติน ดูบราฟก้า นายด่านมือหนึ่งที่ยังบาดเจ็บ ทำให้ คาร์ล ดาร์โลว์ ยังคงเฝ้าเสาต่อไป ข่าวดีจะได้อแล็ง แซงต์-มักซิแม็ง ผ่านความฟิตพร้อมลงมาลากเลื้อยทำเกมรุกให้กับหัวหอกตัวความหวังสูงสุดอย่าง คัลลั่ม วิลสัน ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ นำโดย จอนโจ้ เชลวีย์, ไอแซค เฮยเด้น และเจฟฟ์ เฮนดริกซ์ ลงเล่นได้ทั้งหมด
“เดอะ แบ๊กกี้ส์” ที่หมดสภาพนักศึกษาโดน คริสตัล พาเลซ บุกมาทุบ 5-1 ด้วยสภาพทีมที่เหลือ 10 คน หล่นมารั้งรองบ๊วยของตาราง เกมนี้ไม่มีแนวรุกตัวหลักอย่าง มาเตอุสเปเรยร่า ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง คอเนอร์ ทาวน์เซ่นด์ ที่บาดเจ็บด้วย ทำให้ต้องขยับตัวริมเส้นอย่าง กราดี้ เดียงกาน่า เข้ามายืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ คอยทำเกมให้กับคู่หัวหอกอย่าง คัลลั่ม โรบินสัน และคาร์ลาน แกรนท์
00.30 น. แมนฯยูไนเต็ด - แมนฯซิตี้ : เกมคู่เอกประจำสัปดาห์ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ลงเล่นในเวลา 00.30 น. “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เจ้าถิ่น แมนฯยูไนเต็ด เพิ่งจะตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก แบบเจ็บปวด และเสียขวัญกำลังใจ หลังบุกไปพ่ายให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก มา 3-2 ส่งผลให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์เก้าอี้ร้อนกลายเป็นเต็งหนึ่งกุนซือที่จะถูกปลด ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันอย่างที่สุด สภาพทีมรอเช็คความฟิตของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล และเอดินสัน คาวานี่ แต่ดูแล้วน่าจะยังไม่พร้อม ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่ที่ว่าจะจัดทีมแบบไหน คาดว่า เฟร็ด ที่พลาดเกมยูซีแอลจะกลับมาคุมแดนกลางร่วมกับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แนวรุกให้โอกาส ฆวน มาต้า ลงมาปั้นเกมร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมทิ้ง เมสัน กรีนวู้ด เป็นหน้าเป้า
ทางฝั่งผู้มาเยือน ผลงานเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทำอันดับขยับขึ้นมากดดันทีมหัวตาราง เกมนี้จะได้ เซร์คิโอ้ กุน อเกวโร่ หัวหอกอาร์เจนไตน์ที่หายเจ็บฟิตแล้ว แต่เหมือนจะยังไม่พร้อมลงตัวจริงส่วน เอริค การ์เซีย รอเช็คความฟิต แต่ไม่น่าส่งผลอะไรเพราะช่วงหลังใช้ จอห์น สโตนส์ เล่นกับรูเบน ดิอาส เชื่อว่า เป๊บกวาร์ดิโอล่า ยังยึดระบบ 4-2-3-1 วาง โรดรี้ และอิลคาย กุนโดกันเชื่อมเกมแดนกลาง แนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนแดนหน้า กาเบรี่ยลเฮซุส น่าได้ออกสตาร์ท
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา, อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส, สก็อตต์แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และเมสัน กรีนวู้ด
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เบนฌาแม็ง เมนดี้, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาดมาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และกาเบรี่ยล เฮซุส
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ 3 ครั้ง เสมอ 1 และแมนฯซิตี้ ชนะ 1 เกมล่าสุดดวลกันมาเมื่อ 8 มีนาคมปีนี้ที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดแมนฯยูไนเต็ด เอาชนะไปได้ 2-0
03.00 น.เอฟเวอร์ตัน – เชลซี : เกมคู่ดึกสุดประจำวัน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน จะเปิดกูดิสัน พาร์ค รับการมาเยือนของ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่ฟอร์มกำลังฮอต
เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่ชนะแค่เกมเดียวจากการลงเล่น5 นัดหลังสุด เกมนี้ยังคงเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเล่นงานโดยเฉพาะฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งอย่าง เซมุส โคลแมน และลูก้าส์ ดีญ ที่พากันเดี้ยงทั้งคู่ ส่วนในรายของ ฟาเบี่ยน เดลฟ์ ที่เจ็บแฮมสตริงจากเกมที่เสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1 ไม่น่าจะได้เล่น ทำให้คาร์โล อันเชล็อตติยังต้องแก้ปัญหาด้วยการเล่นในระบบหลัง 3 เหมือนเดิม พร้อมให้อัลลัน และอับดูลาย ดูคูเร่ คอยช่วยเกมรับอีกแรง ส่วนแนวรุกฝากความหวังเอาไว้ที่สนามประสานอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ,โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และริชาร์ลิซอน
ทีมเยือน “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่ผลงานดีอย่างต่อเนื่องทั้งบอลลีกและบอลถ้วย แถมกลางสัปดาห์ยังได้พักผู้เล่นมาเต็มๆแต่จะไม่มี ฮาคิม ซีเย็ค และคัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่บาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว คาดว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะมาเยือนในระบบ 4-3-3 ยึดสโลแกนเล่นเกมรุกเป็นหลัก มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมแดนกลางร่วมกับ มัตเตโอโควาซิซ และเมสัน เม้าท์ แนวรุกส่ง คริสเตียน พูลิซิซ ออกสตาร์ทตัวจริงประสานงานกับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และติโม แวร์เนอร์
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม เอฟเวอร์ตัน (3-4-3) :จอร์แดน พีคฟอร์ด, เบน ก็อดฟรีย์, เยอร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน, ทอม เดวีส์, อัลลัน, อับดูลาย ดูคูเร่, อเล็กซ์ อีโวบี้, ฮาเมส โรดริเกซ, โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และริชาร์ลิซอน
เชลซี (4-3-3): เอดูอาร์ เมนดี้, รีซ เจมส์, ควร์ต ซูม่า,ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์, มัตเตโอ โควาซิซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้,เมสัน เม้าท์, คริสเตียน พูลิซิซ, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และติโม แวร์เนอร์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เอฟเวอร์ตันทำได้ดีกว่าเล็กน้อยชนะ 2 เสมอ 2 ส่วน เชลซี ชนะ 1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี