อีกหนึ่งคือ “หงส์แดง” อีกหนึ่งคือ “ปีศาจแดง” โคจรมาปะทะกันความเร้าใจย่อมอุบัติ
เมื่อไหร่ก็ตามที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี โคจรมาเจอกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคจรมาปะทะกัน.............
ความเร้าใจย่อมอุบัติ!!!
แมทช์ปีนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่มูลค่าของเกมน้อยที่สุด เนื่องจากไม่สามารถมีแฟนบอลเข้าสนามได้
“นอกสนาม” ธุรกิจโดยรอบซบเซาแทบจะเจ๊งระนาว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทั้งระบบ และเงินจากแดนไกลไม่ได้ไหลเข้ามา
.....ในทิศทางตรงกันข้าม
“ในสนาม” กลับทวีความร้อนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี
เพราะทั้งสองทีมอยู่หัวตารางด้วยกันแบบพอดิบพอดี!!!!
สังเกตมั้ยครับว่า ฟุตบอลคู่นี้ปกติแทบจะไม่มีทางเลยที่จะล่วงเลยมาถึงเกือบครึ่งซีซั่นแบบนี้ แต่การจัดโปรแกรมในน้ำแรก “เหมือนรอ” ให้กับ “โคโรนาไวรัส” จางลงไป อย่างน้อยแฟนบอลจากแดนไกลมาไม่ได้
แฟนท้องถิ่นพันธุ์แท้ๆ จะได้เข้าสนาม
แต่เมื่อทุกอย่างอาจจะ “ไม่เป็นใจ” ท้ายที่สุดแล้วชีวิตก็ต้อง “ดำเนินต่อไป”
ในปีที่ทั้งสองทีมนั้นได้เจอกับเรื่องราวต่างๆ มากมายแบบเหลือเชื่อ ทั้งที่ซีซั่นเพิ่งเดินมาได้ไม่ถึงครึ่งฤดูกาล
........ครบ 3 เดือนพอดิบพอดี กับการที่ “หงส์แดง” ต้องขาดเฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ผู้นำคนสำคัญในเกมรับ เนื่องจากบาดเจ็บหนักจากเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ เมื่อ 17 ตุลาคม 2020 ตั้งแต่วันนั้น เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ นอนหลับไม่สนิทเท่าไหร่
แผนการที่วางเอาไว้ทั้งฤดูกาล ต้องมาเริ่มทำกันใหม่ทั้งหมด เมื่อแนวทางการเล่นของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับทีมชุดป้องกันแชมป์ที่ “มัดแผน” เดินหน้าเป็นยิ่งกว่า “ลูกโซ่” ที่คล้องทุกอย่างไว้ด้วยกันแบบลงตัว หลัง, กลาง, หน้า
บอลจากแนวลึกสุดหายไปทันที ทำให้เหลือบอลจากแดนสองเท่านั้น และยิ่งต้องคิดหนักขึ้นไปอีกเมื่อ โจ โกเมซ เจ็บหนักตาม ฟาน ไดจ์ค และทำท่าว่า จะต้องพักนานกว่าด้วยซ้ำ
เจอร์เก้น คล็อปป์ จะดวลมันสมองกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
เหลือ โฌแอล มาติ๊ป เพียงคนเดียวใน “ซีเนียร์ เซ็นเตอร์แบ๊ก”และตอนนี้ทีมต้องไปพึ่ง ฟาบินโญ่ เป็นพ่อใหญ่ในแนวรับ
นอตหลังหายไป ต้องไปถอนนอตตรงกลางมาแทน ทำให้แผน “ลูกโซ่” ที่ต่อเนื่อง นักบอลหนึ่งคนเล่นได้หลายตำแหน่ง ได้ใช้จริงๆ แต่ไม่ใช่ตามแผนการที่วางกันเอาไว้ซะหน่อย
เมื่อต้องถอย ฟาบินโญ่ มาเป็นกองหลัง ทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เคยวิ่งไลน์ตรงด้านขวา เปิดทางเล่นให้ เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอล และเปิดให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีมุมที่กว้างขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนไปอีก
เฮนเดอร์สัน ขยับมาเล่นเป็นตัวกลาง การเปิดบอลดีขึ้น แต่ทำให้การเล่นด้านขวาของทีมประสิทธิภาพลดลง
นาบี เกอิต้า ที่ทะลวงได้เก่งกาจ ก็ออดๆ แอดๆ และเข้าๆ ออกๆ ในทีมชุดใหญ่ ก่อนจะหายไปอีก เช่นเดียวกับ ธิอาโก้อัลคันตาร่า ที่หายไปเกือบ 3 เดือน ทำให้จุดนี้ทีมไร้ทางเลือก สุดท้ายต้องใช้การเล่นของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม และเคอร์ติส โจนส์
ทั้งสามคนคือนักบอลทิศทางเดียวกัน นั่นคือ ผ่านบอลได้ แต่ผ่านบอลเสี่ยงไม่ค่อยจะได้ และทะลวงไม่ได้เช่นกัน
ฟุตบอลของทีมจึงไปเหมือนกับตอนปี 2018 ที่มี เอ็มเร่ ชาน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ เป็นตัวหลัก
ดังนั้น หากจะเล่นแดนกลางให้มีมติมากขึ้น เท่ากับว่าการกลับมาของ ธิอาโก้ อัลคันตาร่า เป็นเรื่องที่พอดิบพอดี แต่จะต้องมี “ใครก็ได้” ที่ยืนเคียงข้างกับเขา จะให้มาเล่นตรงกลางแบบตรงๆ เลยไม่ได้เด็ดขาด
ธิอาโก้ ต้องยืนเป็นตัวแนบ เหมือนกับการเล่นอันมีประสิทธิภาพของ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม จะต้องมี “กลางหลัก”ยืนปักให้เขามีอิสระในการเล่น จึงจะได้ประโยชน์มากกว่า
ขณะเดียวกันการยืนแผนจะเป็นแบบไหนไปไม่ได้นอกจาก 4-3-3 มาแบบกำปั้นทุบดิน เพราะ ดีโอโก้ โชต้า ตัวพลิกเกมจากข้างสนาม และตัวเลือกที่เคยใช้ระบบ 4-2-3-1 ในเกมใส่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ดันมาเจ็บไปอีกราย
3 ประสานยังต้องเล่นกันเหมือนเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เพราะตัวกดดันยังใช้การไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ทาคูมิ มินามิโนะ หรือ เซอร์ดาน ชากิรี่ ส่วน ดิว็อค โอริกี้ ผีออกไปยังไม่เข้าเลยในปีนี้
ทุกตำแหน่งดูเหมือนจะลงล็อกเรียบร้อย ทีนี้ก็เหลือว่าใครล่ะจะยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ฟาบินโญ่
รีส วิลเลี่ยมส์ ถูกเปิดแผลแล้วว่า เป็นพวกสปีดเต่า และต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ
แนต ฟิลลิปส์ คืออีกหนึ่งทางเลือก แต่ก็เห็นกันชัดแล้วว่า นักบอลที่รอขายเป็นอย่างไร
สถานการณ์อาจจะไม่สามารถสร้างวีรบุรุษได้ หากวีรบุรุษนั้นชั้นยังไม่ถึง
ภาวนากันว่า โฌแอล มาติ๊ป จะกลับมาได้ทันเวลา แต่ถ้าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น รีส วิลเลี่ยมส์ หรือว่า แนต ฟิลลิปส์ ก็น่าจะดีกว่าถอย เฮนเดอร์สัน ลงมาเล่น เพราะมันมีผลต่อแผงมิดฟิลด์ชัดเจนมากๆ
ทีนี้จังหวะในการเล่นก็น่าสนใจ ฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีมออกรวนมากๆ เพราะทุกคนเล่นแบบห่วงหน้าพะวงหลังมาตลอด และทุกเกมจะมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ แม้กระทั่งในเกมถลุง พาเลซ 7-0 ที่สกอร์มโหฬารก็จริง
ธิอาโก้ อัลคันตาร่า จะได้ออกสตาร์ทในเกมนี้อย่างแน่นอน และจะเป็นคีย์เพลเยอร์
แต่ช่วงรอยต่อ 1-0 ไป 2-0 เป็น 30 นาที ที่ไม่ดีมากๆ ของทีม
ถือว่าทุกนัดทุกเกม คล็อปป์ มีงานต้องทำมากยิ่งขึ้น เหมือนกับที่เขาเคยสัมภาษณ์ว่า ไม่สามารถจัดทัพที่ดีที่สุดตามใจ ตัวเองได้
แต่ต้องถามนักบอลก่อนว่าคุณพร้อมหรือไม่ ก่อนที่เขาจะต้องไปจัดตัว
เกือบ 40 เคสในซีซั่น ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับทีมใดมาก่อน คล็อปป์ ยังพาทีมมายืนจุดนี้ได้ ถือว่าไม่ธรรมดามาก
ข้ามมาฝั่งตรงข้าม ก็แทบจะไม่ต่างกัน
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ฝ่าวิกฤติมาได้อย่างเหลือเชื่อ หลังจากต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาเป็นเต็ง 1 ที่จะถูกไล่ออก หลังจากทีมตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่....โซลชา กับบอร์ดบริหารสามารถ “เดินหน้า” และ “ไปต่อ” ด้วยกันได้ พร้อมกับปัญหาประดังประเดที่ทีมอาจไม่ต้องการเสียเงินก้อนโตชดเชยการปลดของ โซลชา ในช่วงขาดรายได้เพราะโควิด-19
แต่เอาเข้าจริง แมนยูฯ ปีนี้เล่นได้ดีกว่าปีก่อน และเล่นได้ดีตั้งแต่เปิดซีซั่น ส่วนผลการแข่งขันมันคืออีกเรื่อง
ตัวเลขน่าสนใจก็คือ นับจากแพ้ให้กับ อาร์เซนอล คาบ้านตัวเอง พวกเขาไม่แพ้อีกเลยในลีก และการเล่นอันแข็งแกร่งนอกบ้านนำพาให้ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี
ไม่เคยมีปีไหนด้วยที่ขึ้นจ่าฝูงหลังจากผ่านมา 17 เกม นับจากยุคทองของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
โซลชา เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ เมื่อได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เข้ามาอยู่ในทีม เหมือนกรณีที่ ลิเวอร์พูล ได้ ฟาน ไดจ์ค กับ อลิสซอน เบ๊คเกอร์ เข้าสู่ทีม มันคือการซื้อที่ถูกจุด และตรงอย่างที่สุด
มาในปีนี้เขาจึงทำสิ่งต่างๆ เพื่อมาซัพพอร์ตให้กับ แฟร์นันด์สก่อนจะได้ เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ มาช่วยในการเล่นของ แฟร์นันด์ส โดยเฉพาะการแบ่งเบาภาระในแดนกลางได้ชัดเจนมาก
การปัดกวาดตรงนี้สำคัญมากๆ เช่นเดียวกับ ปอล ป๊อกบาที่กลับมาตั้งใจเล่นฟุตบอล หลังจากข่าวแตกหักของ มิโน่ ไรโอล่า กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ป๊อกบา กลับมาเล่นดี และแผนของ โซลชา ตอนนี้ลงตัวเหมือนกับการเล่นแบบ 4-4-2 ไดมอนด์ ซึ่งใกล้เคียงกับระบบ 4-3-1-2 มากๆ
หนึ่งจุดที่สำคัญก็คือ เกมรับ
เอริค ไบญี่ ที่กลับมาช่วยแนวรับได้ทันเวลา หากเขาไม่เปราะบาง น่าจะทำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เล่นได้ง่ายขึ้นกว่า การเล่นร่วมกับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ
อีกทั้งแบ๊กทั้งสองฝั่งยกระดับขึ้นมาได้จังหวะพอดี โดยเฉพาะลุค ชอว์ ทำท่าว่าจะต้องเสียตำแหน่งไปแล้วให้กับ อเล็กซ์ เตลลีส แต่สุดท้ายกลายเป็น ชอว์ ที่กลับมาเร่งฟอร์มได้ดีมาก เหมือนกับ แอร่อน วาน-บิสซาก้า ที่ตอนนี้มีเกมรุกเพิ่มมาด้วย
ขณะที่สองคนคู่หอก อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้จะผลิตสกอร์ได้ไม่ดี แต่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสร้างความปั่นป่วนในจังหวะโต้กลับ
หนังสือโปรแกรมวันแดงเดือด 2021 หน้าปก “เจอร์รี่ มาร์สเด้น” ผู้ขับขานบทเพลง You’ll Never Walk Alone ที่เพิ่งล่วงลับไป
ทั้งหมดดูเหมือนว่า “มาพร้อมกัน” นับจากช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มากระทั่งกลางเดือนนี้
เมื่อแผนลงตัวทีนี้อยู่ที่ โซลชา ว่าจะเลือกแบบไหนกันแน่ในการลงสนามเกมนี้
ในเกมกับเบิร์นลี่ย์ แล้วก็จะระบบ 4-3-3 และเก็บชัยชนะสำคัญกลับบ้านมาได้ แต่แน่ใจได้เลยว่า โซลชา จะไม่จัดทีมแบบนัดที่แล้วแน่นอน
การพัก เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์ เท่ากับรักษาความสดเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ เพื่อมาบดกับกองกลางหงส์แดง โดยเฉพาะ ทีนี้ส่วนประกอบจะเป็นอย่างไรเมื่อแดนกลางลงตัวแล้ว
4-3-3 ตัดไปเลยไม่เล่นแน่นอน เหมาะสมที่สุดชั่วโมงนี้ต้อง 4-3-1-2 หรือ 4-4-2 ไดมอนด์
แต่ต้องไม่ลืมว่า โซลชา ก็ชอบจัด 3 เซ็นเตอร์แบ๊กลงเล่นในเวลาเจอกับพวกของแข็งๆ
ว่ากันถึงระบบที่พาพวกเขามาถึงตำแหน่งจ่าฝูง ดูจะลงตัวอย่างที่สุดแล้ว เพราะมีตัวที่พลิกบอลและให้บอลเร็วๆ แม่นๆ ถึงสองคนนั่นคือ บรูโน่ กับ ป๊อกบา
เอดินสัน คาวานี่ ก็เป็นอีกตัวเลือกแนวรุกที่น่าสนใจ เพียงแต่ว่า การประสานงานของ มาร์กซิยาล กับ แรชฟอร์ด ชั่วโมงนี้ดูดีกว่าตรงที่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน แม้ว่าความเฉียบคม กับลูกประสบการณ์จะอยู่ที่หอกอุรุกวัยก็ตามที
ทีนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกันในมุมที่ โซลชา จะเพลย์เซฟ เลือกเล่นกองหลัง 3 คน โดยให้ ลุค ชอว์ ขยับมาเล่นเซ็นเตอร์แบ๊กด้านซ้ายแล้วส่ง อเล็กซ์ เตลลีส มาช่วยกันปิดไลน์ ซาลาห์ กับ เทรนท์
หากเป็นสูตรนี้ ต้องตัดกลางออกไปหนึ่งคน หรือไม่ก็ต้องตัดกองหน้าออกไปหนึ่งคน
เอาเข้าจริงแล้ว เล่นแบบเดิมจะสู้กับ ลิเวอร์พูล ได้สนุกกว่า การมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน
แต่ฟุตบอลคู่นี้ แมนยูฯ ไม่จำเป็นต้องบุกและเล่นแต่เอาชนะอย่างเดียว พวกเขาเสมอก็ไม่ได้เสียหาย
ในฐานะผู้นำในตอนนี้
ตรงกันข้าม ลิเวอร์พูล ที่ต้องชนะให้ได้ตามท้องเรื่อง
ในฐานะผู้ตามในตอนนี้
นี่คือแดงเดือดที่น่าสนใจครั้งหนึ่งเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี