ซาดิโอ มาเน่ แกนรุกลิเวอร์พูล จะดวลสนั่นกับ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าเลสเตอร์
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์นี้ เกมบิ๊กแมทช์มีอยู่ถึง 2 สนาม เริ่มจากเวลา 19.30 น. “จิ้งจอกสีน้ำเงิน”เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ปะทะกับ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เอฟซี แชมป์เก่า ถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวีช่อง 36“พีพีทีวี เอชดี” เหมือนเดิม
เจ้าถิ่น “สุนัขจิ้งจอก” ทีมอันดับ 3 ของตารางล่าสุดเพิ่งเอาชนะ ไบรท์ตัน มาได้ 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ ส่วนเกมในลีกเสมอกับวูลฟ์ส มา 0-0 ปัญหา ก็คือ เวสลี่ โฟฟาน่า ปราการหลังที่เล่นได้ดีมากบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ทิโมธี่ย์ กาสตาเย่ พร้อมกับรอเช็ค เจมส์ จัสติน กับ อโยเซ่ เปเรซ โดยแพลนเกมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สามารถปรับได้ยืดหยุ่นลงตัวทั้ง 4-1-4-1, 4-2-3-1 และ 3-4-2-1
ในเอฟเอ คัพ พวกเขาเลือกใช้แผนหลังนี้ ยึดตัวหลักเอาไว้คือ ยูริ ทีเลมานส์ พร้อมได้ วินฟรีด เอ็นดีดี้ กลับมาฟิต และปล่อย เจมี่ วาร์ดี้ กลับมาเล่นตัวจริงเพื่อเรียกแมทช์ฟิต หลังจากผ่าตัดไส้เลื่อน แต่เกมในพรีเมียร์ลีก นับเฉพาะ 3 เกมหลังสุด ทั้งการแพ้ ลีดส์ ในบ้าน 1-3, บุกไปชนะ ฟูแล่ม 2-0 และไปเสมอกับ วูล์ฟส์ 0-0 เล่นแบบแบ๊กโฟร์
เกมกับ ลีดส์ ใช้ กาสตาเญ่, โฟฟาน่า, อีแวนส์ และจัสติน จากนั้นเกมกับ ฟูแล่ม และ วูล์ฟส์ ใช้ เปเรยร่า, อีแวนส์, โซยุนคูและจัสติน ส่วนกลางสัปดาห์ในเอฟเอ คัพ เลือก 3 เซ็นเตอร์แบ๊ก คือ โซยุนคู ยืนตัวสุดท้ายใช้ อมาร์ตี้ กับ จัสติน เล่นร่วมเป็นสต็อปเปอร์
เมื่อตามหน้าเสื่อแบบนี้ ร็อดเจอร์ส น่าจะเล่น “แบ๊กโฟร์”มากกว่า ทีนี้อยู่ที่ตัวเขาแล้วว่าจะเลือกจัดทีมแบบคิดมากอีกครั้งหรือไม่ เมื่อต้องโคจรมาเจอกับเกมใหญ่ๆ ลักษณะแบบนี้
วาร์ดี้ ไม่ได้เล่นในเกมลีกมาตั้งแต่ 19 มกราคม จะได้ลงสนามแน่นอนเล่นเป็นหน้าเป้า โดยมีตัวทำเกมที่เล่นได้ลงตัวมากคือ เจมส์ แมดดิสัน, ฮาววี่ย์ บาร์นส์ และยูริ ทีเลมานส์ พวกนี้ลงแน่ อีกสองตำแหน่งน่าสนใจ
วินฟรีด เอ็นดีดี้ ผ่านความฟิตเล่นในเอฟเอ คัพ มาแล้วจะได้ยืนกับ ทีเลมานส์ ทำให้ ฮัมซา เชาดูรี่ กลับไปสำรองหลังจากได้สตาร์ทในลีกมา 2 เกม และหาก ร็อดเจอร์ส เลือกแผน 4-1-4-1 มาร์ค อัลไบรท์ตัน จะได้ยืนด้านขวา แต่ถ้าเล่น 4-2-3-1 อโยเซ่ เปเรซ จะได้เล่น
ประเด็นคือเมื่อตัวเลือกในตำแหน่งแบ๊กหายไปอาจทำให้ ร็อดเจอร์ส ต้องมาคิดอีกทีว่า เซ็นเตอร์ 3 คน อาจเป็นตัวเลือกของทีมอีกครั้งหรือไม่ นั่นคือการใส่ คริสเตียน ฟุคส์ ไปยืนเป็นสามเซ็นเตอร์ร่วมกับ คัลลาร์ โซยุนคู และจอนนี่ อีแวนส์
เจอร์เก้น คล็อปป์
ทางฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องเศร้าจากการสูญเสียคุณแม่ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่คุมทีมโดยไม่บอกใครมา 3 สัปดาห์ ทำให้นักเตะทุกคนในทีมจะต้องเร่งฟอร์มเพื่อกำชัยให้กับความทุ่มเทของกุนซือ และสำคัญไม่แพ้กันก็คือ ต้องคว้าชัยชนะเพื่อทีมที่ผลงานไม่ค่อยสู้ดีนัก แพ้ติดๆ กันในถิ่นตัวเอง 2 นัด โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่โดน แมนฯซิตี้ ถล่มคารัง 1-4
ความไม่พร้อมและรุงรังไปหมดนั่นก็คือ ปริศนาในเกมรับ เมื่อ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, โฌแอล มาติ๊ป และ โจ โกเมซ ปิดเทอมยาว แต่ คล็อปป์ ยังไม่เลือกเซ็นเตอร์คนใหม่ลงสนามที่ซื้อในวันเดธไลน์ เดย์ นั่นคือ โอซาน คาบัคที่ยืมจากชาลเก้ และเบน เดวิส กองหลังจากเปรสตัน แต่เชื่อว่าเกมนี้ 1 ใน 2 คนนี้จะได้ลงตัวจริง
ตำแหน่งในแดนกลางจึงน่าสนใจมาก ถ้าหากว่า จอร์แดนเฮนเดอร์สัน ได้กลับไปประจำการณ์ตรงนั้นจริงๆ เขาจะได้ยืนตรงจุดไหนกันแน่ นั่นคือ มิดฟิลด์ตัวกลางที่ ฟาบินโญ่ เคยยืนไว้ หรือไปเล่นตัวบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ด้านขวา ที่สร้างชื่อให้เขา หลังจากถูกดูแคลนฝีเท้ามานาน เพราะตอนนี้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ที่เคยเล่น บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ด้านซ้าย กำลังมายืนปักเป็นตัวตรงกลางได้ลงตัว โดยมี ธิอาโก้ อัลคันตาร่า เป็นตัวยืนแนบฝั่งซ้าย
อย่างไรก็ดี เมื่อเสีย นาบี เกอิต้า ตัวทะลวงชั้นดีที่เจ็บยาวตั้งแต่เกมยำ พาเลซ 7-0 รวมถึงบอลที่ทะยานจากทางลึกเข้าไปเสริมเร็วของ ดีโอโก้ โชต้า ก็เจ็บเช่นกัน ทำให้บอลต่างสไตล์ได้หายไปจากทีมเป็นเวลาจะ 2 เดือนแล้ว ทำให้ทีมยังต้องเล่นมุขเดิมนั่นคืออาศัย 3 ประสานหินเหล็กไฟ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่
การเข้าไปอยู่พื้นที่สุดท้าย และพื้นที่อันตรายของนักเตะลิเวอร์พูล จึงมีค่อนข้างน้อย การเล่นสไตล์เดิมที่“ตัวเปลี่ยนเจ็บหมด” ทำให้ คล็อปป์ เคยสร้างอาวุธจนคนอื่นรับมือไม่ได้ มาในตอนนี้เหมือนตีบตัน เพราะโดนจับได้ไปหมดแล้ว
นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล นัดนี้จะจัดยังไงก็จะ“กำปั้นทุบดิน”เล่น 4-3-3 ส่วน เลสเตอร์ จะเล่นในสไตล์ไหนนี่ยังน่าสนใจมากๆ และการจัดตัวเพื่อสู้เกมใหญ่ทีไรไปทุกทีของ ร็อดเจอร์ส จะเกิดอีกหรือเปล่า ต้องตามติดคอยดูกัน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เลสเตอร์ ซิตี้(4-1-4-1): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล-ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนคู, เจมส์ จัสติน-วิลฟรีด เอ็นดีดี้-มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูริ ทีเลมานส์, เจมส์ แมดดิสัน,ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และเจมี่ วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซอน เบ็คเกอร์-เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน-ธิอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม-โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
สถิติการดวลแข้งกัน ลิเวอร์พูล ชนะ 50 เสมอ 25 เลสเตอร์ ชนะ 39 โดยเฉพาะ 7 เกมหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ และชนะไป 5 เกม ส่วน ซีซั่นนี้เจอกันนัดแรกที่แอนฟิลด์ หงส์ชนะเด็ดขาด 3-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ จอนนี่ อีแวนส์ และอีกสองเม็ดจาก ดีโอโก้ โชต้า กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
อีกหนึ่งเกมใหญ่ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่ชนะมา 15 นัดรวด เปิดรังดวลกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ เวลา 00.30 น.
“เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ นำจ่าฝูงของตารางในเวลานี้แม้จะไม่มี เควิน เดอ บรอนย์ ที่ยังไม่สมบูรณ์แต่กลับมาซ้อมเดี่ยวได้แล้ว ส่วน รูเบน ดิอาส ที่มีอาการป่วยและท้องเสีย พลาดเกมกลางสัปดาห์ต้องรอดูอาการอีกที ที่เหลือไม่มีอะไรให้กังวลใจ จัดชุดใหญ่เต็มสูบ วาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา คุมแดนกลางร่วมกับ โรดรี้ และอิลคาย กุนโดกัน แนวรุกมี ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” เพิ่งผ่านเกมหนักเล่น 120 นาที กับเอฟเวอร์ตัน ในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ มา เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โจวานี่ โล เซลโซ่ และเซร์คิโอ้ เรกีลอน ที่บาดเจ็บ ส่วน แกเร็ธ เบล และเดเล่ อัลลี่ หายสลัดอาการบาดเจ็บกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง ที่เหลือถือว่าค่อนข้างพร้อม นำทัพโดยแกนหลักอย่าง
ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค, มุสซ่า ซิสโซโก้, สตีเว่น เบิร์กไวจน์,ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, ซน ฮึง มิน และแฮร์รี่ เคน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯซิตี้ (4-3-3): เอแดร์ซอน โมราเอส-ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส,อเล็กซานเดอร์ ซินเชงโก้-แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคายกุนโดกัน-ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
สเปอร์ส (4-2-3-1): ฮูโก้ ญอริส-แซร์ก โอริเย่ร์, โทบี้อัลเดอร์ไวเรลด์, โจ โรดอน, เบน เดวีส-ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค,มุสซ่า ซิสโซโก้-สตีเว่น เบิร์กไวจน์, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่,ซน ฮึง มิน และแฮร์รี่ เคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี