บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลุ้นเป็นแชมป์ไร้พ่ายประจำฤดูกาลนี้

ฤดูกาลที่ยาวนานของ “บอลไทยลีก” ประจำฤดูกาลนี้กำลังจะจบลงหลังจากดวลแข้งกันใช้เวลานานกว่า 1 ปี

เหตุก็เพราะการระบาดครั้งใหญ่ที่เดือดร้อนไปทั้งโลกของ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้การเตะต้องเลื่อนกันมายาวเหยียด กระทั่งสู้กันจนถึงเกมสุดท้าย

ซีซั่นอันรุงรังทั้งเรื่องการบริหารในสนาม, นอกสนามแม้กระทั่งเรื่องของการถ่ายทอดสด ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่จะอยู่ในใจของแฟนบอล

การฟาดแข้งในวันอาทิตย์นี้ พร้อมกันทั้ง 8 คู่ ในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โดยสถานการณ์ก่อนเกมยังมีหลายประเด็นให้ได้ลุ้นโดยเฉพาะ “แชมป์ไร้พ่าย” กับ “ตั๋วสุดท้าย” ของปี

 ‘บีจีปทุมยูไนเต็ด’ลุ้นแชมป์ไร้พ่าย

ทัพ “เดอะ แร็บบิท” คว้าแชมป์ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีกมาครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร อาทิตย์นี้จะต้องบุกไปเยือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งพวกเขาจะได้ลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก เอสซีจี เมืองทองฯที่เคยทำไว้ทีมแรกเมื่อปี 2012 ต่อด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013และ 2015

ยอดแข้งแดนปทุม ยังลุ้นกลายเป็นทีมแรกที่ทำคลีนชีตได้ครบทุกทีมที่พบกันในฤดูกาลนี้ (1 จาก 2 เกมที่ดวลกัน) พร้อมด้วยลุ้นการเป็นแชมป์ที่เสียประตูน้อยสุด หากนับเฉพาะฤดูกาลที่มี 30 นัดขึ้นไป โดยปัจจุบัน ลูกทีมของ ดุสิต เฉลิมแสน เสียไปเพียง 12 ประตู ซึ่งเจ้าของสถิติเดิมคือ การไฟฟ้าฯที่เคยเสียไป 15 ประตู จาก 30 นัด เมื่อปี 2008

จอห์น บาจโจ้ กับ อิบสัน เมโล คู่หอกของสุโขทัย เอฟซี

อีกหนึ่งที่!โควตาถ้วยเอเชียทีมสุดท้าย

เวลานี้แม้จะได้โควตาอันดับ 1-3 ที่จะไปเตะ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2022 ครบแล้วประกอบด้วย บีจี ปทุมที่จะเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วยอีกสองทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ และ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 จะได้ไปเตะรอบเพลย์ออฟ

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยังมีอีกทีมที่ได้ลุ้นนั่นก็คือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่หากพวกเขาคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ ก็จะได้ไปรอบแบ่งกลุ่ม หรืออีกเงื่อนไข บุรีรัมย์ ที่ติดท็อปทรี คว้าแชมป์เอฟเอและทัพ “กว่างโซ้งอันตราย” ไม่แพ้ สมุทรปราการ ซิตี้ ในบ้านเกิน 2 ประตู ในเกมสุดท้าย หรือ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5ไม่สามารถบุกไปเอาชนะ พีที ประจวบ เอฟซี นั่นจะทำให้พวกเขาการันตีอันดับ 4 และคว้าตั๋วถ้วยเอเชียเช่นกัน

ตั๋วใบสุดท้ายใครจะได้อยู่ต่อ

ไฮไลท์สุดๆ อยู่ที่การเตะหนีตายถวายชีวิตของสองทีมท้ายตาราง

หลังจบเกมไทยลีกนัดตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นหนีตายหลังเปิดบ้านเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญเอาไว้ได้สำเร็จ

ทำให้สถานการณ์เวลานี้ สุพรรณบุรี อยู่อันดับ 14 ของตารางมี 27 คะแนน ส่วน สุโขทัย เอฟซี อยู่อันดับ 13 มี 28 คะแนน เกมนี้มีเงื่อนไขแค่สองข้อเท่านั้น

1.สุพรรณบุรี ต้องชนะ

2.สุโขทัย ต้องไม่แพ้

แฮริสัน ไคออน ความหวังในการฉีกตาข่ายของ สุพรรณบุรี เอฟซี

เปิดสถิติ‘สุโขทัย’เหนือกว่าบาน

ย้อนกลับไปการพบกันนัดแรกของฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นในนัดเปิดสนาม เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2563 สนามทะเลหลวง สเตเดี้ยม ปรากฏว่า สุโขทัย เอฟซี บดเอาชนะได้หวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ เอวานโดร เปาลิสต้า ตั้งแต่ 4 นาทีแรก

สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเจอกันมา 9 ครั้ง เป็นสุโขทัยที่เอาชนะได้ถึง 4 ครั้ง เสมอ 4 และสุพรรณบุรี ชนะ 1 ครั้ง

สำหรับผลงานตลอด 29 นัดที่ผ่านของทั้งสองทีม สุโขทัย อยู่ที่ 13 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 17 ยิงได้ 40 เสีย 56 ติดลบอยู่ 16 ลูก มีอยู่ 28 คะแนน ส่วน สุพรรณบุรี อยู่ที่ 14 ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 18 ยิงได้ 32 เสีย 47 ติดลบอยู่ 15 ลูก มีอยู่ 27 คะแนน

11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม สุพรรณบุรี เอฟซี : แพทริคเดย์โต้, ปิยะชนก ดาฤทธิ์, แฮริสัน ไคออน,แพทริค ไรเชลท์,แบ ซิน ยอง, สกุลชัย แสงโทโพธิ์, ปาณเดชา เงินประเสริฐ, เลอันโดรอัสซัมเซา, อภิศร ภูมิชาติ, ชยพล ทรัพย์มา และ อาลีฟ วิเอร่า

สุโขทัย เอฟซี : พีระพงษ์ เรือนนินทร์, โจชัว กรอมเมน, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, จอห์น บาจโจ้, ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด, อนุศักดิ์ ใจเพชร, จุง เมียง โอ, โย ซัง แฮ, สันติภาพ ราษฏร์นิยม, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร และ อิ๊บสัน เมโล่

3ซีซั่นสุดรุงรังของ‘สุพรรณบุรี’

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า สุพรรณบุรี เอฟซี มีเอี่ยวกับการลุ้นหนีตาย และต้องลุ้นกันจนหยดสุดท้ายมาถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน

ปี 2018 สุพรรณบุรี เอฟซี เปิดบ้านแพ้ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม โดย สุพรรณบุรี เสียจุดโทษในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาพิเศษ ส่งผลให้ “นกใหญ่” เก็บ 3 คะแนน รอดการตกชั้นสู่ไทยลีก 2 ก่อนจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดตามมา

ปี 2019 สุพรรณบุรี ที่ตกชั้นไปแล้วก็รอดตายอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ พีทีที ระยอง ทีมอันดับ 11 ทำช็อคแฟน เมื่อประกาศขอพักทีม

ซึ่งตามกฎแล้วทีมอันดับ 3 จากท้าย จะรอดตกชั้น ทำให้ในกรณีนี้ สุพรรณบุรี เอฟซี รอดตกชั้นและอยู่ในโตโยต้าไทยลีก ไปแบบยิ่งกว่าถูกหวย

ส่วนปีนี้จะรอดหรือไม่ ต้องมาลุ้นกันอีกเฮือกใหญ่

การเจอกันในนัดแรกของคู่ชี้ชะตาอยู่รอดของฤดูกาล ปรากฏว่า สุโขทัย บดชนะไปได้ 1-0

 ‘ทาร์เดลลี่’จ่อคว้าดาวซัลโว

ผู้ท้าชิงดาวซัลโวเวลานี้คือ บาร์รอส ทาร์เดลี่ กองหน้าของ สมุทรปราการฯ กับ เดนนิส มูริลโล่ ของ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซีต่างเป็น 2 แข้งที่มาจาก บราซิล ทั้งคู่

โดยเวลานี้ ทาร์เดลลี่ ยิงไปแล้ว 24 ประตู ส่วน มูริลโล่ยิงไปเพียง 19 ประตู เรียกว่าไม่น่ามีอะไรพลิกโผ

ส่วนแข้งไทยที่ยิงเยอะสุดในเวลานี้เป็นของ ฟิลิป โรลเลอร์วิงแบ็กจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทำไปแล้ว 14 ประตู ตามมาด้วยอันดับ 2 อย่าง ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กองหน้าของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำไป 12 ประตู

เช็คโปรแกรมนัดสุดท้ายวันอาทิตย์นี้

การดวลแข้งนัดส่งท้าย มีการถ่ายทอดสกระจัดกระจายกระเจิดกระเจิงเหมือนเดิม ทุกคู่จะเตะในเวลา 18.00 น. ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดมีดังนี้ ตราด เอฟซี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซีถ่ายทอดสดทาง facebook สโมสร, สุพรรณบุรี เอฟซี พบ สุโขทัย เอฟซี ถ่ายทอดสดทาง MCOT HD30, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ สมุทรปราการ ซิตี้ ถ่ายทอดสดทาง CH5 HD1, พีที ประจวบเอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสดทาง Youtube สโมสร,ระยอง เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี ถ่ายทอดสดทาง facebook สโมสร, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสดทาง NBT 2HD และ AIS PLAY และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ โปลิศ เทโร เอฟซี ถ่ายทอดสดทาง T Sports และ AIS PLAY