กรดไหลย้อน เป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ เนื่องจากเยื่อบุต่างๆ เสื่อมสภาพลง หูรูดกระเพาะหย่อน น้ำลายลดลงและยาบางชนิดมีผลทำให้หูรูดกระเพาะปิดไม่สนิท จนทำให้เกิดสภาวะกรดไหลย้อน ปัจจุบันคนในวัยทำงานมีอัตราการเป็นกรดไหลย้อนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ แม้กระทั่งช่วงเวลารับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รวมถึงการรับประทานอาหารที่รสจัดเกินไป การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่ ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้เช่นกัน นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนแล้ว ความผิดปกติทางกายภาพ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้เช่นกัน เช่น ความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหาร หูรูดกระเพาะปิดไม่สนิท หูรูดกระเพาะอาหารเลื่อน
อาการของกรดไหลย้อน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จจะรู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ หน้าอก และคอ เรอเปรี้ยวและมีรสขม อาจมีอาการกลืนอาหารลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด ร่วมด้วย หากไม่ทำการรักษาและปล่อยไว้นานอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ เนื่องจากกรดทำลายหลอดอาหาร
ภาวะแทรกซ้อนของกรดไหลย้อน เนื่องจากฤทธิ์ของกรดได้สร้างความระคายเคืองแก่หลอดอาหารไปถึงอวัยวะบริเวณทางเดินหายใจ ทำให้กลืนอาหารได้ลำบาก รู้สึกเจ็บ หรือมีเลือดออกในหลอดอาหาร รวมทั้งอาจเกิดภาวะหลอดอาหารตีบตัน อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดไอเรื้อรัง อีกทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณหลอดอาหาร แต่ในปัจจุบันยังคงพบได้น้อยราย
สำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อนหรือไม่มีวิธีการตรวจหลายวิธี ดังนี้
l การตรวจวัดการทำงานของกล้ามเนื้อหลอดอาหาร (Esophageal manometry)
l การตรวจวัดการไหลย้อนของกรดที่หลอดอาหาร (Esophageal pH monitoring)
l การส่องกล้องตรวจในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร (Gastroscopy)
การลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดกรดไหลย้อน ควรปรับเปลี่ยนนิสัยและการดำเนินชีวิตประจำวัน รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรค เมื่อรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรนอนในทันทีงดการดื่มสุรา น้ำอัดลม งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้น้ำหนักเกิน พักผ่อนให้เพียงพอ และสำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนแล้วควรรับประทานอาหารแค่พออิ่ม ไม่รับประทานอาหารมากเกินไป ควรรับประทานอาหารมื้อเย็นแต่น้อย ภายหลังรับประทานอาหารควรเว้นระยะห่างจากการนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เวลานอนให้ยกศีรษะสูง
ผู้ที่มีอาการต่างๆ ที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นกรดไหลย้อนควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยโรคและรักษาต่อไป การรักษากรดไหลย้อนทำได้ด้วยการใช้ยา หรือการผ่าตัด ตามแต่กรณีที่แพทย์เห็นสมควร
เรียบเรียงจาก https://www.pobpad.com/
https://www.phyathai.com/
กัลยา จงรัตนชูชัย
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี