ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ฟุตบอลลา ลีกา สเปน ผ่านมา 36 นัดนอกจากจะยังตัดสินแชมป์ไม่ได้แล้ว ยังมีทีมที่พันตูสู้กันอยู่เกิน 2 ทีม

อันดับ 1 แอตเลติโก มาดริด 80 แต้ม

อันดับ 2 เรอัล มาดริด 78 แต้ม

อันดับ 3 บาร์เซโลน่า 76 แต้ม

อันดับ 4 เซบีญ่า 74 แต้ม

ในเงื่อนไขของการ “ตัดสินอันดับ” ในบอลสเปน ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า จะตัดสินด้วยกฎ 6 ข้อ

1.คะแนนที่ได้มากที่สุด

2.การเจอกันโดยตรง หรือ Head to Head

3.ประตูได้เสียจากการเจอกันโดยตรง หรือ Head-to-head goal Difference

4.ประตูได้เสีย

5.ทีมไหนยิงประตูได้มากกว่า

6.แฟร์เพลย์

เคาะกฎออกมาแล้ว นาทีนี้คงต้องตัด เซบีญ่า ออกไปจากสารบบทันที หลังจากพวกเขามีคะแนนตามหลัง แอตเลติโกมาดริด 6 แต้ม ดังนั้นเกมอีก 2 นัดที่เหลือ พวกเขาไล่ทันแค่คะแนน

แต่เฮด ทู เฮด แพ้ในข้อที่ 3

เจอกันนัดแรก แอต.มาดริด ชนะ 2-0 ที่ว่านต๋า เมโทรโปลตาโน่ จากนั้นนัดสอง เซบีญ่า ชนะที่อันดาลูเซีย 1-0

ถ้านับแบบบอลถ้วยเพื่อให้เข้ากฎข้อ 3 นั่นก็คือ แอต.มาดริด ชนะ 2-1

“ตราหมี” กุมความได้เปรียบนาทีนี้ เพราะ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น และต้องลุ้นให้ แอต.มาดริด แพ้อีกด้วย

ผลจะจบทันทีหากว่าคืนอาทิตย์นี้ แอต.มาดริด กำชัย พร้อมกับการ “ไม่ชนะ” ของ เรอัล มาดริด และบาร์ซ่า

ว่ากันตามโปรแกรมนัดที่ 37 นี้แล้ว เรอัล มาดริด ถือว่าโหดหินกว่าใคร เพราะการไปเยือนแคว้นบาสก์ ของแอธเลติก บิลเบา นี่ไม่เบาเลย

ปรีวิวทั้ง 3 เกม ความพร้อมและความไม่พร้อม จัดมาให้ดูกันเต็มข้อ โดยทุกคู่จะเตะเวลา 23.30 น.

แอต มาดริด-โอซาซูน่า : จ่าฝูง “ตราหมี” นัดล่าสุดเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด มาได้ 2-1 ทำให้มี80 คะแนน นำหน้าอันดับสองอย่าง เรอัล มาดริด อยู่ 2 แต้ม เกมนี้ไม่มี โตมาส์ เลอมาร์ มิดฟิลด์เชิงรุกชาวฝรั่งเศสที่บาดเจ็บแค่รายเดียวเท่านั้น ที่เหลือถือว่าพร้อม คาดว่า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ น่าจะยึดระบบการเล่น 3-5-2 หรืออาจจะพลิกไปเล่น 3-4-3 แดนกลางวาง มาร์กอส ญอเรนเต้ เล่นร่วมกับ โกเก้ และซาอูลญีเกซ แต่ถ้าจะเพิ่มอ็อปชั่นเข้าไปอีกคนก็จะเป็น ชูเอา เฟลิกซ์ที่จะลุยแนวรุกร่วมกับ อังเคล คอร์เรอา และหลุยส์ ซัวเรซ

ทางฝั่งผู้มาเยือน อยู่อันดับ 11 ของตารางรอดพ้นจากการตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นัดล่าสุดเฉือนเอาชนะ กาดิซมา 3-2 รอเช็คความฟิตของ 2 แข้งชาวเซอร์เบียอย่าง เนมานย่าราโดย่า และนิโกล่า วุคเซวิช ว่าจะพร้อมลงเล่นหรือไม่ที่เหลือไม่มีปัฐหาอะไรต้องกังวล นำโดยแกนหลักอย่าง ลูคัส ตอร์โร่, ฆาบี้ มาร์ติเนซ, รูเบน การ์เซีย, ชิมี่ อวีญ่า และอันเต้บูดิเมียร์

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม แอต มาดริด (3-5-2) : แยน โอบลัค, สเตฟาน ซาวิซ, โฆเซ่ ฆิเมเนซ, มาริโอ เอร์โมโซ่,คีแรน ทริปเปียร์, โกเก้, มาร์กอส ญอเรนเต้, ยานนิค การ์ราสโก้,ชูเอา เฟลิกซ์, อังเคล คอร์เรอา และหลุยส์ ซัวเรซ

โอซาซูน่า (4-3-3) : เซร์คิโอ้ เอร์เรร่า, โยนาส รามัลโญ่, ดาบิด การ์เซีย, เอริดาน เอร์นานเดซ, มานู ซานเชซ, ยอน มอนคาโญล่า, ลูคัส ตอร์โร่, ดาร์โด้ บราซานัค, กิเก้ บาร์ญ่า, อันเต้ บูดิเมียร์ และโรเบร์โต้ ตอร์เรส

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม แอต มาดริด เหนือกว่าเยอะเอาชนะได้ 5 ครั้งหลังสุดที่พบกัน โดยเป็นการชนะด้วยความห่าง 2 ประตูขึ้นไปด้วย

สกอร์ที่คาด : แอต.มาดริด ทุบ 2-0

แอธ บิลเบา-เรอัล มาดริด : บิลเบา ทีมดังจากแคว้นบาสก์ เกมล่าสุดบุกไปแพ้ให้กับ ฮูเอสก้า มา 1-0 สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ทีมเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บและต้องเช็คความฟิตหลายรายไล่ตั้งแต่ เยราย์ อัลบาเรซ, อินิโก้ เลคูเอ้,อันเดร์ กาป้า, อีเกร์ มูเนียอิน และยูรี เบอร์ชิเช่ ทำให้เกมล่าสุดส่งรายชื่อสำรองไปแค่ 6 คนเท่านั้น นัดนี้มีแนวโน้มว่า อูไนเวนเซเดอร์, ราอูล การ์เซีย และอีญากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริง

ทางฝั่ง “ราชันชุดขาว” ล่าสุดเพิ่งบุกถล่มเอาชนะ กรานาด้า มาขาดลอย 4-1 เจอปัญหาเมื่อ โทนี่ โครส ต้องออกไปกักตัว เพราะสัมผัสกับผู้ติดโควิด แม้ผลตรวจจะมาเป็นลบก็ตามที ทำให้พลาดลงสนามในเกมสำคัญสุดๆ รอเช็คความฟิตของ เซร์คิโอ้ รามอส, ดานี่ การ์บาฆาล, ลูคัส บาซเกซ,ราฟาเอล วาราน ในรายของ แฟร์กลองด์ เมนดี้ เล่นไม่ได้ ทำให้ ซีเนอดีน ซีดาน ต้องขยับเอา นาโช่ เฟร์นานเดซ เล่นเซนเตอร์คู่กับ เอแดร์ มิลิเตา แบ๊คขวาใช้ เฟเดริโก้ บัลเบร์ ส่วนแดนกลางยังเหมือนเดิม นำทัพโดย ลูก้า โมดริช กับ คาเซมิโร่ขณะที่สามประสานในแนวรุกเลือก เอแดน อาซาร์ เล่นกับคาริม เบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์ส

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม แอธ บิลเบา (4-4-2) : อูไน ซิม่อน, ออสการ์ เด มาร์กอส, อูไน นูเญซ, อินิโก้มาร์ติเนซ, มิเกล บาเลนเซียก้า, อเล็กซ์ เบเรนกูเอร์, ดานี่ การ์เซีย, อูไน เวนเซดอร์, ยอน มอร์ซิลโล่, อีญากี้ วิลเลี่ยมส์และราอูล การ์เซีย

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ตีโบต์ กูร์กตัวส์, เฟเดริโก้บัลเบร์เด้, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เซโล่,ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่,มาร์โก้ อาเซนซิโอ, วินิซิอุส จูเนียร์ส, คาริม เบนเซม่า และเอแดน อาซาร์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เรอัล มาดริด ดูดีกว่าชนะ 3 เสมอ 1 และแอธ บิลเบา ชนะ 1 จากการดวลกัน5 เกมหลังสุด

สกอร์ที่คาด: แอธ บิลเบา 2-2 เรอัล มาดริด

บาร์เซโลน่า-เซลต้า บีโก้ : “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ช่วงหลังชักเลอะเทอะ ทำแต้มหล่นมา 2 เกม ติดจากการเสมอมา 2 นัดรวด โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่ออกนำ เลบันเต้ 2-0 แต่ครึ่งหลังโดนไล่ตีเสมอ 3-3 แทนที่จะขึ้นนำเพื่อกดดันสุดท้ายรูดมาอยู่ที่ 3 แบบน่าเขกกบาลตัวเอง

โรนัลด์ คูมัน กุนซือรอเช็คความฟิตของ แซร์กี้ โรเบร์โต้แข้งสารพัดประโยชน์ ส่วนที่เล่นไม่ได้แน่นอนคือ ฟิลิปเป้คูตินโญ่ และอันซู ฟาติ ที่เดี้ยงยาว ที่เหลืออยู่กันครบ อาจจะปรับมาเล่น 4-3-3 ด้วยการส่งตัวรุกอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ ลงไปประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ และลีโอเนล เมสซี่ เพราะเวลานี้สถานการณ์บีบให้ต้องชนะเท่านั้น

ทีมเยือนรั้งอันดับ 8 ของตาราง ตามหลังพื้นที่ยูโรป้า ลีกอยู่ 5 คะแนน ช่วงหลังฟอร์มดีสุดๆ ชนะมา 4 เกมติด เกมนี้จะได้ เนสเตอร์ อเราโฆ่ และฟาคุนโด้ เฟร์เรยร่า พ้นโทษแบนกลับมา ในรายของ เรนาโต้ ทาเปีย, ไคซอน มูริลโล่, เซร์คิโอ้ อัลบาเรซ และรูเบน บลังโก้ มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมลงได้หมด มี บราอิส เมนเดซ, เดนนิส ซัวเรซ, โนลีโต้, ยาโก้อัสปาส และซานติ มิน่า เป็นแกนหลักสำคัญของทีมชุดนี้

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม บาร์เซโลน่า (3-4-3) : มาร์ค-อังเดร แตร์ สเตเก้น, ออสการ์ มีนเกซ่า, เคราร์ด ปีเก้,เคลมองต์ ลองเล่ต์, แซร์กิโน่ เดสต์, เซร์คิโอ้ บุสเกสต์, เปดรี้,ฆอร์ดี้ อัลบา, อุสมาน เดมเบเล่, ลีโอเนล เมสซี่ และอองตวนกรีซมันน์

เซลต้า บีโก้ (4-1-3-2) : อีบัน บีญ่าร์, ฮูโก้ มัลโญ่, โจเซฟ ไอดู, เนสเตอร์ อเราโฆ่, แอรอน มาร์ติน, ฟรานเบลทรานด์, บราอิส เมนเดซ, เดนนิส ซัวเรซ, โนลิโต้, ซานติมีน่า และยาโก้ อัสปาส

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า ชนะได้3 เสมอ 1 และเซลต้า บีโก้ ชนะ 1 เจอกันในซีซั่นนี้ที่บ้านของ เซลต้า เป็น บาร์ซ่า ที่บุกถลุง 3-0

สกอร์ที่คาด : บาร์เซโลน่า เฉือนสะเด่า 3-2

บี แหลมสิงห์