เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2564  คุณหญิงปัทมา  ลีสวัสดิ์ตระกูล  นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯและกรรมการกีฬาโอลิมปิกสากลหรือไอโอซีเมมเบอร์สของไทยเผยว่าในวันดังกล่าว  สหพันธ์แบดมินตันโลก WBF  ซึ่งมีที่ทำการใหญ่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์สหพันธ์รัฐมาเลเซียได้จัดการประชุมใหญ่สามัยประจำปีของสหพันธ์ด้วยระบบออนไลน์ซึ่งมีชาติสมาชิกร่วมประชุม 205 ชาตินับเป็นการประชุมใหญ่ครั้งที่82 วาระสำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฯ ปี 2564-2568 โดยในส่วนของ 3 ตำแหน่งที่มีผู้สมัครในแต่ละตำแหน่งเพียงคนเดียวนั้นที่ประชุมให้การรับรองอย่างเป็นทางการให้นายพอล อิริค โฮเยอร์ชาวเดนมาร์กเป็นประธานสหพันธ์ฯต่ออีก1สมัย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลได้เป็นรองประธานสหพันธ์ฯ และ พอล คูร์โซ จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นรองประธานด้านกีฬาพาราแบดมินตัน

ด้านการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารเป็นปีแรกที่ใช้โควต้าทวีปและเพศมาพิจารณาโดยกำหนดโควต้า ให้มีสัดส่วนตัวแทนแต่ละทวีป ที่เหมาะสมในคณะกรรมการโดยทวีปที่แบดมินตัน เป็นที่นิยมและมีนักกีฬาระดับโลกมากจะได้โควต้าที่นั่งในคณะกรรมการมากกว่าทวีปอื่น และการกำหนดโควต้าตามเพศ เป็นการดำเนินการตามจุดมุ่งหมายของสหพันธ์ฯ เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ โดยกำหนดให้มีสัดส่วนจำนวนสมาชิกของเพศที่น้อยกว่าอย่างน้อยร้อยละ30ในคณะกรรมการ    ทั้งนี้ จากผู้สมัครเข้าทั้งหมด 31 คน คัดเลือกเข้าไปทำหน้าที่ 20 คน ซึ่งผลการลงคะแนนเลือกตั้ง มีดังนี้จากเอเชีย 8 คน ได้แก่ 1. จาง จุน จากจีน 2. แบงบัง โรดียันโต้ จากอินโดนีเซีย 3. ฮามินตา บิสวา ซาร์มา จากอินเดีย 4. จุง ซู คิม จากเกาหลีใต้ 5. เคนนี โกะ จากมาเลเซีย 6. คินจิ เซนิยา จากญี่ปุ่น 7. มิสรูซโชนา นาร์ซูลลีวาจากทาจิกิซสถาน  8. มิสซอว์ซาน ฮาจี โมฮัมเหม็ด ทากาวี  จากบาห์เรน จากยุโรป 7 คน ได้แก่ 1.มิส นอร่า เพอรี่จากอังกฤษ 2. มิสแอมมา เพนีโลเป เมสัน จากสก๊อตแลนด์ 3. ดาบิด กาเบลโย จากสเปน 4. มิสอัลลา เดลจากรัสเซีย 5. เอเตียง โทบัว จากฝรั่งเศส  6. ร็อบเบิร์ต เดอ ค็อก จากสวิตเซอร์แลนด์ 7. สเวน เซอร์รี จากเบลเยี่ยม, จากอเมริกา 2 คน ได้แก่  1. มิสพิลาร์ คาริโอ ลา ฟูนตาจากเปรู 2. โฮเซ กาเบรียล เดล บุสโต เฟอร์นานเดซ จากกัวเตมาลา, จากแอฟริกา 2 คน ได้แก่ 1. โอแดต อัสเซมบี แองโกโล จากแคเมอรูน 2. ชิโป ซุมบูรานี จากซิมบับเว และโซนโอเชียเนีย 1คน ได้แก่ 1. ไนเจล สเกลท์ จากนิวซีแลนด์

ส่วนวาระการเสนอให้มีระบบนับคะแนนใหม่ระบบเดียวกับเทเบิ้ลเทนนิสคือเกมละ 11 คะแนนให้ชนะ 3 ใน 5 เกมซึ่งระบบคะแนนใหม่นี้เคยถูกเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญเมื่อปี 2018 ที่กรุงเทพฯ มาแล้วสำหรับในครั้งนี้ สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซีย และมัลดีฟส์ได้นำเรื่องกลับมาเสนอต่อที่ประชุมอีกครั้งแต่ปรากฎว่าไม่ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุม เพราะได้คะแนนเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ทำให้ยังต้องใช้ระบบคิดคะแนนแบบเดิมคือ 21 คะแนนกับชนะ 2 ใน 3 เกมต่อไป  เหตุผลที่ประเทศมหาอำนาจแบดมินตันไม่โหวตให้ใช้ในครั้งนี้ เพราะต้องการทดลองเล่นระบบนี้ในทุกระดับของการแข่งขันก่อน เพื่อดูผลที่ได้รับ และความเห็นจากนักกีฬากับผู้ฝึกสอนทั่วโลกว่าเป็นอย่างไร รวมถึงต้องรอประเมินว่าระบบใหม่นี้สามารถทำการตลาดได้ดีเพียงใดรวมต้องฟังความเห็นของผู้ชมในสนามและบริษัทสินค้าที่เป็นผู้สนับสนุนแบดมินตันอีกด้วยคงต้องไปเสนอในปี 2022