ตำนานผู้สร้างของตระกูลศรีวัฒนประภา
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจ เกิดขึ้นกับสโมสร “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง หลังจากพวกเขาได้แชมป์ในยุค “คนไทยเป็นเจ้าของ” ได้อย่างเหลือเชื่อ
ทั้งการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2016........ได้แชมป์เอฟเอคัพ ในปี 2021
การสร้างตำนานภายใต้การทำงานของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา กระทั่งถึงยุคของลูกชาย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา สร้างความประทับใจตามที่ทุกท่านคงทราบกันไปตามสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้
กลายเป็น “ตำนานผู้สร้าง” ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ในการปลุกชีพทีมฟุตบอลที่ก่อตั้งมานานเป็นร้อยปี ก่อนจะเดินทางสู่ห้วงความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคของ “คนไทย”
วันนี้ขอนำเสนอตำนานที่เหลือเชื่ออีก 2 ตำนาน นั่นก็คือ “ตำนานกษัตริย์” และ “ตำนานความรัก” ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจาก “ตำนานผู้สร้าง”
มาที่ตำนานกษัตริย์ประจำเมืองนี้ ที่ผมเคยเขียนไว้ไปเป็น “ที่แรกๆ” ของไทย ตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว และค่อยๆ เปิดเรื่องนี้ตามไทม์ไลน์ที่ต่อเนื่อง...............
ตำนานแห่งปริศนาเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อปี ค.ศ.2012 มีการค้นพบกระดูกบริเวณ “กะโหลก” หรือ “พระเศียร” ของ กษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 หรือ คิง ริชาร์ด ที่ 3 (Richard III of England)
ทีมสำรวจโครงกระดูกโบราณ ได้มีการขุดพบในลานจอดรถแห่งหนึ่งของถนนเกรย์ ไฟร์อาร์ส (Grey friars) ซึ่งเป็นถนนของเทศบาลเมืองเลสเตอร์ ที่พระศพของพระองค์อยู่ที่นี่ ตั้งแต่ 22 สิงหาคมค.ศ.1485 นับเวลาตอนนั้นคือ 527 ปีเลยทีเดียว
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ถึงแม้ว่าจะถูกบันทึกถึงชื่อเสียงในด้านร้ายๆ อย่างความเหี้ยมโหดและการปกครองอันกดขี่และนองเลือดก็ตาม
เป็นความจริงหรือเปล่า....อันนี้ไม่รู้?!?!?
พระองค์เป็นกษัตริย์ในช่วงสั้นๆ ค.ศ. 1483-1485 ก่อนจะสิ้นพระชมน์ในสนามรบ ในยุทธการสงครามกับราชวงศ์แลงคาสเตอร์ ที่บอสเวิร์ธ ฟิลด์ (Battle of Bosworth Field) ซึ่งเป็น “สงครามดอกกุหลาบ” หรือสงครามชิงบัลลังก์ครั้งสุดท้ายของอังกฤษ
ตำนานแห่งความรัก ที่เคียงคู่กับฟุตบอลระหว่าง เลสเตอร์ กับ ตระกูลแอนเจลล์
พร้อมกับถึงเวลาแห่งการสิ้นสุดยุคกลาง หรือยุคอัศวิน
ในยุคสมัยนั้น การที่พี่น้องหรือเครือพระญาติ จะเข่นฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงอำนาจ ชิงความร่ำรวย เพื่อที่จะเสวยสุข นับเป็นดูเหมือนเรื่องธรรมดา
หรือการที่จะกุดหัวพวกกบฏ หรือการหาเรื่องตัดหัวขุนนาง รวมทั้งการแต่งงานทางการเมือง หรือคลุมถุงชน ก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน
.....คิง ริชาร์ด ที่ 3 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์แพลนทาเจเนต และยังเป็นกษัตริย์อังกฤษองค์สุดท้ายที่สวรรคตในสมรภูมิการรบในประเทศตัวเอง
บทสรุปครั้งนั้น ทำให้ “เปลี่ยนฝั่ง” มาเป็น ราชวงศ์ทิวดอร์โดย คิง เฮนรี่ ที่ 7 ขึ้นครองราชย์แทน.......
ตำนานมีอยู่ว่า การต่อกรที่บอสเวิร์ธ ฟิลด์ เหตุการณ์มันพลิกผันจากบรรดาขุนนางนักรบที่ตัดสินใจ “แปรพักตร์” ในสนามรบ
เฮนรี่ ทิวดอร์ ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส มีกำลังพลประมาณ 5,000 คน ข้ามทะเลมาที่อังกฤษ ดวลกับ คิง ริชาร์ด ที่ 3ซึ่งนำกำลังประมาณ 8,000 คนไปรับมือ
เมื่อขุนนางหลายคนเกิดเปลี่ยนใจ ข้ามฟากไปอยู่กับ เฮนรี่ ทุกอย่างจึงออกมามีผลเป็นตรงกันข้าม
สุดท้าย คิง ริชาร์ด ที่ 3 แห่งอังกฤษ ก็ถูกสังหารในการรบ
.......คิง ริชาร์ดที่ 3 กำลังพุ่งเข้าแทง เฮนรี่ ทิวดอร์ แต่ก็ถูกทหารชาวเวลส์นายหนึ่งใช้ง้าวฟันเข้าที่พระเศียร อย่างรุนแรง หนักหน่วงและแน่นอนก็คือเข้าเป้า
จากผลการชันสูตรในกาลต่อมา พบบาดแผลบนกะโหลกศีรษะของคิง ริชาร์ด ที่ 3 ถึง 8 แผลด้วยกัน นั่นหมายว่า พระองค์ถูกฟันซ้ำๆ อีกหลายต่อหลายครั้ง
ยุทธการสงครามกับราชวงศ์แลงคาสเตอร์ ที่บอสเวิร์ธ ฟิลด์ จบสิ้นลงในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และคิง ริชาร์ด ที่ 3.....สวรรคต
เซซิล กับ มากาเร็ธ ในวันที่ครองรักกันเมื่อ 73 ปีที่แล้ว
จากนั้นพระศพที่เปลือยเปล่าถูกบรรทุกบนหลังม้ากลับมาที่เมืองเลสเตอร์และให้สาธารณชนได้เป็นประจักษ์พยานการสิ้นพระชนม์ ก่อนที่จะนำไปฝังที่โบสถ์นักบวชที่เรียกว่า เกรย์ไฟร์อาร์ส(Greyfriars) โดยไม่ปรากฏว่ามีพระราชพิธีศพอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
เมื่อพระศพไม่ได้ถูกทำพิธีเหมือนบรรพกษัตริย์ แถมยังถูกฝังเอาไว้รวมกับนักรบ และทหาร พร้อมกับมีความเชื่อว่า หลุมฝังศพได้ถูกทำลายในช่วงสงครามปฏิรูปทางศาสนาอีกด้วย
จากวันนั้นเป็นต้นมากว่า 500 ปีไม่มีใครค้นหาท่านเจออีกเลย กระทั่ง............
การศึกษาชื่อของ เกรย์ไฟร์อาร์ส (Greyfriars) ได้เห็นกันบ่อยมาก จากเดิมคือ “โบสถ์” ที่บันทึกเอาไว้ว่า ฝังร่างของกษัตริย์ “คิง ริชาร์ดที่ 3”
ปัจจุบันคือ ย่านหนึ่งของเมืองเลสเตอร์
โบสถ์เกรย์ไฟร์อาร์ส เป็นคริสต์นิกายฟรานซิสกัน สร้างขึ้นปี 1255 ก่อนจะถูกรื้อถอนหลังจากการปล่อยทิ้งร้างในปี 1530 ช่วงยุคที่อังกฤษ การแยกตัวทางศาสนาไม่ขึ้นกับศาสนจักรโรมันคาทอลิก
วันเวลาเปลี่ยนแปลงไป ชื่อของโบสถ์นี้กลายเป็นหนึ่งในเขตเมือง และจากข้อมูลเอกสารต่างๆ เริ่มชัดเจนว่า พระศพจะอยู่แถวนี้ เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี 1990 ที่มีอาจารย์คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ มั่นใจว่า มีแน่ๆ ทำไม่ได้เพราะใช้ทุนเยอะ
กระทั่ง ฟิลิปปา แลงลีย์ ชาวสกอตแลนด์ จากสมาคมริชาร์ดที่ 3 ที่เป็นหัวเรือใหญ่ ใช้เวลาร่วม 10 ปี รณรงค์และผลักดันให้มีการค้นหาพระศพของพระองค์
แล้วก็ทำได้สำเร็จและน่าตื่นเต้นมากๆ
สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ พบโครงกระดูกตรงตำแหน่งที่เคยมีตัว R ที่คาดกันไว้ 1 ปีก่อนการเตรียมขุด!!!!!
R ในที่นี้คือ Reverse หรือจุดเลี้ยวกลับ กลายเป็น “จุดมาร์ค” เพราะ ฟิลิปปา มั่นใจว่า “R” คือ “Richard” นั่นเอง!!!!
การเตรียมขุด ปี 2011 เพื่อไปหาเงินค่าขุดเกือบล้าน และขออนุญาตสภาเมือง
เริ่มขุด 25 สิงหาคม 2012
ขุดครบ 4 กันยายน 2012
แถลงข่าว 4 กุมภาพันธ์ 2013
ก่อนจะมีพิธีฝังแบบสมพระเกียรติ ที่มหาวิหารเลสเตอร์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2015
หลังการตรวจพบกะโหลกของพระองค์ ได้มีการนำไปทดสอบทางเคมีหลายขั้นตอน เพื่อตรวจ DNA ซึ่งผลตรวจออกมาพบว่า ไปสอดคล้องกับ DNA ของราชวงศ์อังกฤษ
เมื่อนำมาตรวจกับบุคคลที่สืบเชื้อสาย คือ มิเชลล์ อิบเซน ชาวแคนาดาผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าหญิงแอนแห่งยอร์ค ซึ่งเป็นพระขนิษฐาแท้ๆ ของคิง ริชาร์ด ที่ 3 นั่นเอง
จนนำกระดูกท่านมาทำพิธีตามศาสนา และตั้งอนุสาวรีย์ที่เมือง
.....คนที่นั่นเชื่อว่า การกลับมาของท่านทำให้เกิดปรากฏการณ์ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งการรอดตกชั้นแบบปาฏิหาริย์เมื่อปีก่อน และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร 132 ปี
ตำนานกษัตริย์ คิง ริชาร์ด ที่ 3
คือปาฏิหาริย์ซ้อนปาฏิหาริย์ และยิ่งกว่าคำว่า “ปาฏิหาริย์”!!!!
ตำนานกษัตริย์ ถูกนำไปพูดถึงว่า แท้ที่จริงแล้ว เลสเตอร์ เป็นแชมป์นั้นประกอบไปด้วย 3 คิง
1.คิง พาวเวอร์ เจ้าของทีม, 2.แอนดี้ คิง นักบอลในทีม และ 3.คิง ริชาร์ด ที่ 3
มาถึง ค.ศ.ปัจจุบัน กลับกลายมีอีกหนึ่งตำนานที่เดินเคียงข้างกับฟุตบอล
คุณทวด มากาเร็ธ แอนเจลล์ วัย 96 ปี กับแหวนที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต......
ชัยชนะในเกมเอฟเอคัพ ของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ซิตี้ที่มีเหนือเชลซี 1-0 มีคุณค่าให้กับแฟนฟุตบอลของพวกเขาทั้งโลกและนี่คือแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 137 ปีของการก่อตั้ง
ใครจะคิดว่า มุมหนึ่งมีเรื่องสุดคลาสสิกเกิดขึ้น
มันควรจะเกิดขึ้นนานแล้ว และมันมีโอกาสที่จะไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็ได้...........
สตอรี่นี้มีอยู่ว่า เซซิล แอนเจลล์ ได้ขอ มากาเร็ธ แต่งงานเมื่อ 73 ปีก่อน
แต่ด้วยสภาพคล่อง ทำให้ยังไม่สามารถซื้อแหวนแต่งงานได้
เซซิล สัญญาว่า จะซื้อแหวนให้ทันทีที่ เลสเตอร์คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ
เลสเตอร์มีโอกาสเข้าชิง 4 ครั้งแต่ก็แพ้ทุกครั้งจนกระทั่ง เซซิลจากเธอไปเมื่อปี 2005
สุดท้าย เลสเตอร์ ทำได้ในปีนี้ ทำให้ ไมค์ ลูกชายชอง เซซิล ได้ทำตามสัญญาของพ่อ ด้วยการเป็นตัวแทนของคุณพ่อซื้อแหวนให้กับคุณแม่ของเขา
อลัน เบิร์ชนัลล์ ทูตสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นผู้นำถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ มาเซอร์ไพรส์ พร้อมเสื้อฟุตบอลที่มีลายเซ็นนักเตะทั้งทีม
“ถ้วยใบนี้ช่างสวยงามมาก และฉันก็เซอร์ไพรส์มากที่ได้เห็น อลัน เบิร์ชนัลล์ มาหาฉันพร้อมกับถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ ขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์ ฉันภูมิใจในตัวทุกๆ คนมาก”
“เชื่อหรือไม่ว่า เราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ แล้วแพ้สามีของฉันจะไม่ยอมมองฉันเลยและฉันมักจะปลอบใจเขาว่า ไม่ต้องกังวล อะไรหรอก ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ต้องขอบคุณลูกชายของฉัน ฉันมีแหวนหมั้นและเขาทำตามคำสัญญาของพ่อแล้ว เขาคงจะภูมิใจกับแหวนมาก”
“ฉันน้ำตาซึมตอนที่ลูกชายโทรมาบอกว่า เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มันช่างวิเศษมาก....”
แหวนวงนี้ชื่อว่า “ยูริ” ตามชื่อของ ยูริ ทีเลมานส์ ผู้ยิงประตูชัยให้ทีมได้แชมป์........
แหวนแต่งงานที่รอคอยมาอย่างยาวนานถึง 73 ปี ได้สิ้นสุดลงแล้วครับ
ฟุตบอลเป็นยิ่งกว่า.....ชีวิต
ใครจะไปคิดว่า มีการเกี่ยวพันถึง 3 เรื่องราวตำนานคลาสสิก
ตำนานสร้างของ คุณวิชัย
ตำนานรบของ คิง ริชาร์ด ที่ 3
ตำนานรักของตระกูล แอนเจลล์............ที่จะเดินเคียงข้างกับตำนานสโมสรตลอดไป
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี