คำว่า “ชาติพันธุ์” ถูกนำมาผ่าน “ฟุตบอล” บ่อยมาก ยูโรหนนี้ก็มีแล้ว 2 ยก
ยกแรก เสื้อของยูเครน ที่แฝงไปด้วยความชัง รัสเซีย
ยกสอง มาร์โก อาร์เนาโตวิชกองหน้าทีมชาติออสเตรีย แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหลังจากยิงประตูได้ ด้วยการไปตะโกนท้าทายใส่ เอซกาน อลิออสกี้นักเตะนอร์ท มาซิโดเนีย
แปลออกมาได้ใจความที่ว่า “กูจะ.....แม่พวกมึงไอ้แอลเบเนี่ยน!!!!”
ร้อนไปถึง ดาวิด อลาบ้า แข้งทองเพื่อนร่วมทีม ถึงกับบีบปากให้หยุดพูดแต่ไม่ทันแล้ว.....
ตีความไปในทางเดียวกันทั้งโลกว่าเหตุที่ อาร์เนาโตวิช หลุดคำพรุสวาท น่าจะเกี่ยวข้องกับสงครามโคโซโว ที่ เซอร์เบีย กับแอลเบเนีย มีปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในภูมิภาคนั้น
เป็นอีกหนึ่งภาพชัดของวงการฟุตบอลที่ไม่พ้นเรื่องการเมืองที่ปะทุความรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจากเด็กๆ ในรุ่นการล่มสลายของขั้วอำนาจในยุโรป เริ่มโตขึ้นมาตามปฏิทินกาลเวลา
ภาพชัดเจนผ่านในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก ระหว่าง เซอร์เบีย กับ แอลเบเนีย
ในศึกบอลโลก 2018 ระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ กับเซอร์เบีย คือตัวอย่างของ “การแสดงออก” ถึงเรื่อง “ความขัดแย้ง”
หมายเหตุมาจากพื้นที่แดนยุโรปมีการหลอมรวมหลากหลายวัฒนธรรม ตัวอย่างคือ แอลเบเนีย ที่รับประเพณีจาก กรีก, โรม และเวเนเชี่ยนส์ มีดินแดนติดอยู่กับ กรีซ,ยูโกสลาเวีย, โคโซโว, เซอร์เบีย และทะเลเอเดรียติค
เมื่อจบสงครามบอลข่าน ในปี 1913 “โคโซโว” ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย หรือ อดีตยูโกสลาเวีย โดยพื้นที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวแอลเบเนี่ยนอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติ
ระหว่างประชากรเชื้อสายแอลเบเนี่ยน กับประชากรเชื้อสายเซิร์บ
แอลเบเนีย มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกันกับ เซอร์เบีย จุดนั้นมี “โคโซโว” คั่นกลาง
เรื่องนี้ได้ก่อตัวสั่งสมเรื่อยมาและนำไปสู่การทำสงครามหลายครั้ง ก่อนจะปะทะกันในสนามฟุตบอลในยูโร 2016รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2015ที่สนามปาร์ติซาน สตาดิโอน เมื่อครั้งที่ แอลเบเนีย ไปเยือนเซอร์เบีย ครั้งแรกในรอบ 63 ปี
จากนั้นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 2018 ที่รัสเซียท่าดีใจ “นกอินทรีสองหัว” ที่อยู่บนธงประจำชาติของแอลเบเนีย ของ กรานิตชาก้า กับ เซอร์ดาน ชากีรี่ สองดาวเตะสวิส ที่พาทีมกำชัยเหนือ เซอร์เบีย มันสื่อถึงการอพยพจากภัยสงคราม ซึ่ง สวิส คือดินแดนแห่งการลี้ภัยของพวกแอลเบเนีย
หนนั้น ชากีรี่ บอกว่า ไม่มีอะไร แต่มันมีแน่นอน
เช่นเดียวกันกับที่ อาร์เนาโตวิช บอกว่า “ก็ไม่มีอะไร”
ยูโรครั้งนี้มีเรื่องจากดินแดนดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้ง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเป็นเกมระหว่าง ออสเตรีย กับ นอร์ท มาซิโดเนีย
อ่านถึงตรงนี้ ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันกับเรื่องข้างบนแม้แต่น้อย???
เจาะลงรายละเอียดก็คือ อาร์เนาโตวิช เองมีคุณพ่อเป็นชาวเซอร์เบีย ซึ่งการที่เขาด่า อลิออสกี้ เป็นเหมือนกับการ“ด่าฝาก” เพราะต้องไม่ลืมว่า ลัทธิชาตินิยมแอลเบเนียในมาซิโดเนียเหนือ ฝังรากมานาน
ย้อนไปเมื่อต้นทศวรรษที่ 90 ยูโกสลาเวีย ที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ ควบคุม 6 สาธารณรัฐ ประกอบด้วยบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า, สโลวีเนีย, โครเอเชีย, เซอร์เบีย,มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย รวมไปถึงมณฑลอิสระอย่างโคโซโวและวอยโวดีนา ซึ่งเป็นมณฑลปกครองตนเอง
ดินแดนสลาฟ มีผู้นำที่มีความสามารถในการปกครองและผสานความเป็นสมานฉันท์ระหว่างเชื้อชาติ คือพลเอกโยซิป บรอซ ตีโต้ ถึงแม้ความขัดแย้งทางเชื้อชาติจะมี แต่ก็น้อยมาก
แต่เมื่อผู้นำ ตีโต้ ถึงแก่กรรม ผู้นำที่ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง คือ สโลโบดาน มิโลเซวิช เป็นพวกหัวรุนแรง ทำให้ก่อชนวนปัญหาเชื้อชาติเกิดขึ้นมาอีกครั้ง พอดีจังหวะกับที่ ระบบคอมมิวนิสต์ในรัสเซียล่มสลายในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 พอดี
ทำให้ก่อเกิดสาธารณรัฐที่ต้องการแยกเป็นอิสระ
ยูโกสลาเวีย เริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ ในช่วงปี 1990 เป็น5 ประเทศ นั่นคือ โครเอเชีย วันที่ 25 มิถุนายน 1991, สโลวีเนียวันที่ 25 มิถุนายน 1991บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 1992,เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร วันที่ 17เมษายน 1992 และ มาซิโดเนีย วันที่ 8 กันยายน 1991 ก่อนจะได้รับการรับรองในปี 1994.....ทั้งหมดคือที่มา
สายเลือด, เชื้อชาติ มันเป็นสิ่งที่ฟาดฟันกันมา เป็นเรื่องเปราะบาง และละเอียดอ่อน ซึ่ง อาร์เนาโตวิช จะมาโพสต์ผ่านโลกออนไลน์ตอนหลังว่า ไม่ได้ตั้งใจและขอโทษ ไม่ใช่พวกเหยียดเชื้อชาติ
ย้อนกลับไปถามว่า คุณจะเชื่อเขาหรือไม่ นั่นคือสิทธิ์ของแต่ละคนว่าจะกาข้อ ก, ข, ค หรือ ง
ในโลกออนไลน์คุณจะเป็นอะไรก็ได้
แต่โลกแห่งความเป็นจริงนี่...อีกเรื่องเลย!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี