การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งที่ 16 หรือยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายกลุ่มเอ ในวันอาทิตย์นี้ 2 คู่จะเตะพร้อมกันในเวลา 23.00 น. โดยปรีวิวการดวลแข้งมีดังนี้
อิตาลี-เวลส์ : เจ้าบ้าน อิตาลี จะได้เล่นในสตาดิโอ โอลิมปิโก้ ที่กรุงโรม หลังจากเก็บ 6 คะแนนเต็ม ด้วยการทุบ ตุรกี 3-0 และสวิตเซอร์แลนด์ มาด้วยสกอร์ 3-0 เกมนี้ขอแค่เสมอจะคว้าแชมป์กลุ่มทันที แต่ต้องเช็คความฟิตของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังจอมเก๋าที่บาดเจ็บในเกมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ อเลสซานโดรฟลอเรนซี่ หากทั้งสองคนเล่นไม่ได้ ฟรานเชสโก้ อแซร์บี้ และโจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ จะได้ประจำการแทนต่อไป ที่เหลือคาดว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ไม่น่าจะปรับทัพยึดแผนเดิมในระบบ 4-3-3 นิโกโล่บาเรลล่า, จอร์จินโญ่ และมานูเอล โลคาเตลลี่จะคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกนำโดย โดมินิโก้เบราร์ดี้ ประสานงานกับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ และลอเรนโซ่ อินซินเญ่
ทางฝั่ง “มังกรแดง” เวลส์ เล่นมา 2 เกมยังไม่แพ้ใครเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 และนัดล่าสุดเพิ่งเอาชนะ ตุรกี มาได้ 2-0 หากเสมอจะต้องไปลุ้นผลอีกคู่ไม่ให้ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ หรือหากสวิสเสมอต้องวัดกันที่ลูกได้เสีย เกมนี้ร็อบ เพจ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เชื่อว่าจะยึดแกนหลักชุดเดิมเล่นในระบบ 4-2-3-1 มีโจ อัลเลน และโจ มอร์เรลล์ คุมแดนกลางแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ แกเร็ธ เบล, แอรอน แรมซีย์ และแดเนี่ยล เจมส์ โดยมี คีฟเฟอร์ มัวร์ยืนเป็นหน้าเป้า
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม อิตาลี(4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, โจวานนี่ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้อแซร์บี้, เลโอนาร์โด้ สปีนาซโซล่า, นิโกโล่ บาเรลล่า,จอร์จินโญ, มานูเอล โลคาเตลลี่, โดมินิโก้ เบราร์ดี้,ชิโร่ อิมโมบิเล่ และลอเรนโซ่ อินซินเญ่
เวลส์ (4-2-3-1) : แดนนี่ วอร์ด, คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, คริส เมเพม, โจ โรดอน, เบน เดวีส์, โจ อัลเลน, โจ มอร์เรลล์, แกเร็ธ เบล,แอรอน แรมซีย์, แดเนี่ยล เจมส์ และคีฟเฟอร์ มัวร์
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม 9 ครั้งที่ดวลกันมาไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ อิตาลี ดูดีกว่าเอาชนะได้ 7 และเวลส์ชนะ 2 หนล่าสุดที่เจอกันต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 อิตาลี ถล่ม 4-0
สวิตเซอร์แลนด์-ตุรกี : “แดนนาฬิกา”สวิตเซอร์แลนด์ มีเพียงแค่ 1 คะแนนจากการเสมอกับ เวลส์ 1-1 และนัดล่าสุดพ่ายให้กับ อิตาลี 3-0 โอกาสเดียวที่จะเข้ารอบต้องชนะเท่านั้นแล้วค่อยไปลุ้นผลคู่ เวลส์กับอิตาลี ความพร้อมไม่มีปัญหาในการจัดทัพ แต่เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่วลาดิเมียร์ เพ็ทโควิช จะดร็อป แฮริส เซเฟโรวิช ที่ฟอร์มฝืดไปนั่งสำรอง เปิดโอกาสให้ มาริโอ กาฟราโนวิช ลงประสานงานกับ บรีล เอ็มโบโล่ ในแดนหน้าส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่าจะปรับเปลี่ยนอะไร นำโดยกรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์, เควิน เอ็มบาบู, ริคาร์โด้ โรดริเกซ และเซอร์ดาน ชากิรี่
ทางฝั่ง “ไก่งวง” ตุรกี ที่ผลงานในรอบคัดเลือกดี แต่พอเข้าสู่รอบสุดท้ายกลับเล่นได้น่าผิดหวังแพ้มา 2 เกมรวด แพ้ อิตาลี 3-0 และเกมล่าสุดแพ้ เวลส์ 2-0 ยังยิงประตูใครไม่ได้เลย พวกเขายังมีลุ้นเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 3 แต่โอกาสนั้นถือว่ายากแล้ว หนทางเดียวคือต้องชนะเกมนี้เท่านั้น ทีมถือว่าพร้อมไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ เชื่อว่าอาจจะมีการปรับทัพมีเท่าไหร่ต้องใส่ให้หมด เมรีห์ เดมิรัล จะกลับมาประจำการแนวรับคู่กับ คักลาร์ โซยุนคู แดนกลางยังมีโอกาย โยคูสลู เป็นตัวหลัก แนวรุกฝากความหวังไว้ที่สามประสานอย่าง เซนกิซ อุนแดร์ และบูรัค ยิลมาซ และฮาคาน คัลฮาโนกลู
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-1-2) : แยน ซอมเมอร์, นิโก้ เอลเวดี้,ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อคานจี, เควิน เอ็มบาบู, กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์, ริคาร์โด้ โรดริเกซ,เซอร์ดาน ชากิรี่, บรีล เอ็มโบโล่ และมาริโอกาฟราโนวิช
ตุรกี (4-2-3-1) : อูร์กูร์ชาน ชาคีร์,เซกี้ เซลิค, เมรีห์ เดมิรัล, คักลาร์ โซยุนคู, อุมุตเมราส, โอกาย โยคุสลู, โอซาน ตูฟาน, เซนกิซ อุนแดร์, ฮาคาน คัลฮาโนกลู, ยูซุฟ ยาซีซี่ และบูรัค ยิลมาซ
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 15 ครั้ง ตุรกี เหนือกว่าเอาชนะได้ 8 เสมอ 3 และสวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 4 ครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี