สิ้นเสียงเป่านกหวีดยาวๆ ที่ลา คาตูฆา แคว้นอันดาลูเซีย
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 (The 2020 UEFA European Football Championship)ผ่านพ้นไปสำหรับ 2 เกมแรกของทุกทีม ประเด็นน่าสนใจและน่าติดตามมีอย่างมากมาย
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น ยูโร ที่มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย และแน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องของผลการแข่งขันที่สมัยนี้เหมือนกับว่า “ใคร” ก็มาเป็นผู้ “วิเคราะห์” ได้แบบตลกต้องตกงาน
ฟุตบอลเป็นสิ่งที่จริงจังไม่ใช่จะตลกกันอย่างเดียว......เพราะชีวิตจะผ่อนคลายอย่างเดียวไม่ได้, ดราม่าอย่างเดียวก็ไม่ได้ และจะชิลชิลอย่างเดียวก็ไม่ได้
ฟังสบายๆ ระรื่นหูอย่างเดียวก็ไม่ได้ ไม่งั้นจะมีไว้ทำไมทั้ง ลูกทุ่ง, ลูกกรุง, แร็พ, ร็อก, กันตรึม กระทั่งเพื่อชีวิต ........
ขนาดร็อกยังลากยาวมาตั้งแต่เฮฟวี่เมทั่ล (แถวบ้านออกเสียง เฮฟ-วี่-เม็ด-ถอด), ร็อกบาดจิตแบบบัลลาร์ด ที่ไม่เกี่ยวกับสตาร์ทเตอร์ ทอดยาวถึง ร็อกคงคย
เรื่องราว “นอกสนาม” ที่พยายามส่งเข้ามา “ในสนาม”, เรื่องราวของ “ชาติพันธุ์” ส่งต่อมายังอีกชาติ กระทั่งเรื่องสำคัญต่อชีวิต, สำคัญต่ออัตลักษณ์สายเลือด เหมือนที่เคยเขียนไว้ก่อนทัวร์นี้จะเริ่มต้นขึ้น
กับ “ยูโร โรแมนซ์” ที่ถูกวาดเอาไว้โดย “นโปเลียนลูกหนัง”มิเชล พลาตินี่
ที่ถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร ไม่ว่าจะ “แชมป์” หรือ “ทัวร์นาเมนท์”?!?!?!?!?!?
เรื่องการวุ่นวายกับเครื่องดื่มผู้ให้การสนับสนุนยูโร รุงรังจน ยูฟ่า ต้องสั่งห้ามยุ่งกับแบรนด์
พฤติกรรมเลียนแบบน่าต้องโดนปราม
การกระทำของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เกี่ยวกับการเอาขวดโค้กขยับออกจากโต๊ะแถลงข่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเกี่ยวกับการนำขวดสปอนเซอร์ที่อยู่กับวงการลูกหนังมานานก่อนที่ โด้ จะเกิดด้วยซ้ำ ก่อนจะพูดทีเดียวว่า “กินน้ำเปล่า”
ถูกต้องหรือไม่ก็แล้วแต่ “เซลล์” ของแต่ละคน ไม่มีการบังคับ
อย่างไรก็ตาม มันกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่ดูแล้ว เริ่มไม่เหมาะสม, ตลก และบางทีก็ฝืดแบบไม่ได้ทาจาระบี
ปอล ป๊อกบา กองกลางฝรั่งเศส ขยับขวดเบียร์ออก, มานูเอลโลคาเตลลี กองกลางทีมชาติอิตาลี ได้ทำในลักษณะคล้ายๆ กันกับ โด้แต่ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือทีมชาติรัสเซีย เลือกที่จะเปิดขวดดื้อๆ แล้วกินโชว์ต่อหน้าสื่อเลย!!!!
ร้อนถึง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ “ยูฟ่า” ต้องออกโรงเตือนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันว่าการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนถือว่ามีความสำคัญต่อการจัดการแข่งขัน และเพื่อสร้างความมั่นใจในการพัฒนาฟุตบอลทั่วยุโรปรวมถึงเยาวชนและผู้หญิงอีกด้วย
จากนั้นก็มีปั่นกระแสเรื่องคนติดตาม โรนัลโด้ มากมาย300 ล้านคน มากกว่าใครในวงการกีฬาโน่นนั่นนี่ แต่นั่นแหละจะรักหรือจะเชียร์ใครไม่ว่า
แต่มนุษย์ก็คือคน และคนคือมนุษย์ มาทีไม่ได้ผิดและไม่ได้ถูกเสมอไป แบ่งใจเชียร์ไปเป็นเคสๆ ไม่ใช่หลับหูหลับตาให้กำลังใจกันอย่างเดียว โดยไม่สมเหตุและผล
แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ของการจัดงานต่างๆ มาจากเงินสปอนเซอร์ ซึ่ง ยูโร หนนี้ ประกอบไปด้วย โคคา-โคล่า, Heineken, Alipay,Booking Holdings, FedEx, Gazprom, Hisense, Qatar Airways, Takeaway.com, Vivo, รถโฟล์ค และแอปดังอย่าง TikTok
มาร์ติน คัลเลน ผู้อำนวยการประจำยูโร 2020 บอกว่าทุกคนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎของการแข่งขัน เราจะไม่ทำการปรับ เพราะเราไม่เคยปรับผู้เล่นโดยตรงจากเรื่องแบบนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วข้อบังคับที่ผ่านการลงนามโดยสมาคมฟุตบอลของชาติที่เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งเราจะมีบทลงโทษไว้แล้วก็ตาม ส่วนกรณีของ ป๊อกบา เราเปิดกว้างด้วยเหตุผลทางศาสนา ขอให้ทุกคนสบายใจได้
ส่วนเรื่องที่ โรนัลโด้ อาจเป็นผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ และตรงข้ามกับน้ำอัดลมที่สนับสนุนอิสราเอล ที่ถูกหยิบยกกันมา หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่า โด้ แกมุ่งมั่นอยู่ในสนามมากๆ และอาจไม่ทราบว่า อิสราเอล ยืนยันจะส่งวัคซีนโควิด 1 ล้านโดสให้ปาเลสไตน์
เรื่องอื่นไม่รู้แต่ “โควิด” คือศัตรูร่วม!!!!
มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช แนวรุกเลือดเซิร์บ ของออสเตรีย ทำให้เรื่องชาติพันธุ์กลับมาอยู่ในมอนิเตอร์ อีกครั้ง
ใครว่า “การมุ้ง” ไม่เกี่ยวกับ “การเมือง”
มีเรื่องการเมืองหนักๆ สาวกัน “สองยก”
ยกแรก เสื้อของยูเครน ที่แฝงไปด้วยความชัง รัสเซีย
ยูฟ่า ได้มีคำสั่งให้ถอด “สโลแกนทางการเมือง” ออกจากเสื้อยูโร 2020 หลังจากที่รัสเซียประท้วง เพราะเสื้อที่มีแผนที่แสดงที่ตั้งของ “ไครเมีย” รวมถึงวลี “Glory to the Heroes” ด้วย
นี่คือ ม็อตโต้ หรือ คติพจน์ ที่มีรากฐานมาจากการก่อความไม่สงบที่ต่อต้านโซเวียตมานานหลายทศวรรษของยูเครน!!!!
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากจุดกำเนิด รากเหง้าที่มีมาช้านาน กระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1991 ยังผลให้เกิดผลข้างเคียงที่ตามมา
ยกสอง มาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าทีมชาติออสเตรีย แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหลังจากยิงประตูได้ ด้วยการไปตะโกนท้าทายใส่ เอซกาน อลิออสกี้ นักเตะนอร์ท มาซิโดเนีย แปลออกมาได้ใจความที่ว่า “กูจะ.....แม่พวกมึงไอ้แอลเบเนี่ยน!!!!”
ร้อนไปถึง ดาวิด อลาบ้า แข้งทองเพื่อนร่วมทีม ถึงกับบีบปากให้หยุดพูดแต่ไม่ทันแล้ว.....
ตีความไปในทางเดียวกันทั้งโลกว่าเหตุที่ อาร์เนาโตวิช หลุดคำพรุสวาท มาจากสงครามโคโซโว ที่ เซอร์เบีย กับแอลเบเนียมีปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในภูมิภาคนั้น
อาร์เนาโตวิช เองมีคุณพ่อเป็นชาวเซอร์เบีย ซึ่งการที่เขาด่า อลิออสกี้ เป็นเหมือนกับการ “ด่าฝาก” เพราะต้องไม่ลืมว่าลัทธิชาตินิยมแอลเบเนียในมาซิโดเนียเหนือ ฝังรากมานาน
เป็นอีกหนึ่งภาพชัดของวงการฟุตบอลที่ไม่พ้นเรื่องการเมืองที่ปะทุความรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจากเด็กๆ ในรุ่นการล่มสลายของขั้วอำนาจในยุโรป เริ่มโตขึ้นมาตามปฏิทินกาลเวลา
“ชีวิตใหม่” กับของประจำกายเอริคเซ่น
โลกนี้ยังไม่ใจร้ายจนเกินไปเมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก ยังคงอยู่กับพวกเราต่อไปในวิถีของฟุตบอล และได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากรักษาตัวเกือบหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่เขาล้มลงในสนามระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป นัด เดนมาร์ก กับ ฟินแลนด์
สหพันธ์ฟุตบอลเดนมาร์ก แถลงว่า การผ่าตัดเพื่อใส่อุปกรณ์หัวใจของเขาประสบความสำเร็จและออกจากโรงพยาบาล Rigshospitalet ในใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน เป็นที่เรียบร้อย
“หลังจากประสบความสำเร็จในการติดตั้ง ICD ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องกระตุ้นหัวใจ”
สำหรับ เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Implantable Cardioverter Defibrillator : ICD) เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ถูกผ่าตัดฝังใต้ผิวหนัง ส่วนใหญ่จะติดตั้งที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายใต้กระดูกไหปลาร้าของผู้ป่วยที่มีอาการจากโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หายวันหายคืน และหวังใจว่า จะได้เห็นลีลาวาทยกรลูกหนังคนนี้อีกครั้ง……
มหานครลอนดอน ยังเป็นปริศนาต่อไป กับการแข่งขันรอบลึกๆ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
เราจะได้ดูนัดชิงฯที่ไหนกันแน่
รัฐบาลของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศเลื่อนคลายล็อกดาวน์ระยะสุดท้ายในอังกฤษ ออกไปอีก 4 สัปดาห์ ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในอินเดีย
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ต้องเลื่อนคลายล็อกดาวน์ระยะสุดท้ายในอังกฤษจาก 21 มิถุนายน ไปเป็น 19 กรกฎาคมนี้และจะเป็น “วันแห่งอิสรภาพ” ของทุกคนในสหราชอาณาจักร
น่าสนใจที่ว่า ไวรัสเดลต้า เป็นสายพันธุ์หลักในสหราชอาณาจักรไปแล้ว แทนที่ของ สายพันธุ์อัลฟ่า หรือที่เดิมเรียกว่า สายพันธุ์อังกฤษ คาดกันว่า สหราชอาณาจักร กำลังจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นระลอกใหญ่เพราะโควิดสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งคิดเป็น 90% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดตอนนี้
รัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้มีแผนการทำงานที่ชัดเจนมาตลอด ก่อนจะประกาศอะไรออกไป โดยเฉพาะเรื่องของ “คลายล็อกดาวน์”
จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ 1.วัคซีนเป็นไปตามแผน
2.มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุให้เห็นว่า วัคซีนสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิต และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น
3.อัตราการติดเชื้อลดลง ไม่เป็นภาระหนักสู่กระบวนการส่วนผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
สำคัญคือ 4.เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยง
คริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพเดนมาร์ก ได้กลับมาพักร่างกายที่บ้านเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เสี่ยงมาก เพราะรายงานล่าสุดผู้ติดเชื้อทะลุมาที่ 10,476 ราย และเป็นเดลต้า 99 เปอร์เซ็นต์
พร้อมกันนี้ อังกฤษ(ไม่ใช่ ยูเค) เป็นชาติแรกที่ยืนยันข้อมูลว่ามีผู้ “กลับมาติดซ้ำ” 18,893 ราย
เงื่อนไขของ “ยูฟ่า” ที่ต้องการให้คนเข้าไปดูในสนามได้ 22%-100% ตามความจุของสนาม
“นิว เวมบลีย์” ในมหานครลอนดอน คือสถานที่หลักในการจัดครั้งนี้ 11 สนาม 11 เจ้าภาพ และจะจัดทั้งรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
ที่ผ่านมา ยูฟ่า ยืนยันว่า พวกเขาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของแต่ละสนามที่ให้แฟนบอลเข้าชม โดยมีหนึ่งเดียวคือ “ปุสกัส อารีน่า”ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี 67,215 คน เพราะมีการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชากร
นอกจากจะต้องลุ้นผลงานในสนามแล้ว ประเด็นน่าสนใจก็คือ ต้องลุ้นไวรัสร้ายนี้ด้วยว่า จะไปอย่างไรต่อ
ย้ำข้อความเดิมที่เขียนไว้ก่อนเปิดทัวร์นาเมนท์ว่า “ยูโร 2020” ฉบับโรแมนซ์ในปี 2021 ยังไงก็หวังว่า ยังไงก็ต้องไปต่อให้จบ
มันอยู่ที่ว่า “จบยังไง” นี่แหล่ะ....ประเด็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี