ทีมอินทรีเหล็กเยอรมันแชมป์โลก4สมัยและแชมป์ยูโร 3 สมัยคืนฟอร์มเก่งถล่ม”ฝอยทอง”เซเลเซา โปรตุเกส 4-2 ทำให้กลับมาอยู่ในโอกาสเข้ารอบ 16 ทีม หลังจากพลาดแพ้ฝรั่งเศสอดีตแชมป์ยูโร 2 สมัย และแชมป์โลก2สมัยมา1-0 การแข่งขันระหว่างเยอรมันของโค้ชโยอาคิม เลิฟกับโปรตุเกสในกลุ่มเอฟที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า, เยอรมัน ที่นครมิวนิค เริ่มเกมเยอรมันบุกหนักหวังยิงประตูนำก่อนแต่ยิงพลาดหมด 3 ครั้งซ้อน นาทีที่ 15 โปรตุเกส ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากการโต้กลับเร็วของ แบร์นาร์โด้ ในฝั่งขวาก่อนโยนข้ามฟากมาให้ดิโอโก โชต้า วิ่งขึ้นมาทางฝั่งซ้ายหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วดีดต่อให้คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ยิงง่ายๆ เข้าประตู แต่เยอรมัน กลับมาเดินหน้าบุกใหม่ และตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 35 โจชัว คิมมิช โยนข้ามฝากให้โรบิน โกเซนส์ ทางฝั่งซ้ายตบเข้ากลางเร็วแบบไม่จับหวังให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ รูเบน ดิอาส แนวรับมาชนบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป นาทีที่ 39 เยอรมัน ได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยนไปให้ ฮาแวร์ตซ์ ชาร์จไม่โดนเลยมาถึงโจชัว คิมมิช ที่เส้นหลังด้านขวาเลยตบเข้ากลาง ราฟาเอล เกร์เรยโร่หลังฝอยทองล้มตัวสกัดเข้าประตูตัวเองเป็น2-1 ครึ่งแรกอินทรีเหล็กนำ2-1
ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 เยอรมัน หนีห่าง 3-1 จากโทมัส มุลเลอร์ จ่ายด้านซ้ายให้ โรบิน โกเซนส์ ตบเข้ากลางเขตโทษมาที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ สอดมาชาร์จระยะเผาขนตุงตาข่ายไม่เหลือนาทีที่60 โยชัว คิมมิชดาวเด่นนัดนี้ เปิดบอลจากขวาเข้ากลางให้ โรบิน โกเซนส์ โดดโหม่งที่เสาไกลตุงตาข่ายเป็น4-1 นาทีที่ 67 โปรตุเกส ไล่มา 2-4 จากจังหวะฟรีคิก บอลโยนเลยผ่านหน้าประตูมา และเป็น โรนัลโด้ ที่ตามมาเปิดจากขวาโด่งกลับไปเสาไกลให้ ดีโอโก้ โชต้า ยิงระยะเผาขนเข้าประตูไป หลังจากนั้นเยอรมันถอยลงไปตั้งรับหมด โปรตุเกสเจาะไม่เข้าหมดเวลาเยอรมันชนะ 4-2 คว้า 3 แต้มได้ มีลุ้นเข้ารอบทั้ง 2 ทีม
คู่ที่ 2 ในกลุ่มเอฟตราไก่ ฝรั่งเศสแชมป์โลกปี2018 พบแม็กยาร์ ฮังการี่ที่สนามปุสกัสอารีน่า นครบูดาเปสต์ ฮังการี่เจ้าบ้านเน้นรับวางหลัง 5 คน กลาง 4 คนหน้าเป้า 1 คน ส่วนตราไก่ใช้ระบบ 4-3-3 มี 3 ประสานแดนหน้าคืออองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ครึ่งแรกตราไก่บุกแต่บยิงไม่ได้เพราะนายทวาร เพเทอร์ กูลาสซี่จากอาร์เบไลป์ซิก เหนียวเหมือนเดิม และมาได้ประตูนำ 1-0 นาที 47 จากการโต้กลับเร็ว โรลันด์ ชาลไล แทงทะลุไปริมเส้นทางซ้ายถึง อัตติล่า ฟิโอล่าหลุดกระชากเข้ากรอบซัดผ่าน อูโก้ โยริส ตุงตาข่าย ครึ่งหลัง นาทีที่ 60 ฝรั่งเศสให้อุสมาน เดมเบเล่ ลงมาแทน อาเดรียง ราบิโอต์ นาทีที่ 66 ‘ตราไก่" ตีเสมอ 1-1 จากการสวนกลับโยริส สาดยาวทิ้งมาแดนหน้า แนวรับ ฮังการี ปล่อยบอลตกพื้นเอ็มบั๊ปเป้ เก็บได้ทางขวาแล้วครอสเลียดในกรอบแฉลบตัวบล็อคแต่กลายเป็นดีเข้าทางอองตวน กรีซมันน์ กดไม่เหลือซาก ท้ายเกม ฝรั่งเศส บดหนักแต่เจาะไม่สำเร็จจบเกมเสมอ 1-1 ต้องลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้ายโดยฝรั่งเศสพบโปรตุเกสและเยอรมันพบฮังการี่ในเวลาเดียวกัน
คู่ที่ 3 กลุ่มอี ที่สนาม เอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา, นครเซบีย่า กระทืงดุสเปนอดีตแชมป์ยูโร3สมัยและแชมป์โลก1สมัยพบโปแลนด์ นาทีที่ 7 โปแลนด์มีโอกาสยิงก่อนมาเตอุส คลิก ยิงไกลบอลพุ่งเฉี่ยวคานออกไป นาทีที่ 25 สเปน ส่งบอลเสียบตาข่ายเมื่อทาง เคราร์ด โมเรโน่ ลากตัดจากขวาก่อนยัดเข้าใน อัลบาโร่ โมราต้า สอดมาเอาบอลก่อนยิงเข้าสวยงาม โอกาสโปแลนด์ ที่จะตีเสมอในนาที 43 คาโรล สวิเดอร์สกี้ ยิงไกลชนเสา บอลเด้งเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อัดจ่อๆ ติดเซฟ อูไน ซีม่อนใน ครึ่งหลังนาทีที่ 54 โปแลนด์ ตีเสมอ 1-1 คามิล ยอซเวียคมาทางขวาเปิดเข้าตรงกลาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลอยตัวโขกส่งบอลเสียบตาข่าย นาทีที่ 57 กระทิงดุ ได้จุดโทษ ยาคุบ โมเดอร์ ไปทำฟาวล์ เคราร์ด โมเรโน่ แต่ โมเรโน่ กดบอลพลาดชนเสาชวดประตูจบเกมเสมอกัน1-1สเปน ต้องไปลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้ายกับ สโลวาเกีย ส่วนโปแลนด์พบสวีเดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี