กระทิงฝืด : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ ซัดประตูตีเสมอ ทีมชาติสเปน 1-1 ในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 รอบแรก นัดสุดท้าย คืนวันจันทร์นี้ มีการดวลแข้งกันทั้งสิ้น 4 คู่ จาก 2 กลุ่มเพื่อเข้ารอบ โดยวันนี้จะเป็นการถ่ายทอดสด3 ช่อง ประกอบด้วย NBT2 ที่จะเป็นแม่ข่าย รวมไปถึง PPTV HD ช่อง 36 และช่อง 3 เพื่อชี้ชะตาทีมที่จะลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์ ซึ่งปรีวิวทั้งหมด 4 คู่มีดังนี้
กลุ่ม ซี นอร์ท มาซิโดเนีย - เนเธอร์แลนด์ เวลา 23.00 น. : เกมคู่นี้พีพีทีวี 36 ถ่ายทอดสด โดย นอร์ท มาซิโดเนีย ลงเล่นมา 2 เกมแพ้ทั้ง 2 นัด ยังไม่มีคะแนน เกมล่าสุดแพ้ให้กับ ยูเครน1-2 โอกาสตกรอบสูง ต้องชนะเกมนี้เท่านั้นด้วยสกอร์ที่เยอะๆเท่านั้น เพราะลูกได้เสียก็ติดลบ ซึ่งการจัดทัพไม่มีปัญหามีเท่าไหร่ใส่หมด ยึดแผนการเล่นเดิม 3-5-2 อารียาน อเดมี่ คอยเป็นตัวตัดเกม ปล่อยให้ เอลจิฟ เอลมาส และเอนิส บาร์ดี้ เคลื่อนที่สร้างเกมรุก พร้อมกับส่ง อเล็กซานเดอร์ ตราย์คอฟสกี้ ลงไปยืนเป็นคู่หัวหอกกับ โกรัน ปานเดฟ
ทางฝั่ง “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยการมี 2 คะแนนจากการชนะ 2 เกมที่ผ่านมา
นัดล่าสุดเพิ่งเอาชนะ ออสเตรีย มาได้ 2-0 เกมนี้ยังได้เล่นในโยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า เหมือนเดิม ความพร้อมไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แต่เชื่อว่า แฟร้งค์ เดอ บัวร์น่าจะเลือกพักตัวหลักบางรายเอาไว้ เพราะขอแค่เสมอก็เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ดาลีย์ บลินด์, มาร์เท่น เดอ รูน, แพทริคฟาน อานโฮลท์ และวูท เว็คฮอร์สท์ จะได้พัก เปิดโอกาสให้กับเยอร์เรียน ทิมเบอร์, ดาวี่ คลาสเซ่น, โอเว่น ไวจน์ดัล และลุค เดอยองก์ ลงตัวจริง
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 4 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ ไม่แพ้เลย เอาชนะได้ 2 และเสมอ 2 หนล่าสุด
ที่พบกันเป็นเกมคัดฟุตบอลโลก 2010 “อัศวินสีส้ม” เล่นในบ้าน ถล่ม 4-0
กลุ่ม ซี ยูเครน-ออสเตรีย เวลา 23.00 น. : NBT2 ถ่ายทอดสด เตะกันที่ อารีน่า นาติโอนาล่า กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ซึ่ง ยูเครน ที่ชนะ 1 แพ้ 1 เกมล่าสุดเฉือน นอร์ท มาซิโดเนีย มาได้ 2-1 มีอยู่ 3 คะแนน กุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เชื่อว่าอาจจะเป็นโฉมผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่ผ่านมา เพราะถือว่าค่อนข้างเล่นกันได้อย่างลงตัวขึ้นในระบบ 4-3-3 โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ จากแมนฯซิตี้ จะนำทัพคุมแดนกลางร่วมกับ ทาราส สเตปาเนนโก้ และมีโคล่าชาปาเรนโก้ แผงเกมรุก อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ดูจะเล่นได้เข้าขากับ โรมัน ยาเรมชุค และรุสลาน มาลีนอฟสกี้
ทางฝั่ง “อินทรีดำ” ออสเตรีย นัดล่าสุดกุนซือ มาร์โก โฟด้า อินดี้สุด ๆ ปรับแผนการเล่นแบบยกกะบิ ในการสู้กับเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่จะโดนเร็ว และกลับมาเล่นแบบเดิม แต่สุดท้ายพ่ายไป 2-0 ทำให้มีอยู่ 3 คะแนน เชื่อว่าเกมนี้คงไม่
อินดี้แล้ว เล่นตามเกมที่ตัวเองถนัดคือ 3-4-1-2 ด้วยการถอยดาวิด อลาบา ไปยืนเซ็นเตอร์เหมือนเดิม ส่วนแดนกลางยังคงไว้วางใจ คอนราด ไลเมอร์ เล่นกับซาเวอร์ ชาลาเงอร์ เหมือนเดิมโดยมี มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เป็นตัวกำหนดเกมรุกคอยออกบอลให้กับตัวริมเส้นสองฝั่ง ส่วนแดนหน้าอาจจะเลือกใช้ บริการของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ที่พ้นโทษแบนกลับมา
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 2 ครั้ง สูสีสุด ผลัดกันชนะฝั่งล่ะ 1 ครั้ง โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องทั้งคู่ ยูเครน เล่นในบ้านชนะ 2-1 และออสเตรีย กลับไปเล่นในรังก็เอาคืนได้ 3-2
กลุ่ม บี ฟินแลนด์-เบลเยียม เวลา 02.00 น. : ช่อง 3 ถ่ายทอดสดเกมนี้เล่นกันที่ เครสตอฟสกี้ มหานครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กประเทศรัสเซีย “นกเค้าอินทรียูเรเซีย” ฟินแลนด์ เกมที่เอาพ่ายให้กับ รัสเซีย ที่สนามแห่งนี้แบบน่าเสียดาย 0-1 ทำให้ตอนนี้มี 3 คะแนน ขอเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไปความพร้อมไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เชื่อว่าน่าจะเน้นเกมรับเป็นหลักเพราะคุณภาพผู้เล่นเป็นรอง ยึดระบบเดิม 5-3-2 ทิม สปาฟ มิดฟิลด์กัปตันทีมที่โดนดร็อปในเกมที่แล้วน่าจะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงประสานงานกับ เกล็น กามาร่า และโรบิน ล็อด ส่วนแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ ตีมู ปุ๊กกี้ และโจเอล โปห์ยานปาโล
ทางฝั่ง “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เกมที่แล้วพลิกสถานการณ์กลับมาแซงเอาชนะ “โคนม” เดนมาร์ก 2-1 จากการได้ เควิน เดอ บรอยน์ หายเจ็บกลับมายิง 1 และจ่าย 1 ทำให้มี 6 คะแนนจากการชนะ 2 เกมเข้ารอบไปแล้ว แน่นอนว่าเกมนี้จะไม่มีทีโมธี กาสตานเญ่ ที่เบ้าตาแตกถอนตัวออกไปแล้ว ขุมกำลังที่มีอาการบาดเจ็บต่างฟิตพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือก เชื่อว่า โรเบร์โต้มาร์ติเนซ น่าจะเน้นอยู่ยึดระบบการเล่น 3-4-2-1 เหมือนเดิมอักเซล วิสเซล น่าจะได้ลงตัวจริงคุมแดนกลางร่วมกับ ยูรี ตีเลมานส์เกมรุกใช้ เควิน เดอ บรอยน์ ประสานงานกับ ยานนิค การ์ราสโก้และโรเมลู ลูกากู
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 11 ครั้ง เบลเยียม ดูดีกว่าเล็กน้อย ชนะได้ 4 เสมอ 4 และฟินแลนด์ ชนะ 3 จุดที่น่าสนใจคือ 7 เกมหลังสุด เบลเยียม ไม่สามารถเอาชนะฟินแลนด์เลย นับตั้งแต่ปี 1999 หรือ 22 ที่ผ่านมา
กลุ่ม บี รัสเซีย-เดนมาร์ก เวลา 02.00 น. : NBT2 ยิงสด “หมีขาว” รัสเซีย ภายใต้การคุมทีมของ สตานิสลาฟเชอร์เชชอฟ เป็นหนึ่งในทีมเจ้าภาพร่วม แต่นัดนี้ต้องออกมาเล่นที่ พาร์เค่น สเตเดี้ยม กรุงโคเปนเฮเกน นัดที่แล้วบดเอาชนะ ฟินแลนด์ มาได้ 1-0 ทำให้มี 3 คะแนนจากการเล่น 2 นัดความพร้อมไม่มี มาริโอ เฟอร์นานเดส แบ๊กขวาตัวเก๋าที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ วยาเชสสลาฟ คาราวาเยฟ จะได้ลงประจำการแทนส่วน ยูรี ซีร์คอฟ ไม่สมบูรณ์ ที่เหลืออยู่กันครบ จัดทีมในระบบ3-4-2-1 โรมัน ช็อบนิน คุมแดนกลางร่วมกับ มาโกเหม็ดออซโดเยฟ เกมรุกใช้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ประสานงานกับอเล็กเซย์ มิรานชุค ฮีโร่ผู้ทำประตูชัยในเกมที่แล้ว โดยมี อาร์เต็มซูบ้า ยืนหน้าเป้า
ทางฝั่ง “โคนม” เดนมาร์ก แพ้มา 2 เกมยังไม่มีคะแนน น่าเสียดายนัดที่แล้วเล่นดีแต่สุดท้ายพ่ายให้กับเบลเยียม 1-2 โอกาสที่ยังเหลืออยู่คือต้องชนะเกมนี้ไว้ก่อนและค่อยไปลุ้นเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ให้ ฟินแลนด์ แพ้เบลเยียม หรือเข้ารอบเป็นหนึ่งใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด คาดว่ากุนซือ แคสเปอร์ ยูลมันด์น่าจะใช้แผน 3-4-2-1 ขนแนวรับที่ดีที่สุดอย่าง อันเดรียสคริสเตนเซ่น, ซิมง เคียร์ และยานนิค เวสเตอร์การ์ด ลงพร้อมกันแดนกลางวาง ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยร์ค เล่นกับโธมัส เดลานีย์เหมือนเดิม แผงเกมรุกดาวรุ่งอย่าง มิคเกล ดัมส์การ์ด ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นน่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงประสานงานกับ มาร์ติน เบรธเวต และยุฟซุฟ โพลเซ่น
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมาแค่ครั้งเดียวเป็นเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2012 ที่สนามแห่งนี้ พาร์เค่น สเตเดี้ยมปรากฏว่า รัสเซีย สามารถบุกมาเอาชนะไปได้ 2-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี