อิตาลีใต้การนำของกุนซือรูปหล่อ โรแบร์โต้ มันชินี่ โชว์ความเหนือชั้นและสุดยอดในเกมรับเหนียวแน่นไม่เสียประตูต่อเนื่องกันยาวนานกว่า1,000 นาที เอาชนะทีมมังกรแดงเวลส์ 1-0 ในนัดล่าสุดในยูโร 2020 กลุ่มเอที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ในวันที่20 มิ.ย.2564 การชนะเวลส์ 1-0 จากประตูของ มัตเตโอ เปสซีน่าเป็นชัยชนะนัดที่ 11 ติดต่อกันและไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว โดยประตูล่าสุดที่โดนยิงเกิดขึ้นในเกมเสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1 ที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็คยิงตีเสมอให้ดัตช์เมื่อต.ค.2563 ทำให้ตอนนี้อิตาลีไม่เสียประตู1,054 นาทีติดต่อกัน อิตาลี่ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังไม่แพ้ทีมใดมา 30 นัดติดกัน เป็นสถิติยาวนานที่สุดเท่าผลงานของยุควิตตอริโน่ ปอซโซ่ ที่ไม่แพ้ใคร 30 นัดติดระหว่างปี 1935 ถึง 1939ซึ่งยุคนั้นอิตาลี่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1934 และ1938 อิตาลี่แพ้หนสุดท้ายต่อแชมป์ยูโร 2016 ทีมโปรตุเกส 0-1 ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เดือนก.ย. 2561
อิตาลีเข้ารอบเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง แนวรุกมีเฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่, อันเดรีย เบล็อตติ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า เป็น 3 ประสาน เกมช่วงแรก อิตาลี ไม่เร่งเกมมากนัก เล่นตามจังหวะ นาทีที่ 15 อิตาลี ได้ลุ้นจากการลากพาบอลขึ้นมาของวิงแบ็ค เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ ก่อนซัดไกลด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ แดนนี่ วอร์ด นายทวารทีมชาติเวลส์รับเข้าซอง นาทีที่ 39 อิตาลี นำ 1-0 จากฟรีคิกทางฝั่งขวา มาร์โก แวร์รัตติ เปิดบอลต่ำเข้าเขตโทษให้ มัตเตโอ เปสซีน่า กองกลางอตาลันต้าวิ่งมายิงเสาแรก ส่งบอลเข้าเสาไกลเข้าไปนาทีที่ 42 มาร์โก แวร์รัตติ มีโอกาสให้เปสซีน่า สอดมาจิ้มในเขตโทษอีกครั้ง แต่โดนบางเฉียบ ทำให้บอลเปลี่ยนทางไม่มากพอที่จะเข้าครึ่งแรก อิตาลี นำ เวลส์ 1-0
ในครึ่งหลัง อิตาลี ประคองเล่นช้า นาทีที่ 55เวลส์ เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่อ เนธาน อัมปาดู ดาวรุ่งของทีมเข้าบอลช้าไปเหยีบบเท้า เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่ผู้ตัดสินไล่ออกทันทีเวลส์ พลาดโอกาสทองในนาที 75 เมื่อได้ฟรีคิกโจ โรดอน โหม่งชงให้ แกเร็ธ เบล ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายโล่งๆ ในเขตโทษ แต่บอลข้ามคานจบเกม อิตาลีชนะ 1-0 แต่เวลส์ก็ยังจบที่ 2 ของกลุ่ม ได้เข้ารอบ16ทีมตามอิตาลี่ที่มี 9 คะแนนเต็มไป
อีกคู่ในกลุ่มเอ สวิตเซอร์แลนด์แดนนาฬิกาอัดไก่งวง ตุรกีได้ 3-1 ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม, บากู อาเซอร์ไบจาน สวิสให้เซอร์ดาน ชากิรี่ ปั้นเกมอยู่หลัง บรีล เอ็มโบโล่ กับ ฮาริส เซเฟโรวิช ส่วน ตุรกี นำโดย บูรัค ยิลมาซ ดาวเตะลีลล์ออแล็งปิก แชมป์ลีกเอิงปีที่ผ่านมา นาทีที่ 6 สวิตเซอร์แลนด์นำ 1-0 ในจังหวะที่ชากิรี่จ่ายบอลให้ ฮาริส เซเฟโรวิชยิงด้วยซ้ายระยะไกล บอลลอดขา เมริห์ เดมิราล พุ่งเข้าเสาไกล นาทีที่ 26 สวิตเซอร์แลนด์นำ 2-0 ในนาที 26 สตีเว่น ซูเบอร์ จ่ายบอลให้ เซอร์ดาน ชากิรี่ ตั้งป้อมซัดไกลด้วยขวาส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมสวยงาม ตุรกีบุกหนักแต่พลาดได้ประตูตีไข่แตกเพราะยานห์ ซอมเม่อร์ นายทวารสวิสเซฟไว้ได้ถึง 3 ครั้งซ้อนๆครึ่งแรกนักเตะแดนนาฬิกานำ2-0
ในครึ่งหลัง ตุรกีบุกหวังตีไข่แตก ทำประตูไล่ได้ 2-1 ในนาที 62 อีร์ฟาน คาน คาห์เวซี่ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนโยกแล้วยิงด้วยซ้ายส่งบอลลอยเสียบมุมสามเหลี่ยม จนนาทีที่68 สวิตเซอร์แลนด์ ยิงหนีเป็น 3-1จากสตีเว่น ซูเบอร์ จ่ายบอลโค้งเข้าเขตโทษไปถึง เซอร์ดาน ชากิรี่ วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้นๆ เข้าไป เป็นประตูที่ 2 ของดาวเตะลิเวอร์พูลในนัดนี้จบเกม สวิตเซอร์แลนด์ชนะตุรกี 3-1 มี 4 คะแนนเท่าเวลส์ แต่ประตูได้เสียเป็นรองเลยจบที่ 3 ต้องลุ้นกับอันดับ 3 ของกลุ่มอื่นว่าจะได้เข้ารอบ16ทีมหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี