ปีศาจแดงเบลเยียมทีมอันดับ1จากฟีฟ่าแรงกิ้งรักษาสถิติชนะอีกครั้งอัดฟินแลนด์ 2-0 ทำให้ฟินแลนด์ไปอยู่ที่ 3 ของตารางต้องลุ้นเข้ารอบในฟุตบอลยูโร 2020 กลุ่ม บีเมื่อกลางดึกของวันที่ 21 มิ.ย.2564 ที่สนามเครสคอฟสกี้ สเตเดี้ยมนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แมตซ์นี้โรแบร์โต มาร์ติเนซโค้ชชาวสเปนปรับหลายตำแหน่งแต่แนวรุกส่ง เควิน เดอ บรอยน์ และ เอแด็น อาซาร์ มาปั้นเกมหนุนโรเมลู ลูกากู 20 นาทีแรก ทั้ง2ทีมไม่มีโอกาสทำประตูได้เลย เบลเยียมจะครองบอลได้มากกว่าก็ตามฟินแลนด์ตั้งเกมรับกันได้ดี หมดครึ่งแรกทำอะไรไม่ได้เสมอแบบโนสกอร์ 0-0
กลับมาครึ่งหลัง เบลเยียมไม่มีเปลี่ยนตัวแม้ เอแด็น อาซาร์ จะมีอาการบาดเจ็บในท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 55 เบลเยียมได้ยิงจาก นาเซอร์ ชาดลี่ ที่ซัดด้วยขวาเขตโทษแต่บอลตรงตัว ลูคัส ฮราเด็คกี้ นาทีที่63 เบลเยียม ได้ยิงอีกจาก เอแด็น อาซาร์ พลิกยิงในเขตโทษแต่บอลยังตรงตัว ลูคัส ฮราเด็คกี้ รับเข้าซองได้ นาทีที่65เบลเยียม ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะพลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษของโรเมลู ลูกากู แต่ไปเช็กวีเออาร์ก่อนผู้ตัดสินชี้ขาดว่า ลูกากู ล้ำหน้า ถึงนาทีที่ 75 เบลเยียมนำ 1-0 ได้จากลูกเตะมุมที่ โธมัส แฟร์มาเล่น โขกลงพื้นชนเสา บอลเด้งโดนมือ ลูคัส ฮราเด็คกี้ ก่อนเด้งเข้าประตูไป ฮราเด็คกี้ควักออกมาแต่บอลก็ข้ามเส้นแล้ว นาทีที่81สกอร์เป็น 2-0 เมื่อ เดอ บรอยน์ จ่ายให้ โรเมลู ลูกากู จับแล้วพลิกยิงด้วยขวาส่งบอลเข้าประตูไปจบเกม เบลเยียมคว้าชัยชนะ 3 นัดมี9แต้มฟินแลนด์ร่วงไปที่ 3 ต้องลุ้นว่าจะเข้ารอบหรือไม่
อีกคู่ระหว่างโคนมเดนมาร์กอดีตแชมป์1สมัยพบหมีขาวรัสเซียอดีตแชมป์เช่นกันที่สนามพาร์เค่น สเตเดี้ยม,นครโคเปนเฮเก้น โอกาสลุ้นครั้งแรกเป็นรัสเซียได้ก่อนจากจังหวะเลี้ยงลุยเองของ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ที่เข้าถึงเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาแต่บอลตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ป้องกันเอาไว้ได้ นาทีที่ 38 โคนมได้เฮเป็นฝ่ายนำ 1-0 จากจังหวะที่ มิคเคล ดัมส์การ์ด ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนโยกแล้วปั่นด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายสวยงาม จบครึ่งแรก เดนมาร์กขึ้นนำ1-0ครึ่งหลังนาทีที่ 59 เดนมาร์ก ได้ส้มหล่นทำประตู 2-0 เมื่อ โรมัน ซ็อบนิน จ่ายคืนหลังไม่ดีเป็นส่งบอลให้ ยุสซุฟ โพลเซ่น ยิงด้วยซ้ายเข้าไป นาทีที่ 69 รัสเซียได้จุดโทษในจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ ตัวสำรองถูกยานนิค เวสเตอร์การ์ดทำฟาวล์ อาร์เต็ม ซิวบายิงผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล สกอร์กลับมา 2-1 เดนมาร์กหนีเป็น 3-1 ในนาที 79 จากจังหวะรัวบุกเป็นชุด อันเดรียส คริสเตนเซ่น โหม่งลูกเตะมุมติดเซฟ มัตเวฟ ซาโฟนอฟ ออกหลัง จากจังหวะเตะมุมอีกรอบ มาร์ติน เบรธเวท ได้โหม่งในเขตโทษติดเซฟ ซิมง เคียร์ ตามซ้ำติดอีก บอลเด้งออกมาหน้าเขตโทษ อันเดรียส คริสเตนเซ่นวิ่งมากดเต็มหลังเท้าส่งบอลพุ่งเสียบตาข่าย นาทีที่82 สกอร์ไหลเป็น 4-1 เดนมาร์กโต้กลับ ปิแอร์เอมิล ฮอยเบียร์ก พลิกบอลผ่านกลางสนามมาได้ก่อนไหลให้ โยอาคิม เมห์เล่เลี้ยงดึงจังหวะก่อนยิงด้วยขวาเข้าเสาเฉียบขาดจบเกมเดนมาร์กชนะรัสเซีย 4-1 ได้รองแชมป์กลุ่มผ่านเข้ารอบ16ทีม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี